ที่ทำงานมีพนักงาน 4 คน รวมเจ้านาย อีก 3 เป็น 7 คนครับ งานนี้จะไม่ขอพูดถึงเจ้านายเพราะแต่ละคนมีลักษณะนิสัยที่เป็นของตัวเอง แต่ไม่มีผลกระทบกับงานหรือสิ่งใดเลย แถมยังช่วยสนับสนุนงานของพวกเราแต่ละคนได้เยี่ยมยอดมากครับ 

ตำแหน่งพนักงานเรามีกัน 4 คน เป็นออฟฟิศเล็กๆ 1 ในนั้นจากที่สังเกตคือเป็นคนที่มีปัญหากับการเข้าสังคม กังวลเรื่องการวางตัว หรือวิธีการสื่อสารมากๆ โดยขอบเขตงานแล้ว เรามีงานที่เชื่อมโยงกันแค่ไม่กี่อย่าง เอาเข้าจริงไม่ต้องสื่อสารกันเลยยังได้ แต่คงเป็นเรื่องประหลาดมากๆถ้าหากทำงานกันทุกวันแล้วไม่คุยกันเลย

เธอทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและบัญชีต่างๆ สามีของเธอเป็น Outsource ให้กับออฟฟิศ ซึ่งเขาอยู่ Under เราอีกที
ทุกครั้งเวลาทำงาน เราต้องวางแผน จัดการเวลา ให้ทุกๆคนที่ทำงานสามารถทำงานของตัวเองได้สะดวก จัดการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่าง Process งาน

ที่ออฟฟิศเราให้ค่าจ้างเขาเป็นค่าทำของต่อชิ้น เขาสามารถใช้รถออฟฟิศ+ค่าน้ำมัน ในการปฏิบัติงานทุกครั้ง เรียกง่ายๆว่า ลงทุนซื้อเครื่องมืออย่างเดียว ที่เหลือก็ออกแรง เพราะวัตถุดิบหรือต้นทุนในการทำงาน ออฟฟิศแบกรับทั้งหมด บางวันเราต้องออกไปทำงานข้างนอกก็ต้องขึ้นแท๊กซี่ไป เพราะใช้รถวันเดียวกัน เรื่องที่พีคก็คือ ภรรยาของเขาชอบเข้ามาก้าวก่ายงานในขอบเขตของเรา กลัวว่าสามีจะลำบาก เวลาเกิดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับงานตรงนั้น เธอจะแทรกแซง คอยโทรจิกสามีให้ทำแบบนั้นแบบนี้ตามแต่ตัวเองต้องการ ออกความคิดเห็นตลอดเวลา(แสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ควรดูขอบเขตและกาละเทศะ) จนเราไม่กล้าเอ่ยปากปรึกษาเรื่องงานกันในออฟฟิศเลย เพราะกลัวจะพูดถึงงานสามีพี่แกเข้า แล้วจะถูกแทรกแซงโดยด้วยคำถามที่คอยจะหาแต่ทางตันให้ 

เราเครียดมากครับ ยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้เป็นคนโมโหง่าย(แต่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนนะครับ) ใครทำไม่ถูกเวลาไปจัดการงานภาคสนาม ผมจะโมโหเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเหมือนตอนนี้เราไม่สามารถแชร์ข้อมูลต่างๆเพื่อระดมสมองในการหาทางแก้ไขเหมือนแต่ก่อนได้ เราต้องหาทางเดินของเราดุ่ยๆของเราคนเดียว 

ทุกวันนี้ไม่คุยกันนะครับ แต่ผมอยู่ได้และพร้อมจะคุยด้วยหากเป็นเรื่องงาน คิดว่าแยกแยะได้แบบไม่มีปัญหา(ปัญหาคือเขาไม่แยกแยะ)

เกี่ยวไหมครับ ที่เขาทั้งคู่เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ มีกันแค่สองคน แถมยังมีปัญหาด้านการเข้าสังคมอีก เลยเป็นปัญหา

ปล. รถเละมาก น้องที่ออฟฟิศไม่กล้าใช้เลย