วันนี้ว่ากันด้วยเรื่องความแตกต่างของ“สาเก-Sake(鮭)”กับ“แซลมอน-サーモン”ว่าระหว่างปลา 2 ชนิดนี้มันแตกต่างกันยังไง?
ผมเชื่อว่าแม่บ้าน และพ่อบ้านที่ทำอาหาร หลายคนต้องเคยสับสนกันมาบ้างแล้วแหล่ะว่าระหว่าง“สาเก”กับ“แซลมอน”มันแตกต่างกันยังไง? ทั้งๆที่ดูแล้วหน้าตาก็เหมือนกันเลย และผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สงสัยมาโดยตลอดครับ จึงได้เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับปลาสองชนิดนี้ และอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมหาเริ่มข้อมูลอย่างจริงจังก็เพราะว่าแฟนผมเขาเป็นคนที่ชอบทานแซลมอนมากๆ และเธอก็เป็นคนที่ขี้สงสัยมากๆ เหตุผลนี่แหละที่ทำให้ผมต้องหาข้อมูลเอาไว้เผื่อว่าเธอถามขึ้นมาจะได้ตอบได้ 555
เอาล่ะ! มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ทุกคนสังเกตุกันไหมครับว่า ในร้านซูชิจะไม่เขียนชื่อเมนูปลาแซลมอนสด ว่า“สาเก”
และเช่นเดียวกันกับร้านอาหารที่ขายปลาแซลมอนย่าง หรือหม้อไฟ จะไม่ใช่คำว่า“แซลมอน”
ซึ่งจริงๆแล้วในภาษาญี่ปุ่นทั้ง“สาเก-Sake(鮭)”และ“แซลมอน-サーモン”นั้นคือปลาชนิดเดียวกัน เพียงแต่ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นจะไม่ทานปลาสาเก หรือปลาแซลมอนตามธรรมชาติกันแบบสดๆ เนื่องจากปลาที่เติบโตตามธรรมชาตินั้น พวกเขากินกุ้งเคยเป็นอาหาร ซึ่งกุ้งเคยก็กิน Anisakis หรือพยาธิอะนิซาคิสเป็นอาหารมาอีกที เมื่อทานเข้าไปแบบสดๆ อาจจะทำให้เกิดอาหารปวดท้อง หรือท้องเสียได้ ดังนั้น“สาเก”จึงต้องนำไปผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคเสียก่อน และในขณะเดียวกัน“ปลาแซลมอนที่ทานสด”กันนั้น ไม่ว่าจะเป็นซูชิ หรือซาชิมิ รู้หรือไม่ครับว่าล้วนแต่เป็นแซลมอนที่เพาะเลี้ยงทั้งนั้น เพราะในอาหารที่ใช้เลี้ยง ทั้งอาหารเม็ด และโปรตีนจากพืชนั้นไม่มีปรสิตปนอยู่ จึงสามารถทานแบบสดๆได้อย่างปลอดภัย
เพิ่มเติมอีกนิด
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะได้ชื่อว่าเป็น“แดนปลาดิบ”ก็จริง ไม่ว่าจะเป็นมะกุโระ ซาบะ ฮะมะจิ อะนะโงะ และอื่นๆอีกมากมาย
แต่เชื่อไหมว่าครับว่าปลาแซลมอนดิบนั้น คนญี่ปุ่นพึ่งจะเริ่มทานเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วเองนะ
เนื่องจากมีชาวนอร์เวย์คนหนึ่งอยากจะให้คนญี่ปุ่นรู้ว่าปลาแซลมอนกันทานสดได้เหมือนกัน
จึงได้หอบปลาแซลมอนที่เลี้ยงในกระชังกลางทะเล ข้ามทวีปมาเสนอขายตามร้านซูชิสายพานเพื่อเปิดตลาดในต่างแดน
ทำให้คนญี่ปุ่นได้รู้ว่าเนื้อแซลมอนสดนั้นมีรสหวาน และอร่อยแค่ไหน และตั้งแต่นั้นมา “ซูชิปลาแซลมอน” จึงกลายเป็นเมนูยอดฮิตมาจนถึงปัจจุบัน
สรุปว่า “สาเก-Sake(鮭) = ต้องผ่านความร้อน” “แซลมอน-サーモン = ทานดิบได้”
และทั้งสองเป็นเพียงชื่อที่คนญี่ปุ่นใช้เรียกเพื่อแบ่งแยกวิธีบริโภคเท่านั้นเองครับ เพราะปลาในวงศ์แซลมอนนั้นมีหลายสปีชีส์มาก
ซึ่งแซลมอนสำหรับประกอบอาหารที่ขายตามท้องตลาดคือ ปลาแซลมอนชัม (Chum Salmon)
และแซลมอนที่สามารถทานดิบได้ส่วนใหญ่จะเป็น Trout Salmon ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแซลมอนที่มาจากการเพาะเลี้ยง
***ตัวอย่างภาพ Anisakis หรือพยาธิอะนิซาคิส***
สปอยไว้เผื่อใครไม่อยากเห็น 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
********************************************************************
สุดท้ายนี้หากใครชอบ อยากติดตามผลงานของผม และอยากรู้เรื่องอื่นๆเกี่ยวกับญี่ปุ่น
สามารถติดตามได้ที่เพจ
Facebook fanpage : Update Japan
http://www.facebook.com/updatejapan/
Instagram : @updatejapan
สาระเน้นๆ>>>แซลมอนที่ญี่ปุ่นทำไมเรียกได้สองแบบ แตกต่างกันยังไง?
เอาล่ะ! มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ทุกคนสังเกตุกันไหมครับว่า ในร้านซูชิจะไม่เขียนชื่อเมนูปลาแซลมอนสด ว่า“สาเก”
ซึ่งจริงๆแล้วในภาษาญี่ปุ่นทั้ง“สาเก-Sake(鮭)”และ“แซลมอน-サーモン”นั้นคือปลาชนิดเดียวกัน เพียงแต่ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นจะไม่ทานปลาสาเก หรือปลาแซลมอนตามธรรมชาติกันแบบสดๆ เนื่องจากปลาที่เติบโตตามธรรมชาตินั้น พวกเขากินกุ้งเคยเป็นอาหาร ซึ่งกุ้งเคยก็กิน Anisakis หรือพยาธิอะนิซาคิสเป็นอาหารมาอีกที เมื่อทานเข้าไปแบบสดๆ อาจจะทำให้เกิดอาหารปวดท้อง หรือท้องเสียได้ ดังนั้น“สาเก”จึงต้องนำไปผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคเสียก่อน และในขณะเดียวกัน“ปลาแซลมอนที่ทานสด”กันนั้น ไม่ว่าจะเป็นซูชิ หรือซาชิมิ รู้หรือไม่ครับว่าล้วนแต่เป็นแซลมอนที่เพาะเลี้ยงทั้งนั้น เพราะในอาหารที่ใช้เลี้ยง ทั้งอาหารเม็ด และโปรตีนจากพืชนั้นไม่มีปรสิตปนอยู่ จึงสามารถทานแบบสดๆได้อย่างปลอดภัย
เพิ่มเติมอีกนิด
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะได้ชื่อว่าเป็น“แดนปลาดิบ”ก็จริง ไม่ว่าจะเป็นมะกุโระ ซาบะ ฮะมะจิ อะนะโงะ และอื่นๆอีกมากมาย
และทั้งสองเป็นเพียงชื่อที่คนญี่ปุ่นใช้เรียกเพื่อแบ่งแยกวิธีบริโภคเท่านั้นเองครับ เพราะปลาในวงศ์แซลมอนนั้นมีหลายสปีชีส์มาก
สุดท้ายนี้หากใครชอบ อยากติดตามผลงานของผม และอยากรู้เรื่องอื่นๆเกี่ยวกับญี่ปุ่น
สามารถติดตามได้ที่เพจ
Facebook fanpage : Update Japan
http://www.facebook.com/updatejapan/
Instagram : @updatejapan