ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นลูกคนเดียว ปฎิบัติตัวตามครรลองของสังคมมาตลอด แล้วคิดว่าแม่จะภูมิใจ และไว้ใจ ผลสุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อตอนเรียนมหาวิยาลัย ปี 3 พอเราเสีย ทำให้แม่อยู่คนเดียว เพราะเราก็อยู่หอ พอเรียนจบก็เข้าทำงานเลย ต้องพักอยู่หออีก ความเครียด เรื่องแม่คือเริ่มจากนั้น แม่เริ่มระบายทุกอย่างที่ตัวเองคิดมาใส่หัวเรา เริ่มอยากให้เรามาอยู่บ้าน อยากทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ เริ่มอยากให้ใช้ชีวิตตามที่แม่ต้องการเท่านั้นเพราะเห็นว่าดีที่สุด โดยไม่คิดถึงว่าเราจะชอบไหม อยากให้เราอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา พอเรามีแฟนก็ไม่พอใจ แสดงอาการน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด จนเราต้องโกหกทุกครั้งที่ไปไหนกับแฟน เพราะไม่อยากให้แม่น้อยใจว่าโดนแย่งความรัก ชีวิตเราเริ่มอึดอัด ระหว่างทำงานจนเลิกงาน ก็โดนแม่โทรตามให้กลับหอทุก 1-2 ชั่วโมง บางทีเราเลิกงานก็นั่งคุยนั่งเม้ากับที่ทำงาน บางทีก็ไปหาแฟน บางทีก็ไปช๊อปปิ้ง แต่คือเหมือนทุกครั้ง ต้องโดนโทรตามหรือถามตลอดว่า อยู่ที่ไหน ไปทำอะไร กลับเมื่อไหร่ บางครั้งเราต้องโกหกอย่างที่บอก ซึ่งอึดอัดมาก เหมือนไม่เป็นอิสระ อยากรู้ต้องทำยังไง แต่ไม่ใช่เราทิ้งแม่ให้อยู่บ้านคนเดียวนะ เงิน เราก็ให้กับมือทุกเดือน วันไหนหยุดก็กลับมานอนบ้าน บางทีไม่หยุดก็กลับมานอนและยอมเดินทางไกล ไปทำงานบ่อยๆ เราทำขนาดนี้แล้วแม่ยังไม่พออีกหรอ ต้องรู้ทุกการเป็นไปของเราเลยหรอ คือทุกการเคลื่อนไหวจริงๆ ขยับตัวทีนึงนี่ต้องรู้หมด คืออึดอัดมาก เครียดด้วย บอกก่อนเลยว่า ชีวิต หน้าที่การงาน สังคม ทุกอย่างเราดีหมด ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวที่เครียด ทำให้ไม่มีความสุขเลย อยากรู้ว่ามีใครเป็นเหมือราเราไหม ถ้าเป็นแล้วทำยังไง คือไม่ใช่ไม่รักแม่แต่รำคาญเฉยๆ ทุกครั้งที่เราบ่นหรือบอกแม่ว่าไม่ต้องติดตามขนาดนี้ก็ได้ แม่จะน้อยใจ แล้วใช้คำว่า "เป็นห่วง" ทุกครั้ง แต่เรารู้สึกเหมือนเป็นข้ออ้างของแม่ในการระบายความเครียดต่างหากเพราะแม่ไม่สามารถจัดการกับความคิดตัวเองได้แล้วมาระบายที่เราครั้งนึงเคยทะเลาะกันหนักมาก ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม่เหมือนคิดอะไรมาแล้วพูดเลยโดยไม่สนว่าเราจะรู้สึกอย่างไร หรือมีทางเลือกอะไร พูดง่ายๆคือคำพูดบางคำพูดโดยไม่คิดถึงจิตใจคนฟังเลย แล้วพอเราว่าว่าทำไมไม่คิดก่อน แม่ก็บอกว่าเป็นห่วงไงถึงพูด แล้วพอถามว่าพูดแล้วเราต้องทำยังไง แม่ตอบไม่ได้ เหมือนไม่มีทางเลือกให้เรา เหมือนแค่อยากพูดเพราะอยากระบายอารมณ์ ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นพ่อที่ทำหน้าที่นี้ แต่พอพ่อเสียดันเป็นเราแทนที่รับกรรมต่อ ซึ่งกรณีของพ่อมันง่ายเพราะเป็นวัยใกล้เคียงกันจะเข้าใจกัน ต่างจากเราซึ่งเป็นวัยรุ่น คือถ้าในวัยรุ่นสิ่งที่แม่ทำคือ "น่ารำคาญ" ถ้าในวัยแม่ คืออะไรไม่รู้ เหงา หรือเป็นห่วงเกินไป หรืออะไรเราไม่ใช่วัยแม่เลยไม่รู้ แล้วยังมีอีก แม่เราเป็นควบคุมอารมณ์หรืองสงบสติอารมณ์ไม่เป็นเลย ถ้ามีใครทำให้ไม่ชอบใจจะด่าโดยไม่สนว่าเป็นใคร หรือเค้ามีเจตนาอะไร ถ้าไม่ถูกใจคือด่าเลย โดนเค้าสวนบางทีก็เงิบกลับก็มีแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งเราอายมากที่แม่ทำเหมือนเป็นมนุษย์ป้าคนนึงที่เราเกลียดอ่ะ แต่ทำไงได้ก็แม่เรานิ ประเด็นคือ ผมเครียดเรื่องแม่มากๆ จนกลัวเป็นโรคซึมเศร้า แล้วก็โดยส่วนตัวผมไม่ชอบการเครียดที่สุด ผมชอบปล่อยวาง ชิลๆกับทุกสิ่ง แต่นี่คือแม่ไง ผใจะปล่อยวางยังไง ให้หูทวนลมเวลาแม่บ่น ให้ไม่รับสายเวลาแม่โทร ให้ไม่หงุดหงิดเวลาแม่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เราคิดว่าทำได้ระ แต่เหมือนขาดอะไรสักอย่างอยู่ แม่ไม่เคยไว้ใจเลย ทั้งที่เราทำดีมาตลอด ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด บุหรี่ แต่เหล้าเบียร์มีบ้าง พูดง่ายๆคือไม่เคยทำตัวเสเพล หรือทำให้ผิดหวังเลย อยู่ในครรลองมาตลอดแล้วทำไมกลังจากาำเร็จการศึกษา ผมถึงได้ไม่มีความสุขในชีวิตเลย ทั้งที่หน้าที่การงานดี สังคมดี ชีวิตดีเกือบทุกอย่าง ทำไม แม่คนอื่นเป็นแบบนี้กันบ้างไหม ผมเครียดจนไม่ไหวแล้วเนี่ย บางทีก็อยากตายไปเลยจะได้จบๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยตามจิกเรา คิดดูนะขนาดแม่ตามจิกขนาดนี้ แล้วถ้าแฟนเราตามจิกอีก ชีวิตเราไม่แย่ไปกว่านี้อีกหรอ ต้องการอิสระมากๆ บางทีก็คิดนะ ลองไปเสพยา ติดบุหรี่ ติดเหล้า ให้มันดิ่งเหวไปเลย แล้วค่อยกลับตัวใหม่ แม่จะดีขึ้นไหม จะคอยตามจิกเราอีกไหม จะไว้ใจเราไหม เพราะเรากลับมาจากนรกได้ ผิดกับปัจจุบันที่อยู่บนสวรรค์มาตลอด รอเวลาตกนรกเท่านั้นเอง
รำคาญแม่ แม่ขี้บ่นมาก ทัศนคติติดลบ ทำไงดี?