สวัสดีค่ะ เราเป็นโรคกระดูกสันหลังคด ซึ่งเราเป็นตั้งแต่ช่วงมัธยมแล้ว เพราะเราสังเกตตัวเอง เราพบว่า เอวสองข้างของเรา คอดไม่เท่ากันค่ะ แล้วขาไม่เท่ากัน ซึ่งเคยมีคนทัก แต่เราไม่รู้ว่า นี่คืออาการของโรคกระดูกสันหลังคด แต่เรายังไม่มีอาการเจ็บ หรือปวดแต่อย่างใด เราจึงปล่อยไปแบบนั้น เพราะความเป็นเด็ก และไม่เคยศึกษาหาข้อมูล จนกระทั่งเราอายุ23ปี เรามีอาการเจ็บหน้าอก เราไปหาหมอ X-rayดู พบว่า กระดูกสันหลังคด... เราเลยไปพบหมออีกรอบ โดยเป็นคุณหมอเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ซึ่งหมอบอกว่า กระดูกเราคดเยอะเลย ประมาณ 41องศา ซึ่งถือว่าเยอะ เราเลยถามถึงการรักษา คุณหมอบอกว่า ไม่มี เพราะกระดูกเราโตเต็มที่แล้ว ไม่สามารถที่จะใส่เสื้อเกราะดัดหลังได้ แต่เราเคยศึกษา ตามยูทูปหารือตามเว็ปต่างๆ ที่มีคนเคยลงเกี่ยวกับโรคนี้ เราเห็นเขาไปทำกายภาพบำบัด และออกกำลังกาย แก้กระดูกสันหลังคด เราเลยบอกคุณหมอไป แต่คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นความจริง... เพราะกระดูกเราคดไปแล้ว จะทำให้กลับมาเป็นแบบเดิมนั้น ไม่ได้ ก็เหมือนแขนเรา ถ้ามันคดไปแล้ว มันก็ดัดกลับมาไม่ได้ ซึ่งเป็นคำตอบที่เราเครียดมาก นอนร้องไห้ไปรอบนึง สิ่งที่ทำได้คือ คุณหมอนัด X-ray อีก6เดือนข้างหน้า เพื่อดูความคด ว่ามันคดเพิ่มมั้ย เท่าเดิมหรือเปล่า ตอนนี้คืออยู่ในช่วงเฝ้าระวัง แค่อย่าให้มันคดไปมากกว่าเดิม แต่ยังไม่ถึงขั้นผ่าตัด เพราะถ้าคดถึง 55องศาขึ้นไป ก็ถือต้องผ่าตัด แต่ของเราอีกนิดเดียวก็เข้าใกล้ 55องศาแล้ว
ค่อนข้างจะเครียดค่ะ เพราะผลกระทบที่เราได้รับคือ
1. ถ้านั่งนานเราปวดหลัง ปวดแถวๆที่กระดูกมันคดไปข้างนั้น
2. เจ็บหน้าอก บางทีก็เจ็บแถวซี่โครง ( เคยอ่านในเว็ปไซต์ของรพ.หลายๆแห่ง นี่คือผลกระทบของโรคนี้ เพราะมันจะไปกดทับ ทำให้ปอด และหัวใจ ทำงานไม่เต็มที่ และเราชอบเจ็บข้างซ้าย ) เราเห็นผล X-rayของตัวเอง กระดูกคดไปทางซ้ายค่ะ แต่คุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แล้วบอกว่า ที่เราเจ็บหน้าอก น่าจะไม่เกี่ยวกัน
3. หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย ( เราเป็นภูมิแพ้ คัดจมูก หายใจไม่ออก เราเป็นบ่อย และมีสองครั้ง ที่เราเกิดการวิตกกังวล คือเราเป็นหวัด ตื่นกลางดึกเพราะหายใจไม่ได้ ลุกขึ้นนั่งก็แล้ว พยายามหายใจเข้าก็แล้ว แต่เหมือนอากาศเข้าไปนิดเดียว ทันใดนั้นเรารู้สึกใจเต้นแรง มือสั่น เหงื่อออก และคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แต่เราก็เรียกสติกลับมาได้ค่ะ เราแทบจะเป็นบ้า )
4. เสียบุคลิกค่ะ ขาดความมั่นใจ
ฟังดูอาจเหมือนไม่เยอะนะคะ แต่สำหรับเรา มันเป็นปัญหาที่ทำให้เราเครียดได้มากเลย มันค่อนข้างส่งผลหลายอย่าง เราอยากจะขอความช่วยเหลือ ใครเคยเป็น หรือมีคนรอบข้างเป็น มีทางออกอื่นอีกมั้ยคะ รบกวนช่วยแนะนำให้เราทีค่ะ ***เพราะเราเพิ่งจะมานึกได้ถึงคำพูดของคุณหมอว่า กระดูกมันคดไปแล้ว มันดัดกลับมาไม่ได้ ก็เหมือนแขน ถ้าคดไปแล้ว จะดัดกลับมายังไง แต่ทำไมกระดูกถึงสามารถที่จะคดเพิ่มได้คะ หรือเป็นเพราะการที่เรานั่งผิดท่า นอนผิดท่า หรือทำอะไรผิดท่า เลยสามารถทำให้กระดูกมันคดเพิ่มได้? แต่ทำไมถ้าจะดัดกลับมา ถึงทำไม่ได้ เพราะตอนนั่งคุยกับคุณหมอ เจอคำตอบแบบนี้เข้าไป เรารู้สึกเครียด ในหัวกำลังคิดอะไรเยอะแยะ เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้
เรารบกวนผู้รู้จริง หรือผู้ที่เป็นโรคนี้เข้ามาตอบทีนะคะ เพราะกว่าจะได้ไปพบคุณหมออีกที ปีหน้าเลยค่ะ
กระดูกสันหลังคด...
ค่อนข้างจะเครียดค่ะ เพราะผลกระทบที่เราได้รับคือ
1. ถ้านั่งนานเราปวดหลัง ปวดแถวๆที่กระดูกมันคดไปข้างนั้น
2. เจ็บหน้าอก บางทีก็เจ็บแถวซี่โครง ( เคยอ่านในเว็ปไซต์ของรพ.หลายๆแห่ง นี่คือผลกระทบของโรคนี้ เพราะมันจะไปกดทับ ทำให้ปอด และหัวใจ ทำงานไม่เต็มที่ และเราชอบเจ็บข้างซ้าย ) เราเห็นผล X-rayของตัวเอง กระดูกคดไปทางซ้ายค่ะ แต่คุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แล้วบอกว่า ที่เราเจ็บหน้าอก น่าจะไม่เกี่ยวกัน
3. หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย ( เราเป็นภูมิแพ้ คัดจมูก หายใจไม่ออก เราเป็นบ่อย และมีสองครั้ง ที่เราเกิดการวิตกกังวล คือเราเป็นหวัด ตื่นกลางดึกเพราะหายใจไม่ได้ ลุกขึ้นนั่งก็แล้ว พยายามหายใจเข้าก็แล้ว แต่เหมือนอากาศเข้าไปนิดเดียว ทันใดนั้นเรารู้สึกใจเต้นแรง มือสั่น เหงื่อออก และคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แต่เราก็เรียกสติกลับมาได้ค่ะ เราแทบจะเป็นบ้า )
4. เสียบุคลิกค่ะ ขาดความมั่นใจ
ฟังดูอาจเหมือนไม่เยอะนะคะ แต่สำหรับเรา มันเป็นปัญหาที่ทำให้เราเครียดได้มากเลย มันค่อนข้างส่งผลหลายอย่าง เราอยากจะขอความช่วยเหลือ ใครเคยเป็น หรือมีคนรอบข้างเป็น มีทางออกอื่นอีกมั้ยคะ รบกวนช่วยแนะนำให้เราทีค่ะ ***เพราะเราเพิ่งจะมานึกได้ถึงคำพูดของคุณหมอว่า กระดูกมันคดไปแล้ว มันดัดกลับมาไม่ได้ ก็เหมือนแขน ถ้าคดไปแล้ว จะดัดกลับมายังไง แต่ทำไมกระดูกถึงสามารถที่จะคดเพิ่มได้คะ หรือเป็นเพราะการที่เรานั่งผิดท่า นอนผิดท่า หรือทำอะไรผิดท่า เลยสามารถทำให้กระดูกมันคดเพิ่มได้? แต่ทำไมถ้าจะดัดกลับมา ถึงทำไม่ได้ เพราะตอนนั่งคุยกับคุณหมอ เจอคำตอบแบบนี้เข้าไป เรารู้สึกเครียด ในหัวกำลังคิดอะไรเยอะแยะ เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้
เรารบกวนผู้รู้จริง หรือผู้ที่เป็นโรคนี้เข้ามาตอบทีนะคะ เพราะกว่าจะได้ไปพบคุณหมออีกที ปีหน้าเลยค่ะ