ธรรมนัส ดังทั่วโลก! หนังสือพิมพ์อังกฤษ ตีข่าวประเด็นร้อนอีก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1668455
จากกรณีหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ ตีข่าว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ว่าเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดและต้องถูกจำคุกนานถึง 4 ปี ก่อนที่จะต้องเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
ซึ่งถูกขุดคุ้ยว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับการยอมรับ โดยเพจดังอย่าง
CSI LA นั้น
ล่าสุด
หนังสือพิมพ์ไทมส์ ออฟ ลอนดอน ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวการตกเป็นข่าวอื้อฉาวของ ร.อ.ธรรมนัส จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยรายงานประวัติของร.อ.
ธรรมนัส รวมไปถึงกรณีรายงานข่าวของสื่ออสเตรเลียประเด็นคดียาเสพติด
และการชี้แจงของร.อ.ธรรมนัส ที่ระบุว่าตนถูกจับกุมในคดีเล็กน้อย เนื่อจากบังเอิญไปอยู่ในบ้านของผู้ค้ายาเสพติดขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้น และว่าตนถูกจำคุกเพียง 8 เดือนก่อนได้รับการปล่อยตัวและอาศัยและทำงานในซิดนีย์ ออสเตรเลีย เป็นเวลานาน 4 ปี
การตีข่าวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสื่อทั่วโลกแล้วในเวลานี้
JJNY : ธรรมนัส ดังทั่วโลก! หนังสือพิมพ์อังกฤษ ตีข่าวประเด็นร้อนอีก/50 ส.ส.พปชร.มาแล้ว ยื่นตั้งกมธ.ศึกษาแก้รธน.ฯ
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1668455
จากกรณีหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ ตีข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ว่าเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดและต้องถูกจำคุกนานถึง 4 ปี ก่อนที่จะต้องเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
ซึ่งถูกขุดคุ้ยว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับการยอมรับ โดยเพจดังอย่าง CSI LA นั้น
ล่าสุด หนังสือพิมพ์ไทมส์ ออฟ ลอนดอน ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวการตกเป็นข่าวอื้อฉาวของ ร.อ.ธรรมนัส จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยรายงานประวัติของร.อ.ธรรมนัส รวมไปถึงกรณีรายงานข่าวของสื่ออสเตรเลียประเด็นคดียาเสพติด
และการชี้แจงของร.อ.ธรรมนัส ที่ระบุว่าตนถูกจับกุมในคดีเล็กน้อย เนื่อจากบังเอิญไปอยู่ในบ้านของผู้ค้ายาเสพติดขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้น และว่าตนถูกจำคุกเพียง 8 เดือนก่อนได้รับการปล่อยตัวและอาศัยและทำงานในซิดนีย์ ออสเตรเลีย เป็นเวลานาน 4 ปี
การตีข่าวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสื่อทั่วโลกแล้วในเวลานี้