[CR] Ricoh GRIII First Impression แบบเวรี่หวนอดีต [Por et more]

ประมาณ 10 ปีที่แล้วผมเคยใช้กล้อง Ricoh GRDII มาก่อน
มันเป็นกล้อง Compact ตัวเล็กๆ สีดำๆ หน้าตาสี่เหลี่ยม ดูป๊อกแป๊ก ไม่ดึงดูดสายตาคน
ผมฝากเพื่อนซื้อจากญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณสองหมื่นเศษ 
ถือว่าแพงมากสำหรับกล้องคอมแพ็คยุคนั้น
ผมเก็บเงินกัดฟันซื้อมา ด้วยประโยคเดียวที่เพื่อนคนนึงบอก

มันคือกล้อง Lomo LC-A เวอร์ชั่นดิจิตอล

ช่วงแรกที่ได้กล้องมา บอกตามตรงเห่อมากครับ
พกติดตัวทุกวัน
จากวันเป็นเดือน
จากเดือนเป็นปี
ด้วยความที่มันเล็ก ผมถ่ายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า
เอาไปร้าน Hippie ที่ข้าวสาร
เอาไปร้าน Cosmic ที่ RCA
เอาไปเที่ยวญี่ปุ่นกับที่ออฟฟิศ
เอาไปถ่ายรูปขึ้น Hi-5 (โห..รู้วัย)
เอาไปถ่ายคลิปสมัครเรียนต่อ
เอาไปเรียนต่อที่สวีเดน
เอาไปถ่ายรูปโปรไฟล์เพื่อนทั้งคลาส
เอาไปถ่ายปาร์ตี้เพื่อนสวีดิชที่เค้าบอกว่า free sex แต่จริงๆ โคดเรียบร้อย
เอาไปทริปยุโรปโง่ๆ

เอาไปถ่ายข้าวแกง
เอาไปเดินมิวเซียม
เอาไปฝึกงานที่ปารีส
เอากลับมาถ่ายแฟนท่ีกลายเป็นภรรยาที่ไทย


//รูปด้านล่างจากกล้อง Ricoh GRDII ครับ//
ผมกับกล้องตัวนี้เอากันไปหลายที่มาก
มากเกินกว่ากล้องตัวไหนๆ ที่เคยใช้มา
ในวันที่ชีวิตมีกล้องแค่ตัวเดียว มันคือกล้องตัวนั้น

ภาพตัดมา มี.ค. 2019
ในวันที่ชีวิต มีกล้องเกินจำเป็นไปมาก
กล้อง Ricoh GRIII ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ผมนั่งกดดูรีวิวทุกคลิปบน YouTube 
นั่งอ่านรีวิวทุกภาษาบนเว็บเท่าที่จะหาได้
โหลดไฟล์ RAW มานั่งลองทำสีเล่นๆ แก้คัน

ผมบอกตัวเองว่า อย่าซื้อ นายมีกล้องเยอะแล้ว
GRIII มันไม่ได้แจ๋วกว่ากล้องตัวอื่นที่นายมีหรอก
โอเค ผมเชื่อคำเตือนของตัวเอง และถ่ายภาพด้วยกล้องที่มีอย่างมีความสุขต่อไป..

ซะที่ไหนละโว้ยยยยย!!
แทบจะทันทีที่รู้ว่า Shopee มี Flash Sale ลดไป 3500.-
ผมก็กดซื้อไปเต็มๆ
พลังอำนาจของเซลล์อยู่เหนือสิ่งใดจริงๆ ครับ

รู้สึกตัวอีกที กล่อง Kerry ที่ภายในมีกล้อง GRIII จากร้าน AV Camera ก็มาอยู่ในมือผม
ด้วยความเห่อ จะแกะเลยก็เสียดาย ถ่ายเก็บไว้หน่อยแล้วกัน
เลยกลายมาเป็นคลิปด้านล่างนี้ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอสำหรับใครที่ขี้เกียจดูขี้หน้าผม ขอเชิญอ่านต่อด้านล่าง แบบเข้าเรื่องจริงๆ ซะทีครับ
==

First Impression :

Part 1 อวย :

01 Spec
Ricoh GRIII คือ Ricoh GRDII ซี๊เก่าผมกลับชาติมาเกิด
มันมีทุกอย่างที่ GRDII มี..
ความเล็ก ที่เล็กลงกว่าเดิมอีก
เลนส์ 28mm
บอดี้สีดำแบบ Low Profile
ถึงตัวจะดูเล็ก แต่น้ำหนักกำลังดี จับแล้วเข้ามือมากๆ ครับ
ปุ่มชัตเตอร์รีๆ แบบเม็ดยา
กริ๊ปหนึบๆ

ใช่ครับ มันมีทุกอย่างที่ GRD3 เพื่อนยากมี ยกเว้นแฟลช!!!
เสียดายมากๆ ที่ตัดแฟลชไป แต่เพื่อแลกกับกันสั่น ซึ่งน่าจะถามกันก่อนว่าอยากได้มั้ย T_T

//ภาพด้านล่างนี่คือต่อแฟลชแยกครับ//

02 Focus
จุดเด่นของ GRIII ที่ถูกพูดถึงจนพรุนแล้ว ผมก็จะพูดอีกครับ 555
มันคือ Snap Focus ครับ มีความคล้าย Zone Focus มากๆ
คือเราเลือกระยะ Focus ไว้ล่วงหน้า เช่น 1m, 1.5m, 2m ยาวไปจนถึง 5m และ infinity
พอยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ปุ๊บ มันก็จะถ่ายปั๊บเลยแบบไม่ต้องเสียเวลา Focus ใหม่
ทำให้เราไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญ หรือตามตำราเรียกว่า Decisive Moment ครับ
ซึ่งเป็นสิ่งที่คนถ่ายรูปสตรีทชอบกันมาก

ความลับ!
จริงๆ แล้วไม่ว่ากล้องตัวไหน ที่ปรับ Manual Focus ได้ ก็สามารถตั้งเป็น Snap Focus ได้เหมือนกันครับ
ตราบใดที่เราเปิด f stop แคบๆ ซัก f8 ขึ้นไป f16 จะดีมาก
แล้วตั้งระยะ Focus ไว้ที่ 3m ภาพจะชัดตั้งแต่ 2m ถึง infinity เลยครับ
เรียกว่าถ่ายหมาปากซอยชัดยันท้ายซอยครับ

ถึงแม้ว่ากล้องตัวไหนก็ Set เป็น Snap Focus ได้ แต่ Feeling มันไม่เหมือนกันครับ
อันนี้เป็นเรื่องของความรู้สึกและ ความชอบส่วนตัวล้วนๆ ครับ
ผมคิดว่า ด้วยน้ำหนัก สัดส่วน ผิวสัมผัส การจัดวางปุ่ม dial และ key ลัดต่างๆ
ทำให้ Ricoh GRIII เป็นกล้องที่ถ่ายสนุกมากๆ เลยเว้ยแกร



03 Sensor
ถ้าหันไปมองกล้องที่ขนาด Sensor ใกล้เคียงกัน คุณจะเจอ Fuji X100F ซึ่งเป็นกล้องที่เวรี่ดีมากๆ ไฟล์งดงามสุดๆ
เผลอๆ จะดีกว่า GRIII หน่อยนึงด้วยซ้ำ แต่มันก็บอดี้ใหญ่กว่าเยอะจนขี้เกียจจะแบกทุกวันครับ
คือ ผมเคยใช้ Fuji X100T ซึ่งรักมาก แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยเธอไป เพราะขี้เกียจแบกครับ
หันมามองกล้องเล็กสเปคเทพอย่าง Sony RX100 Mark 7 โอ้โห รัวได้อย่างกับเป็น A9
กราบทีมโซนี่ ที่อัดสเตียรอยด์เข้าไปในบอดี้เล็กขนาดนี้ได้ครับ
แต่...Sensor 1 นิ้ว ก็คือ 1 นิ้วครับ คุณภาพไฟล์ และ Depth of Field มันยังแอบด้อยกว่า APSC จริงๆ


04 Image Quality & Color
คุณภาพไฟล์ บอกเลยว่า ใครอยากถ่าย JPEG ถ่ายไปเลยครับ สีสันธรรมชาติมากๆ
ผมชอบทั้ง Positive Film และ Standard เลยครับ

ใครชอบถ่าย Raw แล้วไปต่อกันที่ Lightroom คุณจะมีความสุข เหมือนนั่งปรับสีบนก้อนเมฆครับ
เป็นไฟล์ที่ทำโทนมันมากๆ สีแต่ละสี ดัน Sat ดึง Hue เกลี่ย Luminance แล้วเด้งได้ใจครับ
ไม่อยากบอกว่าไฟล์ปรับสีมันกว่า Leica Q ซะอีกครับ (ลองอ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ https://link.medium.com/kRP6j4ycMZ)
อาจเพราะ character เลนส์ GR ที่ทำให้ภาพมันคมจัด หรือเพราะ Sensor ก็เป็นได้ครับ


05 Lens
Ricoh GR ทุกรุ่นยาวมาตั้งแต่กล้องฟิล์ม จะติดเลนส์ 28mm. f2.8 ของ Ricoh มาตลอดครับ
ซึ่งยอมรับกันในวงกว้างว่า ภาพออกมาคมกริ้บ และมี Distortion ต่ำ
Ricoh GRIII ก็เป็นเช่นนั้นครับ ถ่ายไปเถิด หลับตาถ่าย ยังชัดหมดเลยครับ

06 Menu & UX & UI
เมนูกล้อง Ricoh ทำมาให้มนุษย์ลิงใช้ครับ เข้าใจง่ายมาก
ผมลองตั้งค่า User1,2,3 ต่างๆ แบบไม่เปิดเมนู และไม่เคยทำมาก่อน
พบว่ากดมั่วๆ ไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่อยากจะ set เลยครับ
ขนาดเลือกทำสิ่งที่ซับซ้อน ยังรู้สึกว่ามันใช้ง่ายมากๆ ปรบมือให้ครับ
UX & UI เขียนรวมเป็นประสบการณ์การใช้งานไปเลยละกันนะครับ
คือเป็นกล้องที่ตอบสนองไวมากกกกก เปิดปุ๊บ ถ่ายได้เลย ไม่มีลีลา ไม่ต้องคิดเยอะ
ชอบมากที่กด display วนไปเรื่อยๆ แล้วจอจะดับไปเอง แบบมืดสนิท
คือถ่ายแบบไม่ต้องดูจอ LCD เลยก็มันดีนะครับ เหมือน LC-A อย่างไงอย่างงั้น
Dial หน้าปรับ F Stop
Dial หลังปรับ Shutter Speed
เป็นอะไรที่ลงตัวโคดๆ ครับ คิดมาดีแล้ว
ปุ่ม Fn นี่ประเสริฐสุด ตั้งเป็นอะไรก็ได้ที่อยากให้เป็น
ปุ่ม Wifi ด้านข้างก็ Custom ได้อีก ตั้งเป็นเปิด ND Filter ก็สะดวกดีนะครับ


==
Part 2 : ไม่อวย
01 Low Battery
แบตครับ! แบตกล้องหมดเร็วจริง และขึ้น Heat ด้วย!!
โอ้ว ก้อดดดด!
คือใช้ถ่ายปกติทั่วไป มันไม่น่าจะ Heat ได้ครับ แต่วันแรกๆ ที่ผมได้กล้องมา
ผมดันเอามันไปทรมานถ่ายไม่หยุด ไม่ปิดกล้อง ไม่ปิดจอ ละเลง focus mode เละเทะ เดี๋ยว auto เดี๋ยว snap เดี๋ยว full press snap
เรียกว่าลองมั่วไปหมด ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นครับ บอดี้ร้อนเลย กล้องขึ้นเตือนว่า ปิดหนูเถอะพี่ หนูร้อนไปหมดแล้ว
หลังจากนั้น ผมก็เลิกทรมานเธอแบบนั้นแล้วครับ
อาการ heat ก็ไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

02 No Charger
ไม่มีที่ชาร์จมาให้!
เข้าใจครับว่า กล้องยุคหลังๆ มานี้ เพื่อให้ราคาไม่สูงเกินไป มักจะไม่แถมที่ชาร์จมาให้ และทำให้เสียบ USB-C ชาร์จผ่านตัวกล้องได้เลย
แต่เจ้ายางปิดรู GRIII มันฟิตมากครับ ฟิตแบบเวลาจะเปิดออกนี่กลัวทำมันขาดมากๆ สุดท้ายต้องยอมใช้เงินแก้ปัญหา ซื้อที่ชาร์จแยกมา ชีวิตก็ดีขึ้นเยอะครับ

03 No Flash
ไม่มีแฟลช!
จริงๆ ก็ทำใจไว้แล้วแหละว่า ไม่มีก็ไม่มีวะ
แต่ในบางสถานการณ์ มันก็อดคิดถึงแฟลชไม่ได้ครับ
แฟลชหัวกล้องเล็กๆ มีค่ามากว่าที่คิดนะครับ
ถ้าจะขออะไรให้ GRIV มีก็ แฟลช เนี่ยแหละครับ ใส่มาเถิด

04 No tilt screen
ไม่มีจอพลิก!
ทรมานหลังมากครับ ก้มต่ำไม่ได้เลย
ถ้ายัดจอพลิกเข้ามาได้ จะกราบงามๆ เลยครับผม

เอาเป็นว่า ถ้าใครดีลกับ 4 ข้อด้านบนได้ ซื้อเลยครับ 
GRIII มันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

ขอให้คะแนนด้วยอารมณ์ล้วน ตามนี้นะครับ

หน้าตา : 9/10
การน่าถือออกจากบ้าน : 9/10
คุณภาพเลนส์ : 8.5/10 ถ้าได้ f 2.0 เอาไปเลย 10 
คุณภาพไฟล์ : 9/10
UX&UI : 9.5/10
ความพกสะดวก : 10/10
ความอยากเอาออกไปถ่าย : 10/10

ถ้าขอพรได้ข้อนึงให้กับกล้องตัวนี้
เจอกันอีกที ขอให้ sensor กลายร่างเป็น full frame โดย body ใหญ่เท่าเดิมครับ

ส๊าาาาาาาาาธุ!

ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ครับ
ติดตามบทความกล้อง gadget และอื่นๆ อีกมากได้ที่
https://medium.com/@poretmore
https://www.youtube.com/channel/UCakHNAFZnbyh7AUES2JsljQ

/แล้วพบกันใหม่ครับ
ชื่อสินค้า:   RICOH GR III
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่