เป็นระยะเวลากว่าสามเดือนหลังจากที่ผมได้ลงกระทู้รีวิวกล้อง RicohGRIII ตอนที่ 1
ผ่านมาหลายเดือนที่ผมได้ทำความรู้จักเจ้ากล้องตัวนี้มากขึ้น ต่อให้เวลาจะผ่านไปแต่ความสนุกที่ได้ใช้กล้องตัวนี้ยังมีเท่าเดิม วันนี้ผมอยากจะมาอัพเดทรูปภาพเพิ่มเติมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เผื่อใครที่กำลังสนใจกำลังหากล้องคู่กายไว้สำหรับเที่ยวทริปปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ
สำหรับกล้อง Ricoh GRIII ก็ถือได้ว่าเป็นกล้องตัวสำคัญที่ผมไม่เคยที่จะลืมพกออกไปนอกบ้าน ด้วยขนาดที่พกพาง่าย ทำให้ผมสามารถเก็บใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกนอกบ้านได้อย่างสบายใจเฉิบ และนี่คือรูปที่ผมถ่ายมาได้ครับ
"ปั้มแก๊สยามเย็นในกรุงเทพ"
ลองสังเกตุคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ดูสิครับว่ามีอะไรแปลกๆมั้ย
"บ้านหลังหนึ่งในสำนักงานพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ "
เดินผ่านทางเข้าเห็นหลายรอบแล้วไม่เคยกล้าเข้าไปถ่ายใกล้ๆสักที (กลัวคนมาไล่) วันนั้นรวบรวมความกล้าเข้าไปถ่ายแชะสองแชะ แล้วรีบวิ่งออกมา
"พระสงฆ์สองรูปกำลังเล่นมือถือในหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร BACC บนศีรษะทั้งสองมีวงกลมวงใหญ่วงเดียว ทางด้านขวาเป็นผลงานศิลปะสองชิ้น และทางด้านซ้ายเป็นทางออกฉุกเฉิน"
แล้วแต่คนจะตีความครับ ฉากนี้ผมเห็นในระยะ 20 กว่าเมตรจึงรีบวิ่งย่องเบาเข้ามาถ่าย โชคดีจริงๆที่เจ้า Ricoh GRIII เสียงชัตเตอร์เบามากจนไม่มีใครได้ยินและได้สังเกตุเลยครับ
"สายรุ้งยามเย็นที่ผมพบเจอขณะกำลังเดินเล่นไม่ห่างจากบ้าน"
ภาพนี้ผมได้ใช้ digital zoom ในตัวกล้องทำให้ภาพนี้มีระยะที่ 50mm ครับ ถึงจะซูมมาขนาดนี้แต่ภาพยังคมอยู่เลยครับ
"เด็กครึ่งฝรั่งครึ่งไทยกำลังปีนป่ายราวจับในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีพ่อแม่กำลังตะโกนเรียกให้ลูกๆหายซนสักที"
ถ้าเป็นกล้องตัวใหญ่ๆผมเองก็ไม่แน่ใจว่าทางพ่อแม่ทั้งสองท่านจะว่าอะไรผมรึเปล่า แต่โชคดีในเรื่องขนาดอันเล็กกระจิ๋วเดียวของเจ้า GRIII ผมว่าไม่น่าจะมีใครเห็นผมกำลังแอบถ่ายอยู่ครับ
"ห้องผมเองครับ"
"เจ้าของบ้านตัวจริง"
จริงๆอันนี้เป็นบ้านญาติของผมที่หาดใหญ่เองครับ เห็นแมวเดินไปนั่งรับแดดพอดีเลยเรียกเมี๊ยวๆๆให้แมวหันมามอง
"ปั้มกรุงเทพในหน้าหนาว ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงทำให้แสงเงานั้นเปลี่ยนไป"
มีใครจำช่วงที่กรุงเทพอากาศหนาวได้บ้างครับ ช่วงนั้นรู้สึกเหมือนสีของท้องฟ้าจะเปลี่ยนไปเหมือนเมืองนอกเลยทีเดียว อากาศหนาวๆกับกล้องตัวเบาๆคือคอมโบที่ดือมากครับ เดินได้ทั้งวันเหงื่อไม่ตกเลย
"บ้านอันเงียบเหงาหลังหนึ่งใต้ทาง แอร์พอร์ต เรล ลิงก์"
จริงๆบ้านนี้เป็นบ้านที่มีร็วสูงประมาณเท่าไหล่ครับ กว่าจะได้รูปนี้คือต้องถือกล้องจ่อไว้นับยี่สิบกว่านาทีได้ ถ้าเป็นกล้องตัวอื่นๆผมว่าไหล่ผมน่าจะพังไปแล้ว
"ที่ตรงนี้ใครเป็นคนนั่ง คนที่เคยนั่งเค้าทำอะไร"
จริงๆแล้วมุมนี้เป็นมุมมุมหนึ่งในสถานีรถไฟหัวลำโพงครับ จริงๆมุมนี้เค้าไม่ค่อยให้ถ่ายสักเท่าไหร่ แต่เห็นผมถือกล้องตัวเล็กๆแต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวชาวจีนเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ
"แสงยามเย็นตกลงกระทบบนเครื่องจ่ายน้ำมัน"
อันนี้เอามาให้ดูเฉยๆครับ ใครบอกว่ากล้อง Ricoh ตัวเล็กๆไม่สามารถถ่ายโบเก้ได้นี่ผมขอค้านครับ ภาพนี้ถ่ายที่เนินลมฝน เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช กว่าจะเข้าไปถึงต้องเข้าไปตั้งแคมป์ในป่ากันเลยทีเดียวครับ เวลาจะถ่ายภาพไม่ต้องเอากล้องออกมาจากแบคแพคก็ได้เพราะมันอยู่ในกระเป๋ากางเกงอยู่แล้ว
ลงมาจากเนินลมฝนที่นี่เป็นที่ตั้งแคมป์สำหรับวันที่สองครับ ผมไปเข้าป่าสี่วันสามคืน เอาพาวเวอร์แบงค์ก้อนเล็กๆไปชาร์จกล้องแค่ก้อนเดียวก็เอาอยู่แล้วครับ
เพราะตัวเล็กเลยใช้พลังงานน้อยจริงๆ
"บ้านหลังเล็กๆในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง"
ช่างภาพระดับโลกอย่าง Chase Jarvis ได้เคยกว่าไว้ว่า
"The best camera is the one that with you" กล้องที่ดีที่สุดคือกล้องที่คุณมีอยู่กับตัว กล้อง Ricoh GRIII อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาของผมตลอดเวลานับตั้งแต่ผมก้าวออกจากบ้านจนผมกลับมา เมื่อมีกล้องติดอยู่กับมือก็ไม่มีสักครั้งที่ผมจะพลาดโอกาสสำคัญในการเก็บภาพถ่าย การมีกล้องติดอยู่กับตัวตลอดเวลาจะช่วยให้เราเริ่มมองสิ่งรอบข้างเปลี่ยนไป เราจะเริ่มมองสิ่งนั้นไม่เหมือนแค่ตาเห็น เราจะเริ่มมองมุมต่างๆ ทิศทางของแสง องค์ประกอบในเฟรม มันคือการฝึกฝนตัวเองไปในตัวในระหว่างชีวิตประจำวัน
หากใครต้องการดูรีวิวเพิ่มเติมสามารถเข้าไปรับชมได้ในวิดีโอนี้เลยครับ
ทุกๆท่านสามารถรับชมภาพถ่ายเพิ่มเติมจากกล้องตัวนี้ได้ในไอจี @whereisone (
https://www.instagram.com/whereisone/ )หรือเพียงทุกท่านเสริช์ด้วย Hashtag #RicohTH ท่านก็จะเห็นภาพถ่ายจากกล้อง Ricoh ที่ถ่ายโดยผมและช่างภาพไทยอีกหลายๆท่านครับ
ปีใหม่กำลังจะเข้ามาแล้ว อย่าลืมหากล้องติดไว้กับตัวเพื่อเก็บโมเม้นสำคัญนะครับ
[SR] [Artist Review] รวมภาพส่งท้ายปีจากกล้อง Ricoh GRIII
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้