ฮ่องกง จุดเริ่มต้น หรือจุดจบ ?
.
ผมเองได้ติดตามการประท้วงที่ฮ่องกงมาโดยตลอด แม้จะไม่ได้ถึงขั้นเกาะติด ซึ่งผมมักจะคิดเสมอว่า “อะไร” เป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการประท้วงครั้งนี้
.
ผมคิดว่า … อะไรที่เติบโตมาถึงจุด ๆ หนึ่ง มันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือคนที่โตมาก ๆ และเริ่มผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใหม่ อาจจะรอด หรือได้ไปต่อ … ผมขอสรุปตามความคิดเห็นส่วนบุคคล ดังนี้
.
ประการแรก … “คนฮ่องกง กับคุณภาพชีวิต”
.
ผมคิดว่า คนฮ่องกง แม้สังคมของเขาจะเจริญ เศรษฐกิจจะเติบโตมาก แต่ประชากรส่วนหนึ่งกับใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หลายคนต้องอยู่ในกรงเล็ก ๆ สมชื่อ “ฮ่องกง” หรือคล้าย ๆ อยู่ในห้องขังไม่ผิด
.
เนื่องจากที่ดินในฮ่องกงแพงมาก ว่ากันว่า พื้นที่แค่หนึ่งตารางฟุตกับมีราคาสูงหลายหมื่นบาท ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อต้องไปเช่าเพื่ออยู่อาศัย และมีคนหัวไส ซื้อห้องมาแบ่งสอยย่อย ๆ ให้คนหลายคนเช่าอยู่ในห้องเดียวกัน นั่นคือสาเหตุของภาพ “กรงนอน” กรงเล็ก ๆ ที่คนหลายชีวิตใช้เป็นที่หลับนอนนั่นเองครับ
.
ว่ากันว่า เงินเดือนของคนฮ่องกงเฉลี่ยราว 7-8 หมื่นบาทต่อเดือน แต่ค่าเช่าห้องพักย่ายกลางเมืองก็มีราคาค่าเช่าราว 7-8 หมื่นบาทต่อเดือนเช่นกัน
.
ประการที่สอง … “ความไม่พอใจของผู้คน”
.
ผมเข้าใจว่า เมื่อคุณภาพชีวิตของคนไม่ดี ทำให้เกิดความไม่พอใจ ชนวนเหตุของการประท้วง เริ่มต้นจาก กฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
.
เริ่มจากการที่ วัยรุ่นสองคนที่เพิ่งคบกัน บินไปเที่ยวต่างประเทศ และแฟนผู้ชายฆาตกรรมผู้หญิง และหนีกลับมาฮ่องกง แต่เนื่องจากการฆ่าเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ทางการฮ่องกงจึงร่างกฏหมายนี้ขึ้นมาเพื่อส่งตัวคนร้ายไปรับการสอบสวนที่ต่างประเทศ และนั่นทำให้คนไม่พอใจ
.
สาเหตุนั้น ต้องบอกครับว่า คล้าย ๆ กับทางการเขาจะหวังดี แต่มันกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่บานปลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ในที่สุด
.
ประการที่สาม … “จีนดีใจ หรือกังวลใจกับการประท้วงนี้”
.
ทีแรกผมก็เข้าใจว่า ประเทศจีนคงมีความกังวลอย่างมาก ซึ่งนั่นก็จริงครับ 
.
แต่เอาเข้าจริง ๆ ประเทศจีนลึก ๆ แล้วก็อยากให้ฮ่องกงประท้วงไปนาน ๆ เพราะเมื่อเกิดการประท้วง นักธุรกิจฮ่องกง ก็เริ่มหนีออกจากเกาะฮ่องกงแห่งนี้ และที่ ๆ เขาไปใกล้ที่สุดคงหนีไม่พ้นจีน "นักวิชาการบางท่าน" บอกว่าเขาหนีไปเมือง เซิ่นเจิ้น และความเจริญก็หนีตามนักธุรกิจเหล่านี้
.
หรืออาจจะมีทางเลือกที่ดีกว่า เช่น แคนาดา ไต้หวัน อเมริกา คงต้องติดตามกันดี ๆ ล่ะครับ ว่าจะเป็นอย่างไร
.
แต่ก่อนเกาะฮ่องกงมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจสูงมาก แต่เมื่อเกิดการประท้วง ผมคิดว่า มันจะเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่ทำให้ฮ่องกงอาจไม่ใช่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ และความเจริญทางเศรษฐกิจจะย้ายออกจากเกาะฮ่องกง ทำให้อิทธิพลของเกาะฮ่องกงลดลง และนั่นจะทำให้จีนทำงานง่ายขึ้น คนในเกาะฮ่องกงที่ไม่มีเงินพอจะย้ายออกไปต่างประเทศ อาจจะแย่
.
ประการสุดท้าย … “ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด”
.
ผมมานั่งนึก นอนนึก ว่าประเทศอะไรที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และค่าครองชีพยังไม่แพง ผมนึกออกแค่ประเทศไทยครับ
.
หากไปประเทศเพื่อนบ้าน ก็ยังไม่สะดวกสบาย ไปประเทศต่างศาสนาก็มีความแตกต่าง ไปประเทศพัฒนาแล้วค่าครองชีพก็สูง
.
ประเทศไทยมีทั้งอาหาร มีรถไฟฟ้า มีความสะดวกสบาย มีหมอเก่ง ๆ มีโรงเรียนนานาชาติ ผมว่าหมุดหมายของคนฮ่องกงที่อยากย้ายออก ประเทศไทย "น่าจะ"เป็นหนึ่งในนั้นบ้าง ไม่มากก็น้อยล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมาประเทศไทยเสมอไปนะครับ 
.
อย่างไรก็ตาม ... สถานการณ์ล่าสุดทางผู้ว่าการฮ่องกงได้ยื่นข้อเสนอเพื่อยุติความขัดแย้งแล้ว หนึ่งในนั้นคือ ยกเลิกกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน คงต้องติดตามต่ออีกว่า จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ขอเอาใจช่วยชาวชนฮ่องกงนะครับ
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ … สิ่งที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงอะไรได้ เพียงแค่เสนอความเห็น อย่าซีเรียสนะครับ แต่ผมคิดว่า ประเทศอะไรที่เจริญมาก ๆ ค่าครองชีพก็สูงตามไปด้วยนั้น เราต้องคิดให้ดีว่า ความเจริญทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ครับ #นายแว่นลงทุน
.