'ธนาธร' ลุยร้อยเอ็ด เตรียมคุย ส.ส. ดันแนวคิด 'อุโมงค์ระบายน้ำ' ประสานหน่วยราชการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1657944

“ธนาธร”ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ให้กำลังใจปชช.ประสบภัยน้ำท่วม เตรียมคุยส.ส.นำแนวคิดสร้าง “อุโมงค์ระบายน้ำ” คุยส่วนราชการเกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ทีมประชาสัมพันธ์พรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) พร้อมทีมงาน เดินทางเยือน จ.ร้อยเอ็ด ให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลัน โดยหลายพื้นที่น้ำท่วมสูง ถนนและสะพานถูกตัดขาด ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ได้มีการตั้งศูนย์แจ้งเรื่องร้องเรียนน้ำท่วม เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประสานการเข้าไปช่วยเหลือ ให้กำลังใจพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ โดยมีสายด่วนเบอร์โทร. 092-6253578

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร เดินทางถึงสนามบินร้อยเอ็ด มีประชาชนที่ทราบข่าวมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก จากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านแดง ต.เหนือเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมทุกปี แต่ท่วมแล้วลดเร็ว หากแต่ในปีนี้น้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรอรัฐบาลให้ค่าชดเชย ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านระบุว่าอยากให้ช่วยทำประตูกั้นน้ำ และทำท่อระบายน้ำไปจนถึงห้วยที่ตัดผ่านหลังหมู่บ้านเพื่อระบายน้ำ เพราะปัจจุบันน้ำไม่มีที่ระบาย ทำให้ท่วมขังพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน นายธนาธร กล่าวว่า ที่ตนมาในวันนี้ เพื่อให้กำลังพี่น้องที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เข้าใจว่าหมู่บ้านนี้เป็นที่รับน้ำให้กับคนในเมืองร้อยเอ็ดทุกปี และจากที่ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้าน ได้เห็นถึงความสำคัญของการมีอุโมงค์ท่อระบายน้ำ เพื่อทำให้น้ำไม่ท่วมขัง และจะนำเรื่องนี้ให้ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ นำไปปรึกษาหารือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อที่ปีต่อไปน้ำจะไม่ท่วมขัง และอยากจะฝากถึงรัฐบาลให้เข้ามาเยียวยาชาวบ้านในพื้นที่นี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายธนาธรพร้อมทีมงานได้เดินทางต่อไปที่ โรงเรียนอนุบาลโพนทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีทีมงานพรรคอนาคตใหม่จากจังหวัดนครราชสีมาและบุรีรัมย์ นำของบริจาคมอบให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยในส่วนโรงเรียนอนุบาลโพนทองนั้น ได้รับความเสียหายจากอุบัติภัยครั้งนี้เป็นอย่างมาก นายสุรพล พิมพิลา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลโพนทอง ระบุว่า วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา มีน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวันจากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุล โดยมวลน้ำส่วนใหญ่ไหลมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และได้ไหลล้นตลิ่งลำห้วยโพนทอง เข้าท่วมตัวอำเภอ และโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 30 นาที ส่งผลให้รั้วทั้งสองฝั่งของโรงเรียนพังทลายลงมา น้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนสูงประมาณ 2 เมตร มีครูและนักเรียนติดอยู่ในโรงเรียนกว่า 400 ชีวิต ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเสียหายทั้งหมด โต๊ะเรียนและหนังสือได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายธนาธร เดินทางต่อไปยังบ้านน้ำจั่นน้อย ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ ซึ่งพื้นที่ทั้งตำบลนี้มีน้ำท่วมสูงเป็นระยะเวลากว่า 6 วันแล้ว
ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด จากมวลน้ำที่หลากเข้ามา สาเหตุเกิดจากพนังกั้นน้ำแตกบริเวณท้ายหมู่บ้าน ทำให้ไม่สามารถชะลอมวลน้ำเอาไว้ได้ ทั้งนี้
เนื่องจากไม่สามารถสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้โดยรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ขนาดเล็ก ประชาชนจึงต้องการของยังชีพอีกจำนวนมาก โดยนางแสงดาว ปานเกิด ปลัดอำเภอเสลภูมิ ระบุว่า โดยปกติน้ำจะไม่ท่วมขนาดนี้ ที่ผ่านมาหากน้ำล้นพนังกั้นน้ำ มวลน้ำจะไหลเข้าท่วมแต่ไม่นาน แต่อุบัติภัยในครั้งนี้พนังกั้นน้ำแตก มวลน้ำจึงขังภายในหมู่บ้านรวมทั้งพื้นที่การเกษตรเป็นเวลานาน

---

"พิธา" รับประสานรัฐบาลแก้ปัญหาที่ดินทำกิน
https://news.thaipbs.or.th/content/283837

ชาวโคราชร้อง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ขอให้ช่วยเหลือปัญหาป่าสงวนซับซ้อนพื้นที่ทํากิน เพราะได้รับผลกระทบไม่สามารถปลูกยางพารา และมันสำปะหลังได้

วันนี้ (5 ก.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยทีมงาน ส.ส.ภาคอีสานของพรรค รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ขอให้ช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ป่าสงวนทับซ้อนกับที่อยู่อาศัย

ชาวบ้านร้องว่าสำนักงานป่าไม้ จ.นครราชสีมา แจ้งเมื่อปี 2559 ว่าพื้นที่ชุมชนดังกล่าวไม่สามารถทำเป็นพื้นที่เกษตรกรได้อีกต่อไป ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถปลูกยางพาราและมันสำปะหลัง จนไม่สามารถทำอะไรกินได้

โดยพรรคอนาคตใหม่รับที่จะเร่งลงพื้นที่ติดตามปัญหา และเรียกร้องไปถึงรัฐบาลหาวิธีทุเลาให้ประชาชน สามารถทำมาหากินได้ ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ไม่ได้มี จ.นครราชสีมา ที่เดียว แต่มีปัญหาหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แม้รัฐบาลจะมีโครงการประกันรายได้เกษตรกร แต่หากติดกระดุมเม็ดแรกแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกินไม่ได้ ก็ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้