คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
คนอยากทำงาน โดนกักตัวไม่ให้ทำ(เราจบบริหาร พ่อกำลังกักตัวบอกอีก2ปีจะให้ไปสมัครทหารเรือ)
คนเพิ่งเหนื่อยจากเรียน ถูกบังคับรีบหางาน....
ถ้า จขกท พอมีเงินก็ขอพ่อแม่แยกอยู่ก่อน และหาจ๊อบทำเล็กๆให้มีเงินเก็บสำรอง ตอนพ่อแม่ถามก็ให้ตื่นเต้นเข้าไว้ว่า ที่นั่นอยู่ตั้งไกลนะแม่ ตอนนี้เขาก็เปิดรับสมัครอยู่นะ เดี๋ยวต้องเตรียมส่งเรซูเม่ก่อน อีกนานกว่าจะเรียกสัมภาษณ์ ถ้าหลังวันนั้นท่านยังเร่งก็ต้องบอกว่าอีหลายเดือน ใจเย็นๆก่อน อยากให้ลูกทำงานงั้นขอทำรับจ้างขั้นเวลาก่อนได้ไหม คราวนี้ถ้าเขาเห็นแก่ชื่อเสียง เขาจะคัดค้านและให้คุณอยู่บ้านเองค่ะ คราวนี้ก็ช่วยงานบ้านบ้าง หางานฟรีแลนด์บ้าง ชีวิตจะได้ไม่เบื่อ
คนเพิ่งเหนื่อยจากเรียน ถูกบังคับรีบหางาน....
ถ้า จขกท พอมีเงินก็ขอพ่อแม่แยกอยู่ก่อน และหาจ๊อบทำเล็กๆให้มีเงินเก็บสำรอง ตอนพ่อแม่ถามก็ให้ตื่นเต้นเข้าไว้ว่า ที่นั่นอยู่ตั้งไกลนะแม่ ตอนนี้เขาก็เปิดรับสมัครอยู่นะ เดี๋ยวต้องเตรียมส่งเรซูเม่ก่อน อีกนานกว่าจะเรียกสัมภาษณ์ ถ้าหลังวันนั้นท่านยังเร่งก็ต้องบอกว่าอีหลายเดือน ใจเย็นๆก่อน อยากให้ลูกทำงานงั้นขอทำรับจ้างขั้นเวลาก่อนได้ไหม คราวนี้ถ้าเขาเห็นแก่ชื่อเสียง เขาจะคัดค้านและให้คุณอยู่บ้านเองค่ะ คราวนี้ก็ช่วยงานบ้านบ้าง หางานฟรีแลนด์บ้าง ชีวิตจะได้ไม่เบื่อ
แสดงความคิดเห็น
โดนคนที่บ้านกดดันเรื่องการหางาน ผมเจ็บปวดกับงานวิจัยไม่พอ โดนเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอด ไม่รู้จะทำไงดีให้ที่บ้านมองเห็น
ผมพึ่งเรียนจบไม่นานครับ แต่การเรียนของผมนานมาก 7 ปีครับ ผ่านการเจ็บปวดกับงานวิจัยมามาก ผมเป็นคนเรียนไม่เก่ง ตลอดเวลาการต่อสู้เรื่องการเรียน ก็เจอที่บ้านกดดันทางอ้อมมาโดยตลอด นึกออกไหมครับ เช่น ลูกคนข้างบ้าน โอ้ยทำงานดี เงินเดือนเป็นแสน ผมฟังแล้วควรรู้สึกยังไงดีครับ ? ได้ยินแบบนี้ หมดแรง ไม่อยากทำงานเลย แต่ผมนึกถึงเพื่อนผมที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมเลยมีแรงทำวิจัยส่ง จนกระทั้งเรียนจบจริง ๆ ผมโดนกดดันเรื่องหางานเลย จะไปสมัครงานเมื่อไร แผนเป็นอย่างไร ส่วนตัวผมคิดว่าต้องไปฟังใครมาแน่ ๆ ผมพึ่งผ่านสมรภูมิรบวิจัยมาหมาด ๆ ผมอยากเพิ่มทักษะบางอย่างเพื่อไม่เป็นภาระกับคนอื่น ผมมีประสบการณ์จากตอนฝึกงานครับ ผมกดดันมาก ประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่โอเคเท่าไรครับ เพราะทักษะที่ผมมีไม่เพียงพอ หัวช้า ผมรู้สึกผิดมากครับ ณ ตอนนั้นที่ผมหัวช้า และเป็นตัวถ่วงให้คนอื่น ผมเลยตั้งไว้ว่า ตอนหางานจริง ๆ ต้องดูคุณสมบัติให้แน่นอน ตรวจสอบ skill ของตัวเอง แน่นอน งานโปรแกรมเมอร์ครับที่ผมจะหา ผมแค่ไม่อยากกดดันตัวเอง แต่ที่บ้านไม่เข้าใจ เพียงแต่บอกว่า ไปหาที่เรียน ไปหาที่อบรม ซึ่งหลักสูตรที่เรียนเพิ่ม คือทักษะที่ตัวเองได้อยู่แล้ว ตัวอย่างก็มี เหมือนเราดูหนังซ้ำ ๆ แล้วเริ่มหมด Passion แล้วอ่ะครับ ไม่วายเปรียบเทียบกับน้องตัวเองครับว่า ดูน้องสิ ไปที่โน้นที ที่นี้ที ไปเรียนบ้าง อบรมบ้าง แต่ผมไม่ไป เพราะมันคนละสายกับน้องครับ เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ บางทีขอว่าขอตัดสินใจเองบ้างได้ไหม จะไปเมื่อไร ไม่ใช่มากดดันให้หางานให้ได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ สำหรับผมเอง งานเขียนโปรแกรมนะครับ อยากเตรียมเพื่อต่อยอดให้เข้ากับงานที่ไปทำ ไม่เป็นภาระให้กับใครเวลารับคน ๆ นี้เข้าทำงาน อ่อ ผมไม่มีประสบการณ์นะครับ อยากหาประสบการณ์ทางนี้ ซึ่งต่อให้ผมพยายามขนาดไหน แต่ที่บ้านกลับมองไม่เห็น ผมมีเคสตอนฝึกงานมาแล้ว ผมไม่อยากเจอซ้ำอีกครับ ชีวิตคนเราโอกาสไม่ได้มีบ่อย ๆ ผมทราบดี ผมเลือกที่จะสู้กับกำแพงในอนาคต ผมไม่สนใจ กลัวกำลังใจจะหมด ผมต้องเสเสร้งทำเป็นขยันให้ที่บ้านดูดีไหมครับ ? เพราะโดนถามทีไร คำตอบที่ได้คือ เจอแล้ว ไม่ทราบชื่อบริษัท ดูแต่คุณสมบัติ รับเด็กจบใหม่ ลงสมัครเมื่อไร ตอบ ไม่ทราบครับ สุดท้ายโดนกดดัน ตบท้ายด้วย หวังดี ซื้อเสื้อทำงานให้เลย กดดันเลย ซึ่งถ้าผมตัดสินใจจะลงนะ ผมจะบอกเอง นี้ไม่ต้องบอก ซื้อเลย ไม่ได้ขอ ไม่เคยขอเลย เศร้าใจครับ ตลอดเวลาผมสู้ตลอด แต่ที่บ้านไม่เคยเห็นเลย ไม่รู้จะทำไงละครับเชื่อเลยว่าจะต้องมีชาวเน็ตคอมเม้นว่า ไปหางานครับ รีบหางาน นี้ผมหาอยู่ครับ ขอตรวจสอบ Skill ตัวเองให้แม่นยำก่อนไปสัมภาษณ์ เพียงแค่ผมไม่อยากกดดันตัวเองเท่านั้นเอง