รีวิวเบื้องต้น Tool - Fear Inoculum อัลบั้มใหม่ล่าสุดของวง Tool

อัลบั้มเต็มลำดับที่ 5 ของวง Tool วงอัลเทอร์เนทีฟเมทัล ชาวอเมริกัน ออกวางจำหน่ายในรูปแบบ CD , Download และ Streaming เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดผมเพิ่งได้ CD มาด้วยความช็อกกับความเร็วในการส่งจากอเมริกา ผมเลือกให้เขาส่งแบบธรรมดาแบบประหยัดๆ แต่ของวางอยู่ในตู้ไปรษณีย์ที่คอนโดภายใน 3 วัน ผมอุตส่าห์ฟังแบบยั้งๆบน Spotify เพื่อรอ CD กะว่าสัก 10 วันน่าจะถึง แต่มาแล้ว เลยรีบเอามาให้ชมว่าหน้าตาเป็นอย่างไร สรุปคือตามที่โฆษณาไว้เป๊ะๆ มีจอวิดีโอ 4 นิ้ว เล่นอัตโนมัติเมื่อพลิกแผ่ตัวกล่องออกมา เป็นวิดีโอกราฟฟิกแนว  3D แอนิเมชัน ความยาว ราวๆ 5-7 นาทีเป็นเหมือนการขยายความจากอัลบั้มอาร์ตเวิร์กทั้งหมด พร้อมดนตรีประกอบ มีลำโพงฝังอยู่ด้วย พร้อมสาย USB และช่องเสียบเพื่อชาร์จ เป็น CD ที่อลังการดาวล้านดวงมาก เข้าใจว่า Sold Out บน Amazon ไปช่วงวันเปิดตัว น่าจะรอสั่งของเพิ่มอยู่ สำหรับคนที่อยากได้แต่ pre order ไม่ทัน น่าจะมีขายเรื่อยๆแหละ ราคาเอาเรื่องอยู่ 47 USD รวมค่าส่ง กดเครื่องคิดเลขเป็นเงินไทยกันเองครับ ตอนนี้เห็นพวกหัวหมอปล่อยบน Ebay เกินราคาจริงไปมาก เห็นราคาสูงสุดไป 8 พันบาทก็มี ไม่ต้องรีบร้อนฮะ เดี๋ยวก็มีออกมาอีก

อาร์ตเวิร์ก ตามสไตล์ Tool ครับสวยงาม กล่องเกลิ่งผลิตออกมาพรีเมียมมาก มีลายนูนทั่วกล่อง เช่นเดียวกับ Booklet 30 กว่าหน้า

มาที่ตัวเพลงกันบ้าง ผมคิดว่าสรุปสั้นๆได้เลยว่านี่คืออัลบั้มที่แฟนขาจร อาจต้องใช้เวลากับการฟังเยอะหน่อยถึงจะสรุปได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องความดึงดูดของตัวเพลง เอาแค่ภาพรวมก่อน ขาประจำก็เหอะ ทั้งอัลบั้มยาว 85 นาที แต่ละเพลงมีความยาว 10 นาทีขึ้นไปทั้งหมด ตัวอัลบั้มในซีดีนี้มีแค่ 6 เพลง ไม่มี iterlude เหมือนที่ฟังบน Spotify ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไม แต่ CD นี้แถมเวอร์ชัน Digital ฟรีที่มี interlude ทั้งหมดด้วย

แฟนขาอัลเทอร์เนทีฟเมทัลที่ชอบริฟฟ์จ๊าบๆ กลองมันๆ เสียงร้องก้าวร้าวๆ เปิดเพลงแล้วเข้าเรื่องเลย ไม่ต้องเอ้อระเหยมาก เหมือนที่เราได้ฟังเพลงฮิตต่างๆจากอัลบั้ม Undertow, AEnima และ Latelarus อาจจะอึ้งๆหน่อย กับความชะเอิงเงยกว่าจะเข้าพระเข้านางในแต่ละเพลงในอัลบั้มใหม่ คือบอกเลยว่าถ้าไม่ได้รักกันจริงนี่อาจจะเบื่อไปเลยล่ะครับ แต่ผมการันตีว่า มันไม่น่าเบื่อเหมือนครึ่งหลังของ 10,000 Days อัลบั้มก่อนหน้านี้ ที่ออกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว คือมันร็อกกว่าครับ อัลบั้มก่อนมันฟังดู World Music เอามากๆโดยเฉพาะครึ่งหลัง อัลบั้มนี้ผมว่าเป็น Progressive rock ที่มีเนื้อมีหนังให้ได้ฟังและย่อยง่ายกว่าเยอะ

อัลบั้ม Fear Inoculum ผมฟังรอบแรก อึ้ง เหมือนฟังวงดนตรีแจมกันส่งเดช ไม่รู้จะคิดอย่างไร แต่เหมือนกับเวลาฟังอัลบั้ม Progressive อื่นๆครับ พอจับทางได้ว่าโครงสร้างของแต่ละเพลงเริ่มยังไง ไปทางไหน พีกเมื่อไหร่ แล้วคลี่คลายอย่างไร จะพบว่าว่านี่คืออัลบั้ม Progresssive rock ไปทาง Metal ที่เป็นมาสเตอร์พีซ และจะถูกเล่าขานต่อไปเหมือนเวลา คนรุ่นผมที่เกิดยุค 80 โตยุค 90 ได้รับฟังคำบอกเล่าจากคนรุ่นก่อนหน้า ถึงความเอกอุของอัลบั้มอย่าง Dark Side of the Moon อะไรประมาณนั้นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทั้งด้านเนื้อหา ด้านเทคนิค หรือ คุณภาพการบันทึกเสียง ผมคิดว่ามันจะเป็นอ้างอิงสำคัญในวงการ Sound Engineer การบันทึกเสียงไปอีกนานเลย 

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบดนตรี ก็เช่นกัน จะเล่าขานต่อไปอีกนานแน่นอน โดยเฉพาะตำนานของ Danny Carey มือกลองที่ในอัลบั้มนี้มีโซโล่กลอง 1 เพลงเต็มยาว 5 นาที ในเพลงชื่อประหลาด Chocolate Chip Trip ขณะที่ทุกเพลง ถ้าคุณเป็นคนชื่นชอบการเล่นกลอง มีฮีโร่เป็นมือกลอง คุณจะชอบอัลบั้มนี้มากๆ เพราะอัลบั้มนี้บันทึกเสียงกลอง "ดังยิ้ม" ไม่เคยฟังอัลบั้มไหนเสียงกลองสนั่นโลกาขนาดนี้ แต่บันทึกเสียงดีมาก ชัดทุกดอก และน่าสนใจในการฟังพัฒนาการของไลน์กลองจากเริ่มจนจบเพลง บอกเลยฟังสนุกมาก สำหรับแฟนๆการตีกลองนะครับ

แฟนๆกีตาร์ น่าจะเข้าใจ ธรรมชาติของ Adam Jones มือกีตาร์อยู่แล้ว เขาไม่เล่นอะไรซับซ้อน เป็นพวก Minimalist ไม่ตูมตามพร่ำเพรื่อ โพรเกรสชันของการเล่นมาจาก ริฟฟ์หลักเพียงริฟฟ์เดียวที่เขาเริ่มในแต่ละเพลง และเล่นกับสัดส่วนพิสดารไปกับมือกลองและมือเบสแบบไม่หวังเอาหน้าในส่วนที่ไม่ควรเอาหน้า ไดนามิก หนักเบาเล่าเรื่องด้วยเมโลดี โคตรโฟกัส ไม่เลอะเทอะ แต่เข้าใจได้ถึงอารมณ์ที่สื่อออกมา โดยไม่ต้องโวยวายเยอะ ยกเว้นเพลงสุดท้าย 7empest ( หรือ tempest ในภาษาปกติ).... คุณเอ้ย ใครทีเคยคิดว่า Adam Jones ไม่ใช่กีตาร์ฮีโร่ อันนี้ต้องคิดใหม่เลย หมอนี่บทจะปล่อยก็ปล่อยจนเป้นเพลงที่น่าจะดีที่สุดในการเล่นกีตาร์ให้กับวง Tool ของเขาเลย  โคตรร็อก จะบอกว่าเมทัล ก็อาจไม่ใช่แบบที่ส่วนใหญ่อาจคิด เอาเป็นว่าน่าจะจำกัดความได้ว่า "ร็อก" แล้วกัน ฟังเขาเล่นกีตาร์ในอัลบั้มนี้เหมือนกำลังดูวิดีโอ Timelapse ต้นอ่อนของต้นไม้โต คือมันต้นเดิมไง (ริฟฟ์เริ่มต้น) แต่มันแตกขยายออกไปแบบต้องลุ้นว่า เฮ้ยมันต้นอะไรวะ แล้วมันก็มีหักมุมช่วงพีก บ้างก็เป็นต้นที่ออกดอกสะพรั่ง บางต้นนี้ฟังแล้วเหมือนโตมามีหนามทั้งต้น..อะไรแบบนั้น มันสนุกที่มันคาดไม่ถึงนี่แหละ แต่มันมีที่มาที่ไป ไม่เหมือนเวลาฟังพวก Dream Theater หรืออะไรเทือกนั้นนะ พวกนั้นเน้นโชว์ความเก่งด้านเทคนิค การดำเนินเรื่องมันอาจไม่ได้ linear 1-2-3 แต่ กีตาร์ใน Fear Inoculum นี่ค่อนข้าง linear มันเลยเพลิน ฟังแล้วไม่เหนื่อย

ไม่แน่ใจว่าใน Pantip มีแฟนวง Tool บ้างไหม มาแชร์ความคิดเห็นกันนะครับ

อันนี้ Link เพลง 7empest ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=9D2R69gVyZ0
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่