[ตอนที่ 24/24] "เมื่อผมคิดว่าตัวเองเป็นไข้ แต่รู้ตัวอีกทีว่ากำลังจะตายจากโรคหัวใจล้มเหลว"

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 24/24 : “ไม่ได้หันหลังให้โรงพยาบาลจริงๆหรอก”
——————————————
บทความรีวิว โรงพยาบาลพิษณุเวช, พิษณุโลก
หัวข้อ : 'เมื่อผมคิดว่าตัวเองเป็นไข้ แต่มารู้ตัวอีกทีว่ากำลังจะตายเพราะหัวใจล้มเหลว’

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
โรงพยาบาล
....เป็นสถานที่ซึ่งอุดมไปด้วยความเสียใจ
....ความทุกข์ทรมาน, ความสูญเสีย
...และอีกมากมาย

ถึงกับมีคนกล่าวว่า ‘การมีสุขภาพที่ดี’
คือทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าที่ควรรักษา

และอยู่ให้ห่างไกลจากโรงพยาบาลไว้
....เป็นดีที่สุด

คำพูดเหล่านั้นเป็นความปรารถนาแห่งปุถุชนทุกคน
.....เป็นสิ่งที่อยู่ในระดับอุดมคติ

ซึ่งหากจะมองกันตามหลักความเป็นจริงแล้ว...
.....คงเป็นไปแบบนั้นได้ยาก

บางคนเกิดมา
.....พร้อมกับความบกพร่องทางร่างกายในทันที

บางคนมาพบว่าตัวเองบกพร่อง
......หลังจากใช้ชีวิตผิดๆไป

บางคนพบว่า
.......แม้ตัวเองจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
.....เพื่อหยุดยั้งโรคภัยที่เกิดขึ้น

แต่ก็ช้าไปไม่ทันการ

เช่นกรณีของผมเป็นต้น

……..

บุคลากรทางการแพทย์
......รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องทุกท่าน
........ล้วนเรียนรู้และถูกฝึกมา

โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยชีวิต

และแก้ไขปัญหาความเจ็บป่วยทางร่างกาย...
.....ของผู้ที่กำลังทนทุกข์ทรมาน

ให้หายดีด้วยวิทยาการต่างๆ

ด้วยการปราศจากเหตุสุดวิสัยแล้ว.....
......ทุกอย่างย่อมทำอย่างเต็มที่

…….

นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เราป่วย....
......การไปวัดหรือโรงแรมแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้

เราจึงต้องไปโรงพยาบาลไงล่ะ
......มันก็ง่ายๆแค่นี้

……..

วันนี้.....
คือ วันที่ 26 สิงหาคม 2562....

เป็นวันที่ผมถูกปลดพันธนาการทุกจุดอย่างสมบูรณ์

จนแทบจะลืมไปเลยว่า...... คุณค่าของร่างกาย....

ตอนที่ยังไม่ถูกเสียบด้วยสายต่างๆนั้น
......น่าพึงใจขนาดไหน

มีการขอสัมภาษณ์ประสบการณ์ต่างๆ.....
....ที่พบในโรงพยาบาล..... ต่อโรคลิ้นหัวใจรั่ว

รวมไปถึงการฝากแง่คิดให้กับผู้ป่วย

หรือผู้ที่ไม่ป่วยให้ระวังตัว

………

โรคหัวใจที่ผมเป็น.....
......จัดว่าเป็นโรคในลำดับต้นๆที่มีความเสี่ยง

บางโรคตรวจด้วยตัวเองยากมาก.....
......ต้องมาตรวจสุขภาพอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเท่านั้น

ดังนั้น..... เราจะรู้ได้อย่างไร
....ว่าร่างกายแข็งแรงดี
.....โดยไม่มาโรงพยาบาล

……..

การออกจากโรงพยาบาลในครั้งนี้.....
.....จึงเป็นการออกเพื่อที่จะกลับเข้ามา
…..ด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้น

และติดตามความคืบหน้า
......ของผลการรักษาตลอดชีวิต

ผมเลี่ยงที่จะไม่มาโรงพยาบาลไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
....เพราะยาและเลือด
.....ที่ต้องตรวจอย่างสม่ำเสมอ

……..

การเดินออกจากสถานที่แห่งนี้....
.....เป็นเพียงการหันหลังให้กับมันชั่วคราว
.....เมื่อผมมีความสุข

และอาจจะกลับมา..... เมื่อผมมีความทุกข์....
.....ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง

และต้องพึ่งพาบุคลากรที่มีคุณภาพสูง....

.....อย่างโรงพยาบาลพิษณุเวชนี้อีกครั้ง

.........

อดีตของตัวเอง ก็จบลงไปพร้อมๆกับลิ้นหัวใจระบบเนื้อเยื่อแล้ว จากนี้จะเป็นยังไงก็ยังไม่ รู้
แต่ก็ต้องสู้กับสิ่งที่เป็นอย่างเต็มที่
[ปัจฉิมลิขิตท้ายบท]
"เมื่อผมคิดว่าตัวเองเป็นไข้ แต่รู้ตัวอีกทีว่ากำลังจะตายจากโรคหัวใจล้มเหลว"

เป็นบทความชุดที่ผมเขียนขึ้น
.....ทั้งในขณะที่นอนอยู่โรงพยาบาลจนกระทั่งออกมา
.....วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจในหลายๆแง่มุม
.....ทั้งความตึงเครียดและการทำงานของเจ้าหน้าที่
......รวมไปถึงแพทย์ในแต่ละแผนกว่าเป็นอย่างไร

เป็นประสบการณ์ที่ผมเองคงไม่มีโอกาสได้มาเขียนอีกแล้ว

มันอาจจะดูตลกในเชิงวิชาการสำหรับผู้รู้จริง...
....แต่ผมก็อยากให้คนที่กำลังท้อแท้หรือหวาดกลัวว่า
เมื่อเป็นขึ้นมาแล้วต้องเจออะไร
....ได้ทราบถึงรายละเอียดทั้งหมด"

ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าความกลัวในใจของเรา
....เดินหน้าสู้กับปัญหาอย่างถึงที่สุด
....แล้วเราจะไม่เสียใจเลยว่าจะเป็นอย่างไร
....เมื่อเราทำลงไปอย่างเต็มที่แล้ว

ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงตรงนี้
ขอบคุณที่เห็นว่ามีประโยชน์นะครับ

การออกจากโรงพยาบาลอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดได้ว่าโรงพยาบาลเองก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร
แถมยังเป็นที่พึ่งยามที่เราเจ็บป่วยอย่างสาหัสและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง
ถึงเวลานั้นก็ต้องพึ่งพาบุคลากรที่เก่งมากๆ อย่างโรงพยาบาลที่ผมมานอนนี่ล่ะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่