ตลอด 17 ปีหนูไม่เคยสูญเสียใครในชีวิต
หนูเสียคนที่เขาเข้าใจหนูได้ดีกว่าคนในครอบครัวทุกครั้งที่เรามีปัญหาเราจะรับฟังกันแล้วช่วยกันคิดแก้ไขปัญหาให้คำปรึกษากันและมันมักจะผ่านมาได้ดีเสมอแต่ในวันนี้ที่หนูไม่มีเขาอยู่ในชีวิตแล้ว หนูรู้สึกอ่อนแอ เหมือนโลกมีแค่สีขาวกับเทา ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียนหนูก็เหมือนคนปกติทั่วไป ยิ้มได้ หัวเราะได้ แต่ในบางครั้งก็มีความรู้สึกที่อยากอยู่คนเดียวและจะปลีกตัวออกมาจากหมู่เพื่อน พอกลับมาบ้านก็จะเป็นคนละคน จะชอบอยู่ในห้องมืดๆที่ไม่มีแสงอะไร ปิดการแจ้งเตือนไม่เข้าสังคมไม่คุยกับใคร แล้วใส่หูฟังเปิดเพลงกลบเกลื่อนความรู้สึกแย่ๆที่มีอยู่ในใจ แล้วจะนอนมองเพดานห้องนานติดต่อกัน 2-3 ชั่วโมงโดยที่ไม่รู้ตัว ในหัวคิดถึงแต่อดีตที่เคยมีความสุข อดีตที่เคยมีเขาอยู่ในชีวิต บางครั้งก็มีความคิดที่โทษตัวเองซ้ำๆว่าทำไมหนูถึงไม่สามารถคว้าเขาไว้ได้เลยทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อนเขาดึงหนูขึ้นมาจากโรคนี้และมันก็ดีขึ้นเหมือนไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน หนูอ่อนแอจากความคิดของตัวเองเหมือนฝังอยู่ในใจและไม่เคยจางหายไปเลย หนูไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลยแม้แต่การบ้านแต่หนูก็ไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนและพยายามแยกแยะอยู่เสมอ หนูเคยดรอปเรียนจากโรคนี้มา 1 ปีเต็มและตั้งใจที่จะเรียนให้จบและเข้ามหาลัยแม้ไม่จบพร้อมเพื่อนก็ตาม ทุกๆคืนหนูไม่สามารถข่มตานอนง่ายๆได้เหมือนคนอื่นๆ ความคิดที่อยู่ในหัวมันไม่เคยจบสิ้นไม่ว่าจะพยายามข่มตาลงพอดูนาฬิกาอีกทีก็ ตี 2-3 และในความฝันหนูฝันถึงเขาซ้ำฝันร้ายจนเหนื่อยทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาหนูอ่อนแรงเหมือนวิ่งอยู่ในฝันจริงๆทุกๆเช้าหนูไม่สามารถสดใสได้เหมือนคนอื่นเลย เวลาเรียนก็มักจะเหนื่อยง่ายและหน้ามืดบ่อยๆ มันคือความทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้น
ทุกครั้งที่มีเรื่องกระทบจิตใจมันจากปัญหาต่างๆในชีวิต ครอบครัว การเรียน เหมือนทุกอย่างมันแย่ไปหมดก็ทำให้มีความคิดที่อยากตายในบางครั้งแต่ไม่ได้อยากตายด้วยวิธีต่างๆนะคะเพียงแค่อยากหายไปเงียบๆไม่มีใครรู้หรือนอนแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกไม่ต้องรู้สึกทรมานซ้ำๆ
รู้ตัวอยู่เสมอว่าควรทำยังไงรู้ว่าไม่ควรยึดติดกับอะไรที่สูญเสียไปแล้วรู้ว่าควรคิดบวกแล้วเดินไปข้างหน้าได้แล้วแต่หนูกลับทำไม่ได้เลยสักครั้ง
หนูไม่กล้ากินยาเพราะผลข้างเคียงของยาต้านเศร้าทำให้หนูไปเรียนเหมือนเพือนๆไม่ได้หนูไม่รู้ว่าอีกนานมั๊ยกว่ามันจะผ่านไปแต่หนูรู้สึกอ่อนแอเหลือเกิน ;- (
(เขาเป็นน้องหนู 1 ปี เสียจากการกระโดดตึกด้วยภาวะซึมเศร้าเมื่อ 2 เดือนที่แล้วค่ะ)
หนูควรไปพบจิตแพทย์มั๊ยคะ
หนูเสียคนที่เขาเข้าใจหนูได้ดีกว่าคนในครอบครัวทุกครั้งที่เรามีปัญหาเราจะรับฟังกันแล้วช่วยกันคิดแก้ไขปัญหาให้คำปรึกษากันและมันมักจะผ่านมาได้ดีเสมอแต่ในวันนี้ที่หนูไม่มีเขาอยู่ในชีวิตแล้ว หนูรู้สึกอ่อนแอ เหมือนโลกมีแค่สีขาวกับเทา ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียนหนูก็เหมือนคนปกติทั่วไป ยิ้มได้ หัวเราะได้ แต่ในบางครั้งก็มีความรู้สึกที่อยากอยู่คนเดียวและจะปลีกตัวออกมาจากหมู่เพื่อน พอกลับมาบ้านก็จะเป็นคนละคน จะชอบอยู่ในห้องมืดๆที่ไม่มีแสงอะไร ปิดการแจ้งเตือนไม่เข้าสังคมไม่คุยกับใคร แล้วใส่หูฟังเปิดเพลงกลบเกลื่อนความรู้สึกแย่ๆที่มีอยู่ในใจ แล้วจะนอนมองเพดานห้องนานติดต่อกัน 2-3 ชั่วโมงโดยที่ไม่รู้ตัว ในหัวคิดถึงแต่อดีตที่เคยมีความสุข อดีตที่เคยมีเขาอยู่ในชีวิต บางครั้งก็มีความคิดที่โทษตัวเองซ้ำๆว่าทำไมหนูถึงไม่สามารถคว้าเขาไว้ได้เลยทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อนเขาดึงหนูขึ้นมาจากโรคนี้และมันก็ดีขึ้นเหมือนไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน หนูอ่อนแอจากความคิดของตัวเองเหมือนฝังอยู่ในใจและไม่เคยจางหายไปเลย หนูไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลยแม้แต่การบ้านแต่หนูก็ไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนและพยายามแยกแยะอยู่เสมอ หนูเคยดรอปเรียนจากโรคนี้มา 1 ปีเต็มและตั้งใจที่จะเรียนให้จบและเข้ามหาลัยแม้ไม่จบพร้อมเพื่อนก็ตาม ทุกๆคืนหนูไม่สามารถข่มตานอนง่ายๆได้เหมือนคนอื่นๆ ความคิดที่อยู่ในหัวมันไม่เคยจบสิ้นไม่ว่าจะพยายามข่มตาลงพอดูนาฬิกาอีกทีก็ ตี 2-3 และในความฝันหนูฝันถึงเขาซ้ำฝันร้ายจนเหนื่อยทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาหนูอ่อนแรงเหมือนวิ่งอยู่ในฝันจริงๆทุกๆเช้าหนูไม่สามารถสดใสได้เหมือนคนอื่นเลย เวลาเรียนก็มักจะเหนื่อยง่ายและหน้ามืดบ่อยๆ มันคือความทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้น
ทุกครั้งที่มีเรื่องกระทบจิตใจมันจากปัญหาต่างๆในชีวิต ครอบครัว การเรียน เหมือนทุกอย่างมันแย่ไปหมดก็ทำให้มีความคิดที่อยากตายในบางครั้งแต่ไม่ได้อยากตายด้วยวิธีต่างๆนะคะเพียงแค่อยากหายไปเงียบๆไม่มีใครรู้หรือนอนแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกไม่ต้องรู้สึกทรมานซ้ำๆ
รู้ตัวอยู่เสมอว่าควรทำยังไงรู้ว่าไม่ควรยึดติดกับอะไรที่สูญเสียไปแล้วรู้ว่าควรคิดบวกแล้วเดินไปข้างหน้าได้แล้วแต่หนูกลับทำไม่ได้เลยสักครั้ง
หนูไม่กล้ากินยาเพราะผลข้างเคียงของยาต้านเศร้าทำให้หนูไปเรียนเหมือนเพือนๆไม่ได้หนูไม่รู้ว่าอีกนานมั๊ยกว่ามันจะผ่านไปแต่หนูรู้สึกอ่อนแอเหลือเกิน ;- (
(เขาเป็นน้องหนู 1 ปี เสียจากการกระโดดตึกด้วยภาวะซึมเศร้าเมื่อ 2 เดือนที่แล้วค่ะ)