หากจะพูดถึงสุดยอดแบรนด์ในกลุ่มบำรุงหน้าอีกแบรนด์นึงแล้ว คงไม่มีสาวๆคนไหนไม่รู้จัก "
La Mer"
เรื่องราวการกำเนิดของ La Mer
จุดเริ่มต้นของลาแมร์เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในห้องปฎิบัติการ
ที่ทำให้ผิวของ ดร. แมกซ์ ฮูเบอร์ ถูกทำร้าย ด้วยความเป็น
นักวิทยาศาสตร์และจินตนาการที่ผสานกันอย่างลงตัว ทำให้
ดร. ฮูเบอร์ มุ่งมั่นที่จะค้นพบพลังแห่งการฟื้นบำรุง
จากท้องทะเลอันเป็นที่รักยิ่งของเขา
ความพยายามอันยาวนานถึง 12 ปี และการทดลอง
เกือบ 6,000 ครั้ง นำไปสู่การค้นพบอันยิ่งใหญ่
ในที่สุดดร.ฮูเบอร์ก็ค้นพบกรรมวิธีการหมักบ่ม
เปลี่ยนสาหร่ายซีเคลป์และส่วนผสมอื่นๆ ให้กลายมา
เป็น Miracle Broth™ ส่วนผสมล้ำค่าที่ช่วยฟื้นบำรุง
ผิวของเขา และเป็นหัวใจของทุกผลิตภัณฑ์
ทำไม La Mer ยี่ห้ออื่นๆนัก ???
เพราะ La Mer ใ
ช้สาหร่ายซีเคลป์ถือเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็วที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยฟื้นบำรุงผิวและเป็นหัวใจหลักในกระบวนการผลิตน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ โดยสาหร่ายซีเคลป์
ถูกเก็บเกี่ยวด้วยกรรมวิธีการแบบยั่งยืนจากท้องทะเลที่เกาะแวนคูเวอร์
การหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาแมร์ใช้เวลานานถึง 3-4 เดือน โดยใช้คลื่นแสงและ เสียงเสริมพลังให้สาหร่ายซีเคลป์ วิตามิน
แร่ธาตุนานาชนิด และสารสกัดต่างๆ ผสานเข้า ด้วยกัน
จนเกิดเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์อันเป็น จุดเริ่มต้นของ Miracle Broth™
ลาแมร์จะนำ Miracle Broth™ ที่สกัดขึ้นจากครั้งก่อน มาผสมผสานรวมกับครั้งใหม่ ด้วยเหตุผลที่จะให้สูตรยังคงความดั้งเดิมตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง โดย Miracle Broth™ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญใน Crème de la Mer และในปัจจุบัน Miracle Broth™ ยังเป็นหัวใจหลักในทุกผลิตภัณฑ์ของลาแมร์
เพราะสารสกัดที่มีคุณภาพสุดยอด รวมไปถึงวิธีการเทคโนโลยีที่สุดยอกจึงทำให้ลาแมร์ มีราคาสูง แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้รับความนิยมทั่วโลก
และวันนี้เราจะพามารู้จักกับ
The Treatment Lotion
โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว
ให้ผิวชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ มอบผิวแลดูนุ่ม เรียบเนียนและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ
เอาล่ะพูดมากละ เรามาดูกันดีกว่า ว่า La Mer The Treatment Lotion จะช่วยเราได้แค่ไหน
*** บอกก่อนรีวิวนี้เราออกเงินซื้อสินค้าเองไม่มีสปอนเซอร์ที่ไหนนะคะ สินค้านี้เราใช้เองมานานละค่ะ ^^***
เราใช้ La Mer The Treatment Lotion มาเป็นระยะเวลาสักพักแล้วค่ะ โดยขวดที่เราใช้อยู่เป็นขนาด 150 ml
และตอนนี้ก็ใช้มาเป็นเวลายาวนานต่อเนื่องจนจะหมดขวดแล้วค่ะ เดี๋ยวมาดูผลลัพธ์ระยะยาวกันดีกว่า
นี่คือสภาพผิวหน้าของเราก่อนใช้ลาแมร์ค่ะ บอกได้เลยว่า "พังหนักมากกกก" !!!! ไม่รู้ไปแพ้อะไรมา
ยอมพลีชีพเลยอ้ะ !!!!
หลังจากนั้นเราได้ไปหาข้อมูลมาค่ะ และคิดว่า La Mer The Treatment Lotion น่าจะตอบโจทย์เรา
เอาวะ !!!! ยอมควักตังซื้อเลยค่ะ เสียตังไม่ว่า..เสียหน้าไม่ได้ !!!!
และนี่คือความชุ่มชื้นของหน้าเราก่อนใช้ La Mer The Treatment Lotion ค่ะ
แห้ง..กร้าน แพ้ หมองคล้ำไม่ดใส ดุจดั่งทะเลทราย
เปอร์เซ็นต์ความชุ่มชื้นแค่ 15 % ไม่แย่ได้ไงคะคุณขาาาา
ร่างกายคนเรายังต้องการน้ำ ผิวหน้าก็เช่นกัน
มาทดลองใช้กัน
วิธีการใช้ไม่ยากค่ะ แค่หยดลงบนฝ่ามือหรือบนสำลีก็ได้ หลังการล้างหน้า
ก่อนจะบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆใช้ตัวนี้ลงตัวแรก
ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำใสๆค่ะ มีความกึ่งเจลนิดหน่อย
ดังน้ำจึงไม่ไหลเลอะเทอะมาก
มาถึงขึ้นตอนสำคัญค่ะ
ในการใช้ La Mer The Treatment Lotion จะมีขั้นตอนอยู่เล็กน้อย ให้คุณใช้ในการแตะลงบนผิวหน้าบวกกับการกดลงบนเบาๆ
ไปตามบริเวณส่วนอื่นๆ เช่น แก้ม หน้าผาก คาง และคอ
ใครนึกไม่ออกดูตามภาพที่เราสาธิตเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็บำรงด้วยครีม เจล หรือโลชั่นที่เราใช้กันตามปกติ วันนั้นเราได้ของแถมจากการซื้อมานิดหน่อยค่ะ
ดังนั้น เราจะมาลอง
Crème de la Mer กัน
Crème de la Merลาแมร์มอยส์เจอไรเซอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งครีมยอดนิยมและเป็นจุดเริ่มต้นสู่ผิวสวยในแบบฉบับลาแมร์
ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น Crème de la Mer นี้ช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน
เสริมปราการการปกป้องผิวตามธรรมชาติ ผิวจะรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น แลดูเรียบเนียนและกระชับ
ช่วยลดเลือนรอยต่างๆ ริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง ปลดล็อคให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใส ทั้งกลางวันและกลางคืน
เหมาะสำหรับผิวแห้ง หรือผิวบอบบาง
วิธีการใช้ ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น Crème de la Mer เนื้อผลิตภัณฑ์จะมีความเข้มขนสูง มีสีขาว
ก่อนใช้ที่ใบหน้า ให้อุ่นครีมที่ปลายนิ้วก่อน นวดวนไป ใช้เวลาไม่นานครีมจะมีสีใส
จากนั้นก็ให้นำไปกดลงบนใบหน้าด้วยเทคนิคเดียวกันกับการใช้โลชั่นข้างบนที่เราอธิบายไปค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ La Mer The Treatment Lotion ทันที
โลชั่นซึมเข้าสู่ผิวได้ดีค่ะ เมื่อเรากดลงบนใบหน้า เนื้อโลชั่นจะไม่หายไปอย่างรวดเร็ว แต่จะกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวหน้าให้เรา
ผิวหน้าดูอุ้มน้ำขึ้น สุขภาพดีขึ้นทันที ส่วนเรื่องแพ้ หลังการใช้ภายใน 24 ชม เราไม่พบอาการแพ้ใดๆค่ะ ยิ่งใช้คู่กับมอยส์เจอร์ไรส์เซอร์ของเค้า
ยิ่งรู้สึกว่าเกบความชุ่มชื้นได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
นี่คือผิวหน้าหลังการใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ทันที
เราได้ถ่ายรูปไว้อีกครั้งหลังการใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ได้ 1 เดือน
มาดูความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรากันค่ะ
เราวัดความชุ่มชื้นบนผิวหน้าหลังการใช้ 1 เดือน
เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาก่อนใช้ และหลังการใช้ 1 เดือน เราพบว่าความชุ่มชื้นที่ผิวหน้าเราดีขึ้นมาก
โดยก่อนใช้อยู่ที่ 15.0% และ หลังใช้อยู่ที่ 60.7%
มาดูผิวหน้าของเรากันใกล้ๆหลังจากใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ไป 1 เดือนกันบ้าง
สิ่งที่เรารู้สึกนอกจากผิวหน้าจะชุ่มชื้นขึ้นแล้ว รอยผดผื่นของสิวที่เกิดจากการแพ้หายไปเยอะค่ะ แม้จะยังหลงเหลือร่องรอยไว้บ้าง
แต่ได้ขนาดนี้เราก็พอใจมากๆเลยค่ะ ^^ ที่สำคัญคือ ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น สุขภาพผิวรู้สึกได้ว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือภาพเปรียบเทียบ ตั้งแต่ก่อนใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer
จนถึงระยะเวลาการใช้ 1 เดือนค่ะ นี่ชั้นมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ???
เราก็เลย.....ไปถอย Crème de la Mer ไซส์จริงมาอีกตัวค่ะ 5555 เพราะใช้คู่กันและมันดีมากกกกก
ตอนนี้เราใช้ La Mer The Treatment Lotion จนหมดขวดแล้วค่ะ ถ้านับระยะเวลาแล้วก็น่าจะ 4 เดือนกว่าๆได้
ถือว่าคุ้มค่าจริงๆสำหรับ La Mer The Treatment Lotion ขวดนี้ มาดูผิวหน้าของเราหลังจาก 4 เดือนกันค่ะ
ผิวหน้าของเรา ณ ปัจจุบัน ค่ะ นี่คือหน้าสด ไม่ได้แต่งหน้า และไม่ได้ใส่ผิลเตอร์แต่งรูปนะคะ
ตอนนี้เราค่อนข้างพอใจกับผิวหน้าเรามากค่ะ รอยแพ้ผดผื่นสิวหายไปเยอะมาก ผิวหน้าดูสุขภาพดีค่ะ กระชับขึ้น
ความกระจ่างใสเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาผิวแห้งกร้าน เราก็รู้สึกว่าผิวเราชุ่มชื่นดีขึ้นมากค่ะ ริ้วรอยบางๆก็จางลงด้วยค่ะ
บอกได้คำเดียวว่ารักเลย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก บอกใครตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีคนเชื่อว่าเราอายุจะ 31 แล้ว
พอผิวหน้าดีก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าหนักๆต่อไปค่ะ ในวันที่ออกไปข้างนอกไม่ไกลมากเราก็จะใช้แค่ทากันแดดและแป้งนิดหน่อย
ทาปากเล็กน้อยก็ได้ลุคใสๆ ประหยัดเวลาแต่งหน้าออกจากบ้าน ใสๆผู้ชายชอบค่ะ 5555
สุดท้ายนี้ ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากไปลอง La Mer The Treatment Lotion เถอะ แล้วคุณจะรักเหมือนเรา
แม้ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ว่าใช้ได้นานและคุ้มค่ามากจริงๆค่ะ
ปิดท้ายการให้คะแนน La Mer The Treatment Lotion
ความชุ่มชื้น : 5/5
ความกระจ่างใสสีผิวสม่ำเสมอ : 4/5
ความเรียบเนียน : 4/5
ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ : 5/5
ใครสนใจผลิตภัณฑ์ La Mer ข้อมูลและโปรโมชั่นต่างๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่
https://www.lamer.co.th/
[CR]รีวิวที่ยาวนานน La Mer The Treatment Lotion,Crème de la Mer หลังจากใช้มา 4 เดือน คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ?
เรื่องราวการกำเนิดของ La Mer
จุดเริ่มต้นของลาแมร์เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในห้องปฎิบัติการ
ที่ทำให้ผิวของ ดร. แมกซ์ ฮูเบอร์ ถูกทำร้าย ด้วยความเป็น
นักวิทยาศาสตร์และจินตนาการที่ผสานกันอย่างลงตัว ทำให้
ดร. ฮูเบอร์ มุ่งมั่นที่จะค้นพบพลังแห่งการฟื้นบำรุง
จากท้องทะเลอันเป็นที่รักยิ่งของเขา
ความพยายามอันยาวนานถึง 12 ปี และการทดลอง
เกือบ 6,000 ครั้ง นำไปสู่การค้นพบอันยิ่งใหญ่
ในที่สุดดร.ฮูเบอร์ก็ค้นพบกรรมวิธีการหมักบ่ม
เปลี่ยนสาหร่ายซีเคลป์และส่วนผสมอื่นๆ ให้กลายมา
เป็น Miracle Broth™ ส่วนผสมล้ำค่าที่ช่วยฟื้นบำรุง
ผิวของเขา และเป็นหัวใจของทุกผลิตภัณฑ์
ทำไม La Mer ยี่ห้ออื่นๆนัก ???
เพราะ La Mer ใช้สาหร่ายซีเคลป์ถือเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็วที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยฟื้นบำรุงผิวและเป็นหัวใจหลักในกระบวนการผลิตน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ โดยสาหร่ายซีเคลป์ถูกเก็บเกี่ยวด้วยกรรมวิธีการแบบยั่งยืนจากท้องทะเลที่เกาะแวนคูเวอร์
การหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาแมร์ใช้เวลานานถึง 3-4 เดือน โดยใช้คลื่นแสงและ เสียงเสริมพลังให้สาหร่ายซีเคลป์ วิตามิน
แร่ธาตุนานาชนิด และสารสกัดต่างๆ ผสานเข้า ด้วยกันจนเกิดเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์อันเป็น จุดเริ่มต้นของ Miracle Broth™
ลาแมร์จะนำ Miracle Broth™ ที่สกัดขึ้นจากครั้งก่อน มาผสมผสานรวมกับครั้งใหม่ ด้วยเหตุผลที่จะให้สูตรยังคงความดั้งเดิมตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง โดย Miracle Broth™ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญใน Crème de la Mer และในปัจจุบัน Miracle Broth™ ยังเป็นหัวใจหลักในทุกผลิตภัณฑ์ของลาแมร์
เพราะสารสกัดที่มีคุณภาพสุดยอด รวมไปถึงวิธีการเทคโนโลยีที่สุดยอกจึงทำให้ลาแมร์ มีราคาสูง แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้รับความนิยมทั่วโลก
และวันนี้เราจะพามารู้จักกับ The Treatment Lotion
โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว
ให้ผิวชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ มอบผิวแลดูนุ่ม เรียบเนียนและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ
เอาล่ะพูดมากละ เรามาดูกันดีกว่า ว่า La Mer The Treatment Lotion จะช่วยเราได้แค่ไหน
*** บอกก่อนรีวิวนี้เราออกเงินซื้อสินค้าเองไม่มีสปอนเซอร์ที่ไหนนะคะ สินค้านี้เราใช้เองมานานละค่ะ ^^***
เราใช้ La Mer The Treatment Lotion มาเป็นระยะเวลาสักพักแล้วค่ะ โดยขวดที่เราใช้อยู่เป็นขนาด 150 ml
และตอนนี้ก็ใช้มาเป็นเวลายาวนานต่อเนื่องจนจะหมดขวดแล้วค่ะ เดี๋ยวมาดูผลลัพธ์ระยะยาวกันดีกว่า
นี่คือสภาพผิวหน้าของเราก่อนใช้ลาแมร์ค่ะ บอกได้เลยว่า "พังหนักมากกกก" !!!! ไม่รู้ไปแพ้อะไรมา
ยอมพลีชีพเลยอ้ะ !!!!
หลังจากนั้นเราได้ไปหาข้อมูลมาค่ะ และคิดว่า La Mer The Treatment Lotion น่าจะตอบโจทย์เรา
เอาวะ !!!! ยอมควักตังซื้อเลยค่ะ เสียตังไม่ว่า..เสียหน้าไม่ได้ !!!!
และนี่คือความชุ่มชื้นของหน้าเราก่อนใช้ La Mer The Treatment Lotion ค่ะ
แห้ง..กร้าน แพ้ หมองคล้ำไม่ดใส ดุจดั่งทะเลทราย เปอร์เซ็นต์ความชุ่มชื้นแค่ 15 % ไม่แย่ได้ไงคะคุณขาาาา
ร่างกายคนเรายังต้องการน้ำ ผิวหน้าก็เช่นกัน
มาทดลองใช้กัน
วิธีการใช้ไม่ยากค่ะ แค่หยดลงบนฝ่ามือหรือบนสำลีก็ได้ หลังการล้างหน้า ก่อนจะบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆใช้ตัวนี้ลงตัวแรก
ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำใสๆค่ะ มีความกึ่งเจลนิดหน่อย
ดังน้ำจึงไม่ไหลเลอะเทอะมาก
มาถึงขึ้นตอนสำคัญค่ะ
ในการใช้ La Mer The Treatment Lotion จะมีขั้นตอนอยู่เล็กน้อย ให้คุณใช้ในการแตะลงบนผิวหน้าบวกกับการกดลงบนเบาๆ
ไปตามบริเวณส่วนอื่นๆ เช่น แก้ม หน้าผาก คาง และคอ
ใครนึกไม่ออกดูตามภาพที่เราสาธิตเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็บำรงด้วยครีม เจล หรือโลชั่นที่เราใช้กันตามปกติ วันนั้นเราได้ของแถมจากการซื้อมานิดหน่อยค่ะ
ดังนั้น เราจะมาลอง Crème de la Mer กัน
Crème de la Merลาแมร์มอยส์เจอไรเซอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งครีมยอดนิยมและเป็นจุดเริ่มต้นสู่ผิวสวยในแบบฉบับลาแมร์
ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น Crème de la Mer นี้ช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน
เสริมปราการการปกป้องผิวตามธรรมชาติ ผิวจะรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น แลดูเรียบเนียนและกระชับ
ช่วยลดเลือนรอยต่างๆ ริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง ปลดล็อคให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใส ทั้งกลางวันและกลางคืน
เหมาะสำหรับผิวแห้ง หรือผิวบอบบาง
วิธีการใช้ ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น Crème de la Mer เนื้อผลิตภัณฑ์จะมีความเข้มขนสูง มีสีขาว
ก่อนใช้ที่ใบหน้า ให้อุ่นครีมที่ปลายนิ้วก่อน นวดวนไป ใช้เวลาไม่นานครีมจะมีสีใส
จากนั้นก็ให้นำไปกดลงบนใบหน้าด้วยเทคนิคเดียวกันกับการใช้โลชั่นข้างบนที่เราอธิบายไปค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ La Mer The Treatment Lotion ทันที
โลชั่นซึมเข้าสู่ผิวได้ดีค่ะ เมื่อเรากดลงบนใบหน้า เนื้อโลชั่นจะไม่หายไปอย่างรวดเร็ว แต่จะกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวหน้าให้เรา
ผิวหน้าดูอุ้มน้ำขึ้น สุขภาพดีขึ้นทันที ส่วนเรื่องแพ้ หลังการใช้ภายใน 24 ชม เราไม่พบอาการแพ้ใดๆค่ะ ยิ่งใช้คู่กับมอยส์เจอร์ไรส์เซอร์ของเค้า
ยิ่งรู้สึกว่าเกบความชุ่มชื้นได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
นี่คือผิวหน้าหลังการใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ทันที
เราได้ถ่ายรูปไว้อีกครั้งหลังการใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ได้ 1 เดือน
มาดูความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรากันค่ะ
เราวัดความชุ่มชื้นบนผิวหน้าหลังการใช้ 1 เดือน
เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาก่อนใช้ และหลังการใช้ 1 เดือน เราพบว่าความชุ่มชื้นที่ผิวหน้าเราดีขึ้นมาก
โดยก่อนใช้อยู่ที่ 15.0% และ หลังใช้อยู่ที่ 60.7%
มาดูผิวหน้าของเรากันใกล้ๆหลังจากใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer ไป 1 เดือนกันบ้าง
สิ่งที่เรารู้สึกนอกจากผิวหน้าจะชุ่มชื้นขึ้นแล้ว รอยผดผื่นของสิวที่เกิดจากการแพ้หายไปเยอะค่ะ แม้จะยังหลงเหลือร่องรอยไว้บ้าง
แต่ได้ขนาดนี้เราก็พอใจมากๆเลยค่ะ ^^ ที่สำคัญคือ ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น สุขภาพผิวรู้สึกได้ว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และนี่คือภาพเปรียบเทียบ ตั้งแต่ก่อนใช้ La Mer The Treatment Lotion และ Crème de la Mer
จนถึงระยะเวลาการใช้ 1 เดือนค่ะ นี่ชั้นมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ???
เราก็เลย.....ไปถอย Crème de la Mer ไซส์จริงมาอีกตัวค่ะ 5555 เพราะใช้คู่กันและมันดีมากกกกก
ตอนนี้เราใช้ La Mer The Treatment Lotion จนหมดขวดแล้วค่ะ ถ้านับระยะเวลาแล้วก็น่าจะ 4 เดือนกว่าๆได้
ถือว่าคุ้มค่าจริงๆสำหรับ La Mer The Treatment Lotion ขวดนี้ มาดูผิวหน้าของเราหลังจาก 4 เดือนกันค่ะ
ผิวหน้าของเรา ณ ปัจจุบัน ค่ะ นี่คือหน้าสด ไม่ได้แต่งหน้า และไม่ได้ใส่ผิลเตอร์แต่งรูปนะคะ
ตอนนี้เราค่อนข้างพอใจกับผิวหน้าเรามากค่ะ รอยแพ้ผดผื่นสิวหายไปเยอะมาก ผิวหน้าดูสุขภาพดีค่ะ กระชับขึ้น
ความกระจ่างใสเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาผิวแห้งกร้าน เราก็รู้สึกว่าผิวเราชุ่มชื่นดีขึ้นมากค่ะ ริ้วรอยบางๆก็จางลงด้วยค่ะ
บอกได้คำเดียวว่ารักเลย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก บอกใครตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีคนเชื่อว่าเราอายุจะ 31 แล้ว
พอผิวหน้าดีก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าหนักๆต่อไปค่ะ ในวันที่ออกไปข้างนอกไม่ไกลมากเราก็จะใช้แค่ทากันแดดและแป้งนิดหน่อย
ทาปากเล็กน้อยก็ได้ลุคใสๆ ประหยัดเวลาแต่งหน้าออกจากบ้าน ใสๆผู้ชายชอบค่ะ 5555
สุดท้ายนี้ ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากไปลอง La Mer The Treatment Lotion เถอะ แล้วคุณจะรักเหมือนเรา
แม้ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ว่าใช้ได้นานและคุ้มค่ามากจริงๆค่ะ
ปิดท้ายการให้คะแนน La Mer The Treatment Lotion
ความชุ่มชื้น : 5/5
ความกระจ่างใสสีผิวสม่ำเสมอ : 4/5
ความเรียบเนียน : 4/5
ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ : 5/5
ใครสนใจผลิตภัณฑ์ La Mer ข้อมูลและโปรโมชั่นต่างๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่
https://www.lamer.co.th/