สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เอมจะมาเล่าถึงประสบการณ์ที่เป็น 1 ในผู้โชคดีที่ได้รับ Crème De La Mer กระปุกใหญ่มาใช้จากการร่วมกิจกรรมกับ Pantip ให้ทุกๆคนได้ชมกันค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้เอมก็ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมรีวิว Crème De La Mer มาแล้วครั้งนึงนะคะ แต่ตอนนั้นรีวิวเป็นกระปุกเล็กขนาด 3 ml. เป็นการรีวิวเพื่อหาผู้โชคดีที่รีวิวได้โดนใจกรรมการที่สุดและจะได้รับรางวัลเป็น Crème De La Mer กระปุกใหญ่ขนาด 60 ml. มูลค่า 13,000 บาท ไปใช้แบบฟรีๆ โดยเอมก็เป็น 1 ในผู้โชคดีทั้ง 10 ท่านค่ะ ซึ่งหลังจากมีการประกาศผลไปใน Pantip เป็นที่เรียบร้อย เอมและทีมงานก็ได้มีการตกลงนัดหมายวันที่จะเข้าไปรับ Crème De La Mer กระปุกใหญ่กันค่ะ โดยเอมเลือกที่จะรับในวันที่ 5 พ.ย. 2561 ที่เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต บางใหญ่
ตอนที่ได้รับทราบว่าเป็น 1 ในผู้โชคดีทั้ง 10 ท่าน เอมถึงกับกรี๊ดเลยค่ะ เพราะก็ต้องบอกตามตรงว่า Crème De La Mer เป็นครีมในฝันของหลายๆท่าน เนื่องด้วยคุณสมบัติในการดูแลผิวต่างๆที่อัดแน่นเต็มกระปุกจริงๆค่ะ ซึ่งคุณสมบัติที่อัดแน่นขนาดนั้นก็นำพามาซึ่งราคาที่ค่อนข้างแพงถึงขั้นแพงมากๆ ส่วนตัวของเอมเองไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ใช้หรอกค่ะ เพราะมันค่อนข้างสวนทางกับรายได้เยอะอยู่นะ แต่พอได้รับเป็นรางวัลมาก็รู้สึกดีใจมากๆค่ะ นี่เล่าไปก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลยนะ ^^
ให้ดูความหรูหราไฮโซของนางนะคะ แม้กระทั่งถุงที่ใส่ Crème De La Mer ก็ยังดูหรูหราเลย ตอนที่เอมไปรับ Crème De La Mer แล้วหิ้วถุงนี้ในห้างก็มีแต่คนมองนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าเขามองอะไร ก็ได้แต่ยิ้มๆไป เขาคงคิดล่ะนะว่า "นี่แกสอย Crème De La Mer เลยเหรอ?"
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านเอมก็ได้ลองเอากระปุกเล็กมาวางคู่กับกระปุกใหญ่ดูค่ะ ซึ่งขนาดก็แตกต่างกันมาก แต่ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ คุณภาพที่อยู่ในกระปุกก็เท่ากันค่ะ อันนี้เอมคอนเฟิร์มเลย เพราะลองใช้มาทั้งคู่แล้วค่ะ พี่ๆ BA ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับครีมตัวนี้มาเยอะมากๆ เอาเป็นว่าเอมจะเล่าให้ทุกคนอ่านตามที่เอมจำได้แล้วกันนะคะ
Crème De La Mer
เป็นเนื้อครีมเข้มข้น ที่มอบความชุ่มชื้นพิเศษให้กับผิว มีต้นกำเนิดจากท้องทะเลลึกอันเป็นตำนานที่อุดมด้วยคุณค่าแห่งการฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ ช่วยให้เส้นริ้วและริ้วรอยลดเลือนลง ผิวแลดูกระชับ รูขุมขนดูจางลง ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพช่วยฟื้นบำรุงได้แม้กระทั่งผิวที่แห้งที่สุด ช่วยให้ผิวสดใส แลดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณค่าจากสารอาหารมากมายที่มีอยู่ในน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ หัวใจหลักของ ลาแมร์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมการทำงานของกระบวนการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ จะช่วยฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิวที่บอบบาง ให้กลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใส เปล่งประกายผิวสุขภาพดี เหล่านี้คือข้อมูลจากทางแบรนด์ที่พี่ๆ BA Lamer เล่าให้เอมฟังนะคะ
ในถุง Crème De La Mer ก็ยังมีไม้พายตักครีมมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้สำคัญมากนะคะ เพราะเราไม่ทราบหรอกค่ะว่ามือของเรามีเชื้อโรคหรือไปสัมผัสอะไรต่างๆมาบ้างหรือเปล่า ทางที่ดีเพื่อที่ Crème De La Mer จะได้มีอายุและคุณภาพเข้มข้นดังเดิม เราควรใช้ไม้พายตักครีมจะดีกว่านะคะ เพื่อความถูกสุขอนามัยของตัวคุณเองด้วยค่ะ
เนื้อครีมมีสีขาวขุ่นข้น แต่ไม่ได้รู้สึกเหนียวนะคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเอมมีผิวผสมด้วยหรือเปล่า แต่บริเวณที-โซนของเอมหลังจากทา Crème De La Mer ก็ไม่ได้มีน้ำมันออกมาหรือทำให้หน้าเอมเหนียวเลยนะคะ เป็นความรู้สึกชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่าผิวหน้าดูมีน้ำมีนวลทุกครั้งที่ทาเลยค่ะ สังเกตจากเนื้อครีมได้เลยมีความยุบตัวลงไปค่อนข้างมากอยู่ค่ะ เพราะว่าตั้งแต่ได้น้องเขามาก็ทาทุกวันเลยค่ะ
วิธีใช้ที่ถูกต้องของ Crème De La Mer : โดยการใช้ไม้พายตักครีมออกมาไม่ต้องมากนะคะ กะปริมาณให้พอดีกับหน้าของเราต่อการทา 1 ครั้งนะ (ไม่งั้นตักมาเยอะเกินไป เสียดายแย่เลยค่ะ)
จากนั้นก็วอร์มครีมปริมาณเล็กน้อยด้วยการลูบไล้ไปมาบริเวณปลายนิ้วทั้งสองข้าง วอร์มไปเรื่อยๆ การวอร์มที่ถูกต้องคือจะต้องใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 นิ้วของมือทั้งข้าง ในการวอร์มครีมให้แตกตัวค่ะ ถึงจะถูกต้อวนะคะ จะใช้นิ้วเดียวหรือสองนิ้วไม่ได้นะ เพราะครีมจะแตกตัวไม่สม่ำเสมอกันและประสิทธิภาพในการบำรุงอาจจะได้ไม่สม่ำเสมอด้วยค่ะ
วอร์มไปเรื่อยๆจนกระทั่งเนื้อครีมใส ที่ต้องให้วอร์ม Crème De La Mer ก่อนการทาเพราะว่าเนื้อครีมของเขามีความพิเศษตรงที่เมื่อเราวอร์มไปเรื่อยๆเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นสีใส เรียกง่ายๆว่าเนื้อครีมมี 2 Texture ในหนึ่งเดียวนั่นเองค่ะ
จากนั้นกดแตะเบาๆให้ทั่วบริเวณผิวหน้าและลำคอ หรือแม้บริเวณบอบบางอย่างรอบดวงตา เอมจะเน้นที่รอบดวงตากับร่องแก้มเป็นพิเศษหน่อยค่ะ เพราะว่าก็แหม!!! อายุป่านนี้แล้วนะคะ ริ้วรอยต่างๆก็พากันตบเท้าก้าวเข้ามาเยือนใบหน้าของเอมอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ ต้องการดูแลตรงไหนก็เน้นตรงนั้นเป็นพิเศษได้เลยค่ะ
ในเนื้อครีมของ Crème De La Mer เขามีน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ ซึ่งได้ถูกกักเก็บไว้ด้วยระบบส่งผ่านส่วนผสมพิเศษเพื่อเก็บรักษาคุณประโยชน์จากธรรมชาติเอาไว้อย่างครบถ้วน เคล็ดลับในการปลดปล่อยพลังงานและสารอาหารหลักสำคัญเพื่อให้ได้รับคุณค่าการบำรุงสูงสุด นี่ล่ะคือเหตุผลที่ว่า "ถ้าไม่วอร์ม ก็ไม่เวิร์ค" นะคะ
หลังจากทา Crème De La Mer เสร็จแล้ว ผิวหน้าก็จะดูชุ่มชื่น ดูอิ่มน้ำและสดใสขึ้นมา 1 ระดับค่ะ เรื่องสิวสวยใสไม่ใช่ทาแค่ครั้งเดียวแล้วจะใสได้เลยนะคะ ต้องประกอบรวมกับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งอาหารการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอ ถ้าเราใส่ใจในจุดนี้ ผิวใสๆก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
สำหรับ Crème De La Mer นอกจากจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นแล้วยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว ช่วยให้ผิวไม่แพ้ง่าย เหมือนเป็นการเสริมเกราะป้องกันผิวไปในตัวแถมยังช่วยเรื่อลดเลือนริ้วรอยต่างๆได้ดีอีกด้วยนะคะ หลังจากที่ใช้ Crème De La Mer ก็ไม่แปลกใจอีกเลยว่าทำไมถึงได้ขึ้นแท่นเป็นครีมที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะได้ลองใช้ดูสักครั้ง
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Pantip มากๆนะคะ ที่ได้เลือกให้เอมเป็น 1 ในผู้โชคดีและได้มีโอกาสลองใช้ครีมที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันกับเขาดูบ้าง ขอบคุณสำหรับโอกาสที่มอบให้นะคะ
[SR] รีวิว Crème De La Mer กระปุกใหญ่ ไซส์ 60 ml.
ตอนที่ได้รับทราบว่าเป็น 1 ในผู้โชคดีทั้ง 10 ท่าน เอมถึงกับกรี๊ดเลยค่ะ เพราะก็ต้องบอกตามตรงว่า Crème De La Mer เป็นครีมในฝันของหลายๆท่าน เนื่องด้วยคุณสมบัติในการดูแลผิวต่างๆที่อัดแน่นเต็มกระปุกจริงๆค่ะ ซึ่งคุณสมบัติที่อัดแน่นขนาดนั้นก็นำพามาซึ่งราคาที่ค่อนข้างแพงถึงขั้นแพงมากๆ ส่วนตัวของเอมเองไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ใช้หรอกค่ะ เพราะมันค่อนข้างสวนทางกับรายได้เยอะอยู่นะ แต่พอได้รับเป็นรางวัลมาก็รู้สึกดีใจมากๆค่ะ นี่เล่าไปก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลยนะ ^^
ให้ดูความหรูหราไฮโซของนางนะคะ แม้กระทั่งถุงที่ใส่ Crème De La Mer ก็ยังดูหรูหราเลย ตอนที่เอมไปรับ Crème De La Mer แล้วหิ้วถุงนี้ในห้างก็มีแต่คนมองนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าเขามองอะไร ก็ได้แต่ยิ้มๆไป เขาคงคิดล่ะนะว่า "นี่แกสอย Crème De La Mer เลยเหรอ?"
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านเอมก็ได้ลองเอากระปุกเล็กมาวางคู่กับกระปุกใหญ่ดูค่ะ ซึ่งขนาดก็แตกต่างกันมาก แต่ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ คุณภาพที่อยู่ในกระปุกก็เท่ากันค่ะ อันนี้เอมคอนเฟิร์มเลย เพราะลองใช้มาทั้งคู่แล้วค่ะ พี่ๆ BA ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับครีมตัวนี้มาเยอะมากๆ เอาเป็นว่าเอมจะเล่าให้ทุกคนอ่านตามที่เอมจำได้แล้วกันนะคะ
Crème De La Mer
เป็นเนื้อครีมเข้มข้น ที่มอบความชุ่มชื้นพิเศษให้กับผิว มีต้นกำเนิดจากท้องทะเลลึกอันเป็นตำนานที่อุดมด้วยคุณค่าแห่งการฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ ช่วยให้เส้นริ้วและริ้วรอยลดเลือนลง ผิวแลดูกระชับ รูขุมขนดูจางลง ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพช่วยฟื้นบำรุงได้แม้กระทั่งผิวที่แห้งที่สุด ช่วยให้ผิวสดใส แลดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณค่าจากสารอาหารมากมายที่มีอยู่ในน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ หัวใจหลักของ ลาแมร์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมการทำงานของกระบวนการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ จะช่วยฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิวที่บอบบาง ให้กลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใส เปล่งประกายผิวสุขภาพดี เหล่านี้คือข้อมูลจากทางแบรนด์ที่พี่ๆ BA Lamer เล่าให้เอมฟังนะคะ
ในถุง Crème De La Mer ก็ยังมีไม้พายตักครีมมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้สำคัญมากนะคะ เพราะเราไม่ทราบหรอกค่ะว่ามือของเรามีเชื้อโรคหรือไปสัมผัสอะไรต่างๆมาบ้างหรือเปล่า ทางที่ดีเพื่อที่ Crème De La Mer จะได้มีอายุและคุณภาพเข้มข้นดังเดิม เราควรใช้ไม้พายตักครีมจะดีกว่านะคะ เพื่อความถูกสุขอนามัยของตัวคุณเองด้วยค่ะ
เนื้อครีมมีสีขาวขุ่นข้น แต่ไม่ได้รู้สึกเหนียวนะคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเอมมีผิวผสมด้วยหรือเปล่า แต่บริเวณที-โซนของเอมหลังจากทา Crème De La Mer ก็ไม่ได้มีน้ำมันออกมาหรือทำให้หน้าเอมเหนียวเลยนะคะ เป็นความรู้สึกชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่าผิวหน้าดูมีน้ำมีนวลทุกครั้งที่ทาเลยค่ะ สังเกตจากเนื้อครีมได้เลยมีความยุบตัวลงไปค่อนข้างมากอยู่ค่ะ เพราะว่าตั้งแต่ได้น้องเขามาก็ทาทุกวันเลยค่ะ
วิธีใช้ที่ถูกต้องของ Crème De La Mer : โดยการใช้ไม้พายตักครีมออกมาไม่ต้องมากนะคะ กะปริมาณให้พอดีกับหน้าของเราต่อการทา 1 ครั้งนะ (ไม่งั้นตักมาเยอะเกินไป เสียดายแย่เลยค่ะ)
จากนั้นก็วอร์มครีมปริมาณเล็กน้อยด้วยการลูบไล้ไปมาบริเวณปลายนิ้วทั้งสองข้าง วอร์มไปเรื่อยๆ การวอร์มที่ถูกต้องคือจะต้องใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 นิ้วของมือทั้งข้าง ในการวอร์มครีมให้แตกตัวค่ะ ถึงจะถูกต้อวนะคะ จะใช้นิ้วเดียวหรือสองนิ้วไม่ได้นะ เพราะครีมจะแตกตัวไม่สม่ำเสมอกันและประสิทธิภาพในการบำรุงอาจจะได้ไม่สม่ำเสมอด้วยค่ะ
วอร์มไปเรื่อยๆจนกระทั่งเนื้อครีมใส ที่ต้องให้วอร์ม Crème De La Mer ก่อนการทาเพราะว่าเนื้อครีมของเขามีความพิเศษตรงที่เมื่อเราวอร์มไปเรื่อยๆเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นสีใส เรียกง่ายๆว่าเนื้อครีมมี 2 Texture ในหนึ่งเดียวนั่นเองค่ะ
จากนั้นกดแตะเบาๆให้ทั่วบริเวณผิวหน้าและลำคอ หรือแม้บริเวณบอบบางอย่างรอบดวงตา เอมจะเน้นที่รอบดวงตากับร่องแก้มเป็นพิเศษหน่อยค่ะ เพราะว่าก็แหม!!! อายุป่านนี้แล้วนะคะ ริ้วรอยต่างๆก็พากันตบเท้าก้าวเข้ามาเยือนใบหน้าของเอมอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ ต้องการดูแลตรงไหนก็เน้นตรงนั้นเป็นพิเศษได้เลยค่ะ
ในเนื้อครีมของ Crème De La Mer เขามีน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ ซึ่งได้ถูกกักเก็บไว้ด้วยระบบส่งผ่านส่วนผสมพิเศษเพื่อเก็บรักษาคุณประโยชน์จากธรรมชาติเอาไว้อย่างครบถ้วน เคล็ดลับในการปลดปล่อยพลังงานและสารอาหารหลักสำคัญเพื่อให้ได้รับคุณค่าการบำรุงสูงสุด นี่ล่ะคือเหตุผลที่ว่า "ถ้าไม่วอร์ม ก็ไม่เวิร์ค" นะคะ
หลังจากทา Crème De La Mer เสร็จแล้ว ผิวหน้าก็จะดูชุ่มชื่น ดูอิ่มน้ำและสดใสขึ้นมา 1 ระดับค่ะ เรื่องสิวสวยใสไม่ใช่ทาแค่ครั้งเดียวแล้วจะใสได้เลยนะคะ ต้องประกอบรวมกับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งอาหารการกิน การพักผ่อนที่เพียงพอ ถ้าเราใส่ใจในจุดนี้ ผิวใสๆก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
สำหรับ Crème De La Mer นอกจากจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นแล้วยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว ช่วยให้ผิวไม่แพ้ง่าย เหมือนเป็นการเสริมเกราะป้องกันผิวไปในตัวแถมยังช่วยเรื่อลดเลือนริ้วรอยต่างๆได้ดีอีกด้วยนะคะ หลังจากที่ใช้ Crème De La Mer ก็ไม่แปลกใจอีกเลยว่าทำไมถึงได้ขึ้นแท่นเป็นครีมที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะได้ลองใช้ดูสักครั้ง
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Pantip มากๆนะคะ ที่ได้เลือกให้เอมเป็น 1 ในผู้โชคดีและได้มีโอกาสลองใช้ครีมที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันกับเขาดูบ้าง ขอบคุณสำหรับโอกาสที่มอบให้นะคะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้