สวัสดีค่ะ ขอออกตัวก่อนเลยว่าเป็นครั้งแรกที่รีวิวการใช้สกินแคร์ ปกติก็จะแค่เข้ามาอ่านกระทู้ทั่วไป แต่มาสะดุดตรง LA MER เชิญชวนรีวิวผลิตภัณฑ์ The Treatment Lotion หรือที่เรียกกันว่า น้ำตบลาแมร์นั่นเองค่ะ ด้วยความที่เราเองก็เพิ่งไปสอยมาได้ไม่นาน จึงอยากร่วมกิจกรรมนี้ แล้วเราก็เป็น 1 ใน 20 ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากทาง Pantip รางวัลที่ได้คือ The Treatment Lotion 150 ml  และ The Treatment Lotion Hydrating Mask 1 แผ่น



การรีวิวของเราจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เป็นความรู้สึกของตัวเองและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น เราไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมากมายกับน้ำตบ เพียงแค่ต้องการผิวที่ชุ่มชื้นขึ้นและทำให้เครื่องสำอางติดมากขึ้นเท่านั้นเอง น้ำตบไม่ใช่ยาวิเศษเพราะฉะนั้นจะคาดหวังให้ผิวของเราสวยขึ้นในเวลาไม่กี่วันเหมือนครีมในอินเตอร์เน็ต น่าจะเป็นไปได้ยาก แค่ผิวค่อยๆ ดีขึ้นๆ เรื่อยๆ แข็งแรงขึ้นพร้อมบำรุงในขั้นตอนต่อไปก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา ต้องบอกก่อนว่าปัจจุบันอายุ 36 ปี สภาพผิวเราเป็นผิวมัน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีสิวขึ้นบ้าง ประปราย 



The Treatment Lotion
โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความชุ่มชื้นและเตรียมผิวเพื่อการบำรุงขั้นตอนต่อไป

รายละเอียดผลิตภัณฑ์
โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ผิวชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ มอบผิวแลดูนุ่ม เรียบเนียนและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ถ้าดูจากในรูปจะเห็นว่าเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำใสๆ ที่มีความหนืดอยู่นิดๆ

วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์
หลังจากล้างหน้า หยดโลชั่นเล็กน้อยลงบนปลายนิ้วหรือบนสำลี กดแตะลงบนผิวเบาๆ แล้วตามด้วยการบำรุงผิวด้วยเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ในขั้นตอนต่อไป สำหรับเราใช้วิธีการเทใส่มือแล้วตบลงบนที่ผิวหน้าเบาๆ ค่ะ เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมลงผิวได้ง่ายขึ้น

ขนาดและราคา
100 ml / 3,400 บาท     150 ml / 5,100 บาท      200 ml / 6,300 บาท
 

หลังจากที่เราใช้ Crème de La Mer แล้วชอบมากจึงทำให้อยากซื้อ The Treatment Lotion ตัวนี้มาลอง โดยมีส่วนผสมตัวเด่นคือ Miracle Brothน้ำหมักสกัดจากสาหร่าย Sea Kelp ในตำนานที่มีในครีมนั้นเป็นส่วนประกอบหลักของโลชั่นตัวนี้เช่นกัน
มาดูคุณสมบัติของตัว Miracle Broth คือส่วนผสมที่ให้ผลกับกระบวนการเสริมสร้างผิวใหม่ หรือช่วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยนขั้นสุด ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น ปลอบประโลมผิวจากสภาพอากาศ และคุณสมบัติทั้งหมดนี้จะทำให้ผิวคุณดูเรียบเนียนเปล่งประกายสวยงามนั่นเองค่ะ
และยังมีส่วนผสมอีก 2 ตัวที่นอกเหนือจาก Miracle Broth คือ Softening Waters เป็นส่วนผสมระหว่างไมโครเจลจากสาหร่าย และไฮยาลูรอนิคช่วยให้ผิวนุ่มเด้งน่าและ Revitalizing Ferment น้ำหมักอีกสูตรหนึ่งจากสาหร่ายอีกชนิด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายซาเฮล ทวีปแอฟริกา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความทนต่อสภาพอากาศ สามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับการสกัดมาใช้ในบ้านเรา เนื่องจากเราต้องเผชิญสภาวะอากาศนอกบ้านที่ร้อนจัด และในออฟฟิศที่เปิดแอร์เย็นมากจนผิวสูญเสียความชุ่มชื้น

ตามรูปจะเป็นผลลัพธ์หลังจากได้ทดลองใช้เป็นเวลา 6 วัน โดยวันที่ 7 จะอยู่ด้านล่างนะคะ


ความรู้สึกหลังจากได้ทดลองใช้เป็นเวลา 7 วัน 
🙂 ผิวที่มีความมันเริ่มปรับสมดุลให้เป็นผิวปกติทั่วทั้งใบหน้า จากหน้ามันก็เปลี่ยนเป็นฉ่ำวาว ปลื้มมากค่ะ
🙂 รอยแดงและผดเล็กๆ ที่เกิดจากการแพ้ก่อนหน้าได้หายไป
🙂 ผิวดูแข็งแรง และเรียบเนียนขึ้น
🙂 รู้สึกได้เลยว่าผิวดูชุ่มชื่นขึ้น เด้งขึ้น
🙂 ทำให้การแต่งหน้ามีความสุขมากขึ้น จากการที่ผิวเนียนทำให้แต่งหน้าออกมาสวยขึ้น ผิวดูฉ่ำน้ำ เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น 
 

 และสุดท้ายขอลาไปด้วยรูปที่แต่งหน้า เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นว่าน้ำตบ LA MER ทำให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นค่ะ 
หวังว่าการรีวิวของเราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ และขออภัยด้วยหากข้อความหรือเนื้อหาอาจจะตกหล่นไปบ้าง รวมทั้งแสงของรูปถ่ายที่ไม่เท่ากันด้วยเวลากระชั้นชิด และเพิ่งเคยเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก ยังงงๆ อยู่ค่ะ สัญญาว่าครั้งต่อไปจะทำให้ดีขึ้นค่ะ ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากทดลองเนื้อผลิตภัณฑ์ หรืออยากทดสอบว่าแพ้รึป่าว ลองไปขอทดสอบได้ที่เคาน์เตอร์ LA MER ทุกสาขานะคะ BA แบรนด์นี้เป็นมิตรมากค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับลูกค้าดีมากๆ เลยค่ะ