สวัสดีค่ะ ชาวพันทิป ตลอดจนมิตรรักแฟนLa Mer แบรนด์เครื่องสำอางค์ Hi-End ตัวดังระดับโลก วันนี้ถือโอกาสฤกษ์งามยามดี มาเปิดวาร์ปผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion " เพราะหลังจากที่ได้ทดลองใช้กับตัวเองต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 วัน เลยคิดว่าไม่รีวิวไม่ได้แล้ลลลลลล อร๊ายยยยย
เนื่องด้วยว่าช่วงนี้ผิวเราเป็นสิว ทั้งเป็นสิวผด ผื่นคันแพ้ง่ายมว๊ากกกก...จนไม่กล้าที่จะใช้อะไรมาดูแลมากมายนัก กลัวววสิวนางจะยิ่งเห่อกันเข้าไปใหญ่ เลยหยุดทุกอย่างที่คิดว่าเป็นการเสี่ยง ประกอบกับเป็นจังหวะที่ทาง ppantip.com จัดกิจกรรม โดยเราได้มีโอกาส มีโชคกับเค้าได้ไปรับตัวผลิตภัณฑ์
" La Mer The Treatment Lotion " ที่สาขา ZEN @Central World กราบบบขอบน้ำใจ ppantip.com มาไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยเจ้าค่าา
วันที่ไปรับผลิตภัณฑ์ เราทึ่งกับการให้บริการของ บีเอคนสวย ประจำเคาน์เตอร์ La Mer สาขา Zen@Central World มากกกก มาเหนื่อยๆ พอไปถึงที่เคาน์เตอร์ ก็มีการเชื้อเชิญให้นั่งพร้อมเสิร์ฟความสดชื่นกันด้วยน้ำแร่แสนชื่นใจ บวกกับรอยยิ้มที่สดใส จริงใจในการให้บริการของทางบีเอ ชนะเลิศค่าาาา
หลังจากที่ได้กรอกข้อมูลในการรับผลิตภัณฑ์ พร้อมกับแนะนำสาธิตวิธีการใช้ และคุณสมบัติที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion " ขวดใหญ่สีเขียวหรูหราขวดนี้ เราพบว่านางมีคุณสมบัติที่น่าทึ่ง คือเหมาะและใช้ได้กับสภาพผิวทุกประเภท เป็น Treatment Lotion ที่สามารถใช้เป็น Daily Use คือสามารถใช้ได้ทุกวัน วันไหนผิวพัง ผิวดูแย่ ดูไม่อิ่มน้ำไม่สดใส มีเจ้าขวดเขียวตัวนี้ช่วยกู้ชีพให้ผิวเราได้อย่างน่าอัศจรรย์
ส่วนผสมอันเลอค่า " Miracle Broth" คือน้ำหมักสกัดจาก" สาหร่าย Sea Kelp " ในตำนานที่เป็นส่วนผสมหลัก ที่มีใน " Crème de La Mer "
เคลม เดอ ลาแมร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวดังของเค้าหละ
" Miracle Broth" คืออะไร มีหน้าที่และคุณสมบัติอย่างไร เจ้าน้ำหมักสกัดจาก " สาหร่าย Sea Kelp " ในตำนานขวดนี้ เค้ามีหน้าที่ที่จะช่วยในเรื่องส่งผลกับกระบวนการเสริมสร้างผิวใหม่ พูดง่ายๆก็คือมีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิวจากความไม่สมดุลของภายใต้ชั้นผิว ให้กลับมาชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้ดูสดชื่น อิ่มน้ำ
ส่วนผสมหลักๆ ที่จับมือกันทำหน้าที่ดูแลผิวควบคู่กันกับน้ำหมักสาหร่าย " Miracle Broth " ก็คือ... " Softening Waters " ซึ่งเป็นส่วนผสมจากไมโครเจลสาหร่ายและ Hyaluronic Acid ที่จะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิวภายใต้ชั้นผิวให้ฟื้นฟู ยืดหยุ่นและดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย
และสารสกัดจาก The Revitalizing Ferment ที่มี " สาหร่าย Marine Algae Scenedesmus " ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายซาเฮล ทวีปแอฟริกา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของความ อึด ถึก ทนทานต่อสภาพอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะมากกกก กับการนำมาเป็นส่วนผสมซึ่งใช้กับผิวที่มีปัญหาหลักๆเกิดจากสภาพอากาศอันโหดร้ายแบบบ้านเรา ... ดีงามมมมเนอะ
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่า เราหยุดการบำรุง เพราะผิวมีสิวเกิดขึ้นพร้อมทิ้งรอยเอาไว้ให้ช้ำใจเล่น ฮือๆ ซึ่งสาเหตุหลักก็น่าจะมาจากการดูแลความสะอาดไม่เพียงพอ บวกกับมี LifeStyle ของชีวิตของเรา ในความเป็นสาว Active Girls เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร่ม เดี๋ยวแดด 555 การดำเนินชีวิตต้องเจอะเจอกับความเสี่ยงของปัญหาผิวที่จะต้องเกิดขึ้น ความไม่สมดุลของผิว ตลอดจนความเครียด ฝุ่นควัน มลภาวะอย่างหนักหน่วงในตอนนี้นี่อะตัวดีเลย โอ๊ยยยยยย ช่วยด้วยย !! ผิวกำลังส่งสัญญาณแล้วววว ... S.O.S ไม่ไหวแล้ว พังจ้าพังงงง
เอาเป็นว่าภายใต้ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีให้เห็นอยู่เนืองๆ เพราะหลังจากที่ได้ไปรับผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion "นี่แอบมีลังเลจะใช้ดีไม๊น้าาา ก็เถียงกับกิเลสตัวเอง ระหว่าง ตัวดีกับตัวร้าย อยู่พักนึง ก็ได้บทสรุปว่า " ถ้าอยากมีผิวสวยจะรออัลไลลลล เอ้าาาลองมันคืนนี้เลย "
หลังจากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งทาง BA La Mer ได้มอบ " La Mer The Treatment Lotion " ขนาด 5 ML.มาให้ลองใช้นั้น คืนแรกหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ พบว่า ผิวนุ่ม เด้ง อิ่มฟูขึ้น รู้สึกมีน้ำนวล แต่!!...เดี๋ยวก่อน ความอัศจรรย์คืนแรกจะเห็นผลไวขนาดนี้หรอ ทดสอบต่อเลยจ้าาา ทาเช้าและเย็น ใช้เพียงแค่ขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท ก็สามารถทาได้ทั่วทั้งหน้าแล้ว Texture เนื้อสัมผัสของ " La Mer The Treatment Lotion " ที่เป็นเนื้อโลชั่นแบบเจลเกือบใสแต่ไม่ถึงกับไหลแบบน้ำ ยังคงมีความหนืดอยู่ เมื่อทาลงบนผิวจะรู้สึกได้ถึงความเย็นฉ่ำๆที่เคลือบอยู่บนผิวหน้า มีความนุ่มลื่นละมุนเคลือบอยู่บนตัวผิว และให้กลิ่นสัมผัสที่หอมสดชื่นอ่อนๆ ตามแบบฉบับของลาแมร์ !!!
ซึ่งวิธีการใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร คือ " ใช้เป็นลำดับแรกหลังจากล้างหน้า " ก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ เทใส่อุ้งมือขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท ทาให้เนื้อโลชั่นกระจายตัวบนผิวหน้า ก่อนใช้อุ้งมือกดโลชั่นเบาๆให้ทั่วผิวหน้า หรือจะหยดเนื้อโลชั่นลงบนสำลีนำมาเช็ดเบาๆทั่วทั้งผิวหน้าและอย่าลืมบริเวณลำคอด้วยนะ ต้องใช้ให้คุ้ม ( แอบงก ) 55555 หรือหากวันไหนเหนื่อยมากกก หรือมีเวลาเยอะหน่อย จะใช้เป็นมาส์กชีท โดยการหยดผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion " ลงบนแผ่นมาส์กชีท แล้วก็นอนมาส์กหน้าชิลล์ๆ ไป อร๊ายยยย...ชีวิต มันช่างดีงามอะไรเช่นนี้น๊าาาา
สภาพผิวหน้าก่อนใช้ " La Mer The Treatment Lotion "
ขณะกำลังใช้ " La Mer The Treatment Lotion " ทาบนผิวหน้า
ผลลัพธ์หลังจากใช้ แค่เพียง 10 วันบอกเลยว่า....ประทับใจมากกกกกก ( กอไก่ล้านตัว ) " La Mer The Treatment Lotion " ตอบโจทย์กับทุกปัญหาผิวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนเลยนั่นก็คือ
-- ผิวที่อ่อนล้า มีความนุ่มละเอียดขึ้นเยอะมากก ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวดูเด้ง ดูกระชับขึ้นมากก
-- ผิวที่เป็นสิว สิวผด ที่เกิดจากการแพ้ และรอยแดงต่างๆ รอยสิว รอยจุดด่างดำ จางหายไป ไม่ทิ้งร่องรอยเหลือไว้ให้ช้ำใจอีกแล้วค่ะ
-- ผิวหน้าที่เคยมันมากก " La Mer The Treatment Lotion " คืนค่าความสมดุลที่เป็นกลางให้กับผิว ทำให้ผิวไม่ผลิตน้ำมันออกมากเกินไป ทำให้ผิวตอนนี้ ดูฉ่ำๆ ดูมีออร่า ทำให้การแต่งหน้าต่อไปกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลย
สภาพผิวหน้าหลังจากใช้ " La Mer The Treatment Lotion " 10 วันแล้วว
ผิวหน้าหลังจากลงเมคอัพ งานผิวดีที่แท้ทรู ไม่แต่งเน้นปกปิดเยอะ
เพราะอยากอวดงานผิวหลังจากที่ได้ใช้ " La Mer The Treatment Lotion " ว่ามันดีงามมากแค่ไหน
มีแต่คนถามว่าใช้อะไร ทำไมหน้าใสขึ้นมากกก ก็บอกไปสิค่ะ " ใช้ La Mer The Treatment Lotion " ค่าาา
สรุปคือ ... เมื่อผลลัพธ์ของผิวจากการที่ได้ทดลองใช้ " La Mer The Treatment Lotion " เป็นระยะเวลา 10 วัน ทำให้โดยรวมคือ ความประทับใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์ เลิฟมากกกกกกกก เป็น Must Have ของเราไปแล้วว เราให้ 9 เต็ม 10 เลยอะะ หัก 1 คะแนน เพราะราคาแอบแรงพอสมควร แต่ก็ไม่เกินกำลังที่จะเอื้อมถึง >_< นี่แอบเล็งไว้หลายตัวเลยหละ ของดีมักขายตัวมันเองเนอะ ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ ( แค่กๆๆ ) ต่อไปคิดว่า โต๊ะเครื่องแป้งที่บ้าน คงจะมี Skin Care แบรนด์ La Mer ออกลูกออกหลานวางอยู่เต็มไปหมดแน่ๆ รอโบนัสปลายปีออกก่อนนนะะะะะะ แล้วจิไปตำน๊าาา รอแม่ก่อนนะลูกกก 555
[SR] รีวิวผลลัพธ์กับผลิตภัณฑ์ตัวดังในตำนาน " La Mer The Treatment Lotion "
เคลม เดอ ลาแมร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวดังของเค้าหละ
" Miracle Broth" คืออะไร มีหน้าที่และคุณสมบัติอย่างไร เจ้าน้ำหมักสกัดจาก " สาหร่าย Sea Kelp " ในตำนานขวดนี้ เค้ามีหน้าที่ที่จะช่วยในเรื่องส่งผลกับกระบวนการเสริมสร้างผิวใหม่ พูดง่ายๆก็คือมีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิวจากความไม่สมดุลของภายใต้ชั้นผิว ให้กลับมาชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้ดูสดชื่น อิ่มน้ำ
ส่วนผสมหลักๆ ที่จับมือกันทำหน้าที่ดูแลผิวควบคู่กันกับน้ำหมักสาหร่าย " Miracle Broth " ก็คือ... " Softening Waters " ซึ่งเป็นส่วนผสมจากไมโครเจลสาหร่ายและ Hyaluronic Acid ที่จะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิวภายใต้ชั้นผิวให้ฟื้นฟู ยืดหยุ่นและดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย
และสารสกัดจาก The Revitalizing Ferment ที่มี " สาหร่าย Marine Algae Scenedesmus " ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายซาเฮล ทวีปแอฟริกา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของความ อึด ถึก ทนทานต่อสภาพอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะมากกกก กับการนำมาเป็นส่วนผสมซึ่งใช้กับผิวที่มีปัญหาหลักๆเกิดจากสภาพอากาศอันโหดร้ายแบบบ้านเรา ... ดีงามมมมเนอะ
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่า เราหยุดการบำรุง เพราะผิวมีสิวเกิดขึ้นพร้อมทิ้งรอยเอาไว้ให้ช้ำใจเล่น ฮือๆ ซึ่งสาเหตุหลักก็น่าจะมาจากการดูแลความสะอาดไม่เพียงพอ บวกกับมี LifeStyle ของชีวิตของเรา ในความเป็นสาว Active Girls เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร่ม เดี๋ยวแดด 555 การดำเนินชีวิตต้องเจอะเจอกับความเสี่ยงของปัญหาผิวที่จะต้องเกิดขึ้น ความไม่สมดุลของผิว ตลอดจนความเครียด ฝุ่นควัน มลภาวะอย่างหนักหน่วงในตอนนี้นี่อะตัวดีเลย โอ๊ยยยยยย ช่วยด้วยย !! ผิวกำลังส่งสัญญาณแล้วววว ... S.O.S ไม่ไหวแล้ว พังจ้าพังงงง
เอาเป็นว่าภายใต้ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีให้เห็นอยู่เนืองๆ เพราะหลังจากที่ได้ไปรับผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion "นี่แอบมีลังเลจะใช้ดีไม๊น้าาา ก็เถียงกับกิเลสตัวเอง ระหว่าง ตัวดีกับตัวร้าย อยู่พักนึง ก็ได้บทสรุปว่า " ถ้าอยากมีผิวสวยจะรออัลไลลลล เอ้าาาลองมันคืนนี้เลย "
ซึ่งวิธีการใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร คือ " ใช้เป็นลำดับแรกหลังจากล้างหน้า " ก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ เทใส่อุ้งมือขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท ทาให้เนื้อโลชั่นกระจายตัวบนผิวหน้า ก่อนใช้อุ้งมือกดโลชั่นเบาๆให้ทั่วผิวหน้า หรือจะหยดเนื้อโลชั่นลงบนสำลีนำมาเช็ดเบาๆทั่วทั้งผิวหน้าและอย่าลืมบริเวณลำคอด้วยนะ ต้องใช้ให้คุ้ม ( แอบงก ) 55555 หรือหากวันไหนเหนื่อยมากกก หรือมีเวลาเยอะหน่อย จะใช้เป็นมาส์กชีท โดยการหยดผลิตภัณฑ์ " La Mer The Treatment Lotion " ลงบนแผ่นมาส์กชีท แล้วก็นอนมาส์กหน้าชิลล์ๆ ไป อร๊ายยยย...ชีวิต มันช่างดีงามอะไรเช่นนี้น๊าาาา
ขณะกำลังใช้ " La Mer The Treatment Lotion " ทาบนผิวหน้า
ผลลัพธ์หลังจากใช้ แค่เพียง 10 วันบอกเลยว่า....ประทับใจมากกกกกก ( กอไก่ล้านตัว ) " La Mer The Treatment Lotion " ตอบโจทย์กับทุกปัญหาผิวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนเลยนั่นก็คือ
-- ผิวที่อ่อนล้า มีความนุ่มละเอียดขึ้นเยอะมากก ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวดูเด้ง ดูกระชับขึ้นมากก
-- ผิวที่เป็นสิว สิวผด ที่เกิดจากการแพ้ และรอยแดงต่างๆ รอยสิว รอยจุดด่างดำ จางหายไป ไม่ทิ้งร่องรอยเหลือไว้ให้ช้ำใจอีกแล้วค่ะ
-- ผิวหน้าที่เคยมันมากก " La Mer The Treatment Lotion " คืนค่าความสมดุลที่เป็นกลางให้กับผิว ทำให้ผิวไม่ผลิตน้ำมันออกมากเกินไป ทำให้ผิวตอนนี้ ดูฉ่ำๆ ดูมีออร่า ทำให้การแต่งหน้าต่อไปกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลย
ผิวหน้าหลังจากลงเมคอัพ งานผิวดีที่แท้ทรู ไม่แต่งเน้นปกปิดเยอะ
เพราะอยากอวดงานผิวหลังจากที่ได้ใช้ " La Mer The Treatment Lotion " ว่ามันดีงามมากแค่ไหน
มีแต่คนถามว่าใช้อะไร ทำไมหน้าใสขึ้นมากกก ก็บอกไปสิค่ะ " ใช้ La Mer The Treatment Lotion " ค่าาา
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม