ทำไมงานออฟฟิศแบบ Routine เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยอยากจะทำกันหรอ

มนุษย์เงินเดือนมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น มีแต่ผู้ประกอบการเต็มไปหมด ลูกจ้างเป็นแรงงานเพื่อนบ้านเดินยั้วเยี้ยแทบจะชนกัน
เด็กจบใหม่ไม่ชอบงานออฟฟิศ ชอบเป็นนายตัวเอง คนไทยไหลออกจากระบบการทำงานเยอะขึ้น
ส่วนคนไทยหน่ะหรอ ไม่เปิดกิจการเอง ก็เป็นนายตัวเอง มีทั้งรอดและไม่รอด เจ็บตัวกันไป 
คนว่างงาน ตกงาน และรายชื่อจัดหางานให้คนไทยค้างในบัญชีเป็นแสนๆ เลือกงานกันหรือว่าอะไร

งานนี้ใครกันที่เป็นฝ่ายเดือดร้อน ลูกจ้างหรือผู้ประกอบการ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
เคยออกมาทำธุรกิจตั้งแต่อายุน้อยๆ ตอน 27 ปี ทำไปได้ 6 เดือนแล้วเจ๊งไม่เป็นท่าค่ะ
เก็บเงินตั้งแต่อายุ 22-25 ได้เงินมา 200,000 ลงทุนแล้วขายไม่ได้ 6 เดือนปิดกิจการ
อีก 6 เดือน ตกงานไม่มีอะไรกิน เลยทำให้รู้ว่า ไม่มีอะไรมั่นคงเท่ากับงานประจำอีกแล้วค่ะ
มีระบบประกันสังคม มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทดีๆ ก็มีสวัสดิการมากมายให้พนักงาน
ตอนนี้ไม่มีความคิดในหัวที่จะกลับไปทำธุรกิจส่วนตัวเลยค่ะ รู้แล้วว่าไม่ถนัดจริงๆ
งานประจำมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เดือนหนึ่งทำงานประมาณ 22 วัน ก็คิดง่ายๆนะคะ
สมมุติเงินเดือน 45,000 บาท / 22 วัน ก็เท่ากับได้วันละ 2,000 บาท (วันหยุดใช้เงินน้อยๆ)
ซึ่งถ้าให้ดิฉันไปค้าขายนี่ กำไร 2,000 ต่อวันนี่เหนื่อยแทบตายกว่าจะหาได้สำหรับดิฉัน
ย้ำ!!!!!! ดิฉันพูดถึงตัวเอง ขีดจำกัดและความสามารถตัวเอง ไม่เทียบคนอื่นนะคะ
คนที่ทำได้ก็มีและมีเยอะค่ะ ไม่เถียง ซึ่งดิฉันทำไม่ได้ ก็เลยยอมเป็นลูกน้องเขาดีกว่าค่ะ
ใช้สมอง นั่งออฟฟิต ทำงานประจำไป เครียดก็ระบาย พักผ่อน เที่ยว อยู่กับผัว
เครียดหนักๆก็พบจิตแพทย์ กินยาคลายเครียด หลับสบายๆ ไปนวดหัว นวดตัว นวดสปา
ลาพักร้อนบ้าง ไปต่างประเทศเพื่อเปิดประสบการณ์ ช่วงหยุดยาวก็นุ่งขาวห่มขาวเข้าวัด
ก็ประมาณนี้ วันไหนเหนื่อยมาก ก็จะคิดถึงช่วงเวลาตกงาน ทำธุรกิจแล้วเจ๊ง มีกำลังใจทันที
งานประจำไม่ได้เหมาะกับทุกคน และการทำธุรกิจก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเช่นกันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
เนื้องานยังพอไหว แต่ที่ส่วนใหญ่ท้อคือระบบการบริหารหรือคนในองค์กร
ความคิดเห็นที่ 6
การออกมาเป็นนายตัวเองก็ดีครับ ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองมันดีแหละ เพียงแต่ว่า สำหรับความคิดของบางคนนี่เข้าขั้นหลอกตัวเองแหละครับ คือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตอนที่เป็น "เจ้าของกิจการ" กับ "ลูกจ้าง" เนี่ย ต่างกันขนาดไหน

ถ้าพร้อมที่จะรับความเสี่ยงในเรื่องการทำธุรกิจของตัวเอง
ล้มได้โดยไม่เดือดร้อนคนอื่น ๆ ในครอบครัว
ล้มได้หลาย ๆ รอบ โดยไม่เจ็บปวดอะไร

ก็ลองดูเถอะครับ สำหรับผมที่ไม่สามารถล้มได้ ก็เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงาน Routine ต่อไป

ส่วน คุณจขกท. ถ้าคุณหมายถึงพวกที่ลงว่าตัวเองว่างงาน แล้วเรียกมาทำงาน แต่ไม่ยอมมาล่ะก็ คนเหล่านั้น 90% จะขอรับเงินชดเชยจากประกันว่างงานก่อนครับ แล้วค่อยกลับไปหางานทำต่อไป
ความคิดเห็นที่ 21
ทำไมต้องทนเบื่อ ทำไมต้องตื่นเช้า ทำไมต้องไปทนโดนจิกหัวใช้ ทำไมต้องเดินทางที่ตันได้แค่นี้ สู้เอาเวลาชีวิตไปเดินทางที่ไม่ตันสั้นๆดีกว่า ต่อให้ไม่เท่าคนอื่นก็ยังไปต่อได้เรื่อยๆ อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ กำหนดเองได้ พัฒนาไปทางไหนก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องโดนบงการ ไม่ต้องโดนผู้มีอำนาจกดดัน เป็นดั่งโลกในอุดมคติ ช่างดีเลิศ ทำไมคนจะไม่ชอบ  ทุกคนมีความใฝ่สูงกันทั้งนั้นแหล่ะครับ  แต่สุดท้ายคนกลับลืมว่าทุกคนก็มีความเขลา ความขี้เกียจ ความอ่อนแอ ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปได้ไกล ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปได้ในระดับที่เหมาะสม ไม่ได้มองขีดคุณสมบัติของตน ไม่ได้ขวนขวายเพิ่มเติม ไม่ได้พิจารณาถึงสิ่งที่เจ้านายตัวเองเขาต้องทำถึงได้เกิดความคิดข้างต้นพวกนั้น รากเหง้าความคิดเป็นยังไง การพัฒนาของตนก็ไปได้แค่นั้น เริ่มจากความขี้เกียจ เริ่มจากความน้อยเนื้อต่ำใจ เริ่มจากความมักง่าย  สุดท้ายก็ไปได้แค่นั้น   ผลสรุปคือ "เศรษฐกิจไม่ดี"  ใช่ครับ อ่านไม่ผิด  เพราะตนไร้ความสามารถ พ่ายแพ้ อ่อนแอ แต่คิดว่าเดินขึ้นเขาได้โดยไม่ใส่รองเท้า บาดเจ็บ ทรมาน ร้องหาคนช่วย ให้คนมาอุ้มขึ้นไป จนสุดท้ายก็โทษโน่นนี่ ฉันไม่พัฒนาเพราะโลกมันห่วย ประเทศมันแย่ เศรษฐกิจมันไม่ดี ไม่โทษตนเอง ติดหนี้หัวโตและตายหนีปัญหา   เรื่องเดิมๆมากี่สิบปีแล้ว แค่ช่วงนี้มันเยอะเพราะพวกคิดมักง่ายมันเยอะขึ้น    
มัวแต่มองสูงจนลืมมองกำแพงและรั้ว แล้วมโนว่าไม่มีทางตัน ไม่พัฒนา ไม่ต่อบันได    ถ้าว่าแค่ 2 ทาง จะทางไหนก็ไปได้สูงทั้งนั้น จะทางไหนก็ลงมาต่ำได้ทั้งนั้น แค่ต้องใช้ความสามารถที่เหมาะสม  ไอ้ความเชื่อสุดขั้วมโนขายฝันว่าแค่"เปิดเองย่อมดีกว่า" ไร้ซึ่งตรรกะ นี่น่าขัน  แค่มองแบบนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าเลือกโดยไร้ซึ่ง "ความพยายาม"  ขาดคุณสมบัติในการใฝ่สูง ไม่เหมาะกับการพัฒนา ไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าของกิจการระดับใหญ่เลย อย่างดีก็ได้แค่มีรายได้(ใช่ รายได้)แสนๆให้เห็น  เผลอๆลูกจ้างบางที่ยังได้ดีกว่า ด้วยรายได้หลักแสนนั่นที่พอๆกัน แต่ดันมีสวัสดิการและโบนัสกับOT   คนที่มีความสามารถและความพยายาม จะเลือกทางไหนเขาก็ไต่เขาไปได้เรื่อยๆ เขาก็หาทางขึ้นสูงได้เรื่อยๆ  กลับกันพวกเดินตามฟ้า จะเดินทางไหนก็ล้มไม่เป็นท่า ทุกวันนี้คนไทยเราขี้เกียจขึ้น แล้วก็ที่เรียกตัวเองว่าอินดี้ก็มากขึ้น การที่เลือก "ทางนี้" แน่ใจแล้วหรอว่ามีเหตุผลที่ดี?  เพราะมีทางไปได้หรอ หรือเพราะดูเหมือนจะไปได้ หรือแค่เพราะไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากรู้สึกไม่ดี  การทำตามใจมันก็ไม่ผิด แต่ "คิดดีแล้วแน่หรอ" หลักฐานในปัจจุบันมีมากจนเกินพอที่คนไม่เคยสนใจก็เห็นได้ว่าเลือกผิดชีวิตดับ  อย่าเอาชีวิตมาเล่นแค่เหตุผลมักง่าย
ความคิดเห็นที่ 18
ป้าว่า  สมัยนี้  คนไปม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากเป็นนายตัวเอง กันมาก จะเห็นได้จาก คนหันมาทำเกษตรกรรม ปลูกผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ เป็นอาชีพที่
อยู่ได้ ยั่งยืน  จะเห็นได้จาก คนรุ่นใหม่หันมาทำการเพาะปลูกมากขึ้น
เป็นนายตัวเอง  บางคนจะวิศวะ ตรี โท ก็มาทำการเพาะปลูก  เพราะ ต่อให้เทคโนโลยี AI ก้าวไกลไปขนาดไหน  มนุษย์เราต้องกิน กิน กิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่