เฟ้นหาหุ้นดีลงทุนระยะยาว … “ตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของหุ้นที่ดี”
.
การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตการลงทุนจากร้ายกลายเป็นดีได้ ถือเป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ หากเราตัดสินใจไปแล้ว เราต้องถือกิจการที่เราเลือกที่จะเป็นเจ้าของได้อย่างยาวนาน … เรียกได้ว่า เป็นการตัดสินใจครั้งเดียวที่ต้องได้รับผลแห่งการตัดสินใจไปอีก 5-10 ปีเลยทีเดียว
.
การตัดสินใจดังกล่าว ก็คือ การตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของหุ้นที่ดี … หุ้นที่ถ้าเราไม่มีในอีก 5-10 ปีข้างหน้า จะถือว่าเราทำพลาด และไม่ใช่ว่าจะเป็นหุ้นอะไรก็ได้ที่ราคาถูก แต่ต้องเป็นหุ้นที่ใช่จริง ๆ และต้องซื้อในราคาที่เหมาะสม
.
ลองมาดูกันดีกว่าครับว่า หุ้นที่เราตัดสินใจจะเป็นเจ้าของควรมีลักษณะแบบใดบ้าง ไปติดตามกัน
.
ลักษณะแรก … “ต้องมีการเติบโตแบบปลายเปิด”
.
การเติบโตแบบปลายเปิด ก็คือ การเติบโตได้แบบไม่จำกัด หรือสามารถเติบโตได้ยาวนานอย่างน้อย 3-5 ปีขึ้นไป อะไรที่ผิดไปจากนี้เราก็ไม่ควรเก็บเอามาคิดมาใส่ใจให้เสียเวลาไปเปล่า
.
การเติบโตแบบปลายเปิด เราจะสามารถเห็นได้ค่อนข้างชัด แต่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันอาจไม่ค่อยแน่ใจ เช่น การเติบโตของการเดินทางด้วยระบบราง การเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ การที่คนใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น หรือการที่คนในสังคมมีหนี้สินเพิ่มขึ้น เป็นต้น
.
ลักษณะที่สอง … “กิจการต้องมีคูเมืองแข็งแกร่ง”
.
คำว่า “คูเมือง” ในความหมายก็คือ ความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะปรากฏในหุ้นคุณภาพที่มีแบรนด์ที่แข็งแรง เช่น กระเป๋าแบรนด์ดี ๆ ที่จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ตราสินค้าอะไรที่ถ้าเราเข้าร้านแล้วต้องเอาชิ้นนี้เป็นอย่างอื่นไม่ได้
.
ตัวอย่างอื่น ๆ เราก็ต้องพิจารณาว่าเขามีแบรนด์แข็งแกร่งจริงหรือไม่ … เราต้องดื่มชาเขียวยี่ห้อนี้อย่างเดียวหรือเปล่า เราต้องกินสาหร่ายทอดเจ้านี้เท่านั้นหรือไม่ หรือเราต้องกินปลาเส้นเจ้านี้เจ้าเดียว … สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการประเมินเชิงคุณภาพที่จะบอกอนาคตของงบการเงินล่วงหน้าของกิจการนั้น ๆ
.
ลักษณะที่สาม … “การเติบโตต้องชนะเงินเฟ้อ”
.
อะไรก็ตามที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้ ในระยะยาวแล้วมันจะเติบโตอย่างยั่งยืน … หลายคนคิดว่ามีเงินสดนั้นดี แต่หากเราเป็นคนมีเงินพันล้านในประเทศเวเนซูเอล่า ที่มีเงินเฟ้อพันเปอร์เซ็นต์ เงินพันล้านเราจะเหลือแค่ล้านเดียว เรียกว่าจากเศรษฐีกลายเป็นคนธรรมดา
.
แต่หากเราไปซื้อสินค้าในประเทศเวเนซูเอล่า เราจะพบว่า ของมันขึ้นราคาตามอัตราเงินเฟ้อทุกวัน บางวันราคาของในตอนเช้าเป็นแบบหนึ่ง พอมาตอนเย็นราคาขึ้นไปอีกไกลมากด้วยอำนาจของเงินเฟ้อ ดังนั้น ถ้าเราอยู่ประเทศที่เงินเฟ้อรุนแรง เรานำเงินไปซื้อกิจการที่ผลิตสินค้าที่ขึ้นราคาได้ตามเงินเฟ้อจะดีกว่า
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ … กิจการที่เราต้องมี ต้องตัดสินใจเป็นเจ้าของ ไม่ใช่กิจการอะไรก็ได้ที่มีราคาถูก แต่ต้องเป็นกิจการแห่งอนาคต มีการเติบโตแบบปลายเปิด มีคูเมืองที่แข็งแรง สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ การตัดสินใจแบบนี้จะอิงกับคุณภาพมากกว่าตัวเลขทางการเงินนั่นเองครับ #นายแว่นลงทุน
.