สรุปว่า พรรคฝ่ายค้านห่วงปากท้องเล่นการเมืองตัวเองเกินไป ปากท้อง ปัญหาประชาชนไม่ค่อยมุ่งเน้น เน้นแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
ด้าน นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกัน บางครั้งพรรคก็มีความอึดอัดใจ การทำงานไม่ราบรื่น เช่น ปัญหาปากท้องก็ไม่พูดถึง พูดถึงแต่เรื่องการเมือง ส่วนตัวเห็นว่ามันจะไม่มีทางเสถียรได้ 100% และประชาชนก็ไม่อิ่มท้องขึ้น ดังนั้น ประเด็นทางเศรษฐกิจก็เป็นเอกสิทธิ์ของพรรคเหมือนกัน บางเรื่องที่ใช้คำว่า 7 พรรคฝ่ายค้านให้มาคุยกันเพื่อให้เห็นด้วย ก่อนที่จะอ้างชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่รวมไปด้วย ขณะที่รัฐบาลก็ต้องฟังพรรคฝ่ายค้านเหมือนกัน ไม่ต้องการให้ลากพรรคของตัวเองไปอยู่มุมใดมุมหนึ่ง ควรจะเป็นการเมืองแบบใหม่ที่ไม่ใช่รวมไปอยู่ทางใดทางหนึ่ง ขอย้ำว่ายังเป็นฝ่ายค้านที่มีเอกสิทธิ์เอกภาพ ช่วยทำงานในสภาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้านอิสระ
https://www.thairath.co.th/news/politic/1642593
ภาสกร กล่าวด้วยว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ ต้องการการทำงานแบบใหม่ และเห็นว่าหลังจากที่สภาเปิดมา 2 เดือนแล้วก็ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในสภาบ้าง จึงต้องการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า สภาประกอบไปด้วย ส.ส. ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในทาหลักการควรจะมีการทำงานร่วมกัน ถึงจะอยู่คนละฝั่งก็ตาม
“ถึงเราจะอยู่ฝ่ายค้านแต่ก็เรียนให้ทราบว่า เ
รามีความอึดอัดของเราเหมือนกัน เพราะอย่างที่ท่านหัวหน้าพรรคได้เรียนไปแล้วว่า เรามีอุดมการณ์ของเรา เรามีเอกสิทธิที่จะออกเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญที่ได้เขียนกันมา จะพอใจไม่พอใจก็เป็นสิ่งที่ประชาชนเขาออกกันมาแล้ว เดี๋ยวจะแก้ มันก็ต้องแก้ แต่เรียนว่ามีปัญหาบางอย่างที่ทำให้การทำงานของเราไม่ราบรื่น มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนเรื่องปากท้องต่างๆ ไม่ได้มีการพูดถึง แล้วก็พูดแต่เรื่องการเมือง ผมเชื่อว่าการเมืองวันนี้ไม่มีทางมีเสถียรภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และถ้ามีเสถียรภาพแล้ว ก็ต้องถามว่าประชาชนอิ่มท้องไหม ผมไม่คิดว่าแก้แล้วจะอิ่มท้อง” ภาสกร กล่าว
ภาสกร มองว่าควรจะมีพรรคการเมืองที่สามารถออกเสียงและแสดงเอกสิทธิได้ ไม่ใช่เพียงการมานั่งคุยกันในเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนอิ่มท้องได้ บางครั้งจะมีการพูดว่า 7 พรรค แต่บางเรื่องทางพรรคเศรษฐกิจใหม่ก็ไม่ได้เห็นด้วย จึงไม่อยากให้เหมารวมในลักษณะนั้น
https://prachatai.com/journal/2019/08/83962
@@@@ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ฝ่ายค้านอิสระ??? @@@@@
ด้าน นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกัน บางครั้งพรรคก็มีความอึดอัดใจ การทำงานไม่ราบรื่น เช่น ปัญหาปากท้องก็ไม่พูดถึง พูดถึงแต่เรื่องการเมือง ส่วนตัวเห็นว่ามันจะไม่มีทางเสถียรได้ 100% และประชาชนก็ไม่อิ่มท้องขึ้น ดังนั้น ประเด็นทางเศรษฐกิจก็เป็นเอกสิทธิ์ของพรรคเหมือนกัน บางเรื่องที่ใช้คำว่า 7 พรรคฝ่ายค้านให้มาคุยกันเพื่อให้เห็นด้วย ก่อนที่จะอ้างชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่รวมไปด้วย ขณะที่รัฐบาลก็ต้องฟังพรรคฝ่ายค้านเหมือนกัน ไม่ต้องการให้ลากพรรคของตัวเองไปอยู่มุมใดมุมหนึ่ง ควรจะเป็นการเมืองแบบใหม่ที่ไม่ใช่รวมไปอยู่ทางใดทางหนึ่ง ขอย้ำว่ายังเป็นฝ่ายค้านที่มีเอกสิทธิ์เอกภาพ ช่วยทำงานในสภาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้านอิสระ
https://www.thairath.co.th/news/politic/1642593
ภาสกร กล่าวด้วยว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ ต้องการการทำงานแบบใหม่ และเห็นว่าหลังจากที่สภาเปิดมา 2 เดือนแล้วก็ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในสภาบ้าง จึงต้องการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า สภาประกอบไปด้วย ส.ส. ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในทาหลักการควรจะมีการทำงานร่วมกัน ถึงจะอยู่คนละฝั่งก็ตาม
“ถึงเราจะอยู่ฝ่ายค้านแต่ก็เรียนให้ทราบว่า เรามีความอึดอัดของเราเหมือนกัน เพราะอย่างที่ท่านหัวหน้าพรรคได้เรียนไปแล้วว่า เรามีอุดมการณ์ของเรา เรามีเอกสิทธิที่จะออกเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญที่ได้เขียนกันมา จะพอใจไม่พอใจก็เป็นสิ่งที่ประชาชนเขาออกกันมาแล้ว เดี๋ยวจะแก้ มันก็ต้องแก้ แต่เรียนว่ามีปัญหาบางอย่างที่ทำให้การทำงานของเราไม่ราบรื่น มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนเรื่องปากท้องต่างๆ ไม่ได้มีการพูดถึง แล้วก็พูดแต่เรื่องการเมือง ผมเชื่อว่าการเมืองวันนี้ไม่มีทางมีเสถียรภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และถ้ามีเสถียรภาพแล้ว ก็ต้องถามว่าประชาชนอิ่มท้องไหม ผมไม่คิดว่าแก้แล้วจะอิ่มท้อง” ภาสกร กล่าว
ภาสกร มองว่าควรจะมีพรรคการเมืองที่สามารถออกเสียงและแสดงเอกสิทธิได้ ไม่ใช่เพียงการมานั่งคุยกันในเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนอิ่มท้องได้ บางครั้งจะมีการพูดว่า 7 พรรค แต่บางเรื่องทางพรรคเศรษฐกิจใหม่ก็ไม่ได้เห็นด้วย จึงไม่อยากให้เหมารวมในลักษณะนั้น
https://prachatai.com/journal/2019/08/83962