ปราสาทตาวาย (ปราสาทตาควาย) หรือ "ปราสาทตากระเบย" (ในภาษาเขมร กระเบย/กรอเบย หมายถึง ควาย) ตั้งอยู่บนสันเขาห่างจากหน้าผา สูงประมาณ 10 เมตร ของเทือกเขาพนมดงรัก ที่บริเวณช่องตาควาย ในเขตบ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยปราสาทตาควายเป็นปราสาทหินศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สำหรับผังของปราสาทนั้น เป็นรูปกากบาท มีส่วนฐานต่ำ ส่วนล่างสุดก่อด้วยศิลาแลง ส่วนบนก่อด้วยศิลาทรายทั้งหมด หลังคาห้องครรภคฤหะ ก่อเป็นทรงพุ่มยอดปรางค์ ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 5 ชั้น ส่วนหลังคามุขก่อเป็นรูปประทุน จรดหน้าบันทั้ง 4 ด้าน ภายในห้องมีประติมากรรม ลักษณะคล้ายสวายยัมภูวลึงค์ 1 ชิ้น นอกจากนี้ ปราสาทตาควายยังเป็นปราสาทหลังเดียวโดด ๆ ไม่มีอาคารประกอบอื่น ๆ ทำให้เชื่อว่า ปราสาทตาควาย เป็นปราสาทที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดังเช่นปราสาทอื่น ๆ
และด้วยความที่ปราสาทตาควาย ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ เพียงแต่ทำการก่อขึ้นรูปไว้เท่านั้น ยังมิได้มีการขัดแต่งผิวหิน หรือ แกะสลักลวดลายใด ๆ จึงทำให้ปราสาทตาควายยังคงรูปอยู่ได้ โดยไม่ถูกทำลายหรือถูกลักลอบกะเทาะชิ้นส่วนต่าง ๆ ไป เช่นที่เกิดขึ้นกับปราสาทอื่น ๆ ตามแนวชายแดน และการที่ไม่ปรากฏลวดลายอย่างหนึ่งอย่างใดเลยนี้ ทำให้กำหนดอายุปราสาทตาควายได้แต่เพียงกว้าง ๆ โดยการดูจากรูปทรงของตัวปราสาททำให้คาดว่า น่าจะอยู่ในราวช่วงปลายสมัยนครวัด ตอนต้นสมัยบายน หรือรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ถึงรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นเอง
ทั้งนี้ พื้นที่ตั้งของ ปราสาทตาควาย ยังเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแบ่งเส้นเขตแดนที่ยังไม่ได้เจรจากันในคณะกรรมการปักปันเขตแดน ประกอบกับไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาพูดหรือเรียกร้องเหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร ฉะนั้น จึงมีการตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ใช้เป็นจุดประสานงานร่วมกัน ทำให้ประชาชนสามารถไปเยี่ยมชมความงดงามของปราสาทตาควายได้ โดยการเดินเท้าเข้าขึ้นไปที่ปราสาทตาควาย ด้วยระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยมีกองร้อยทหารพราน ที่ 2602 และกองร้อยทหารพรานที่ 2606 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน เข้าดูแลพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
แม้วันนี้สถานการณ์การปะทะระหว่างไทย – กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาควายยังไม่สงบลง และยังไม่รู้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ แต่ประชาชนตามชายแดน และรอบพื้นที่ปราสาทตาควายก็ได้แต่หวังว่าสถานกาณ์จะคลี่คลายได้ในเร็ว ๆ นี้ และ เชื่อว่า หากเหตุการณ์สงบลง ปราสาทตาควาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีที่จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาและไทยแน่นอน
ปราสาทตาควาย l Prasat Ta Krabei l ប្រាសាទតាក្របី อีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์การปะทะ ไทย - กัมพูชา
และด้วยความที่ปราสาทตาควาย ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ เพียงแต่ทำการก่อขึ้นรูปไว้เท่านั้น ยังมิได้มีการขัดแต่งผิวหิน หรือ แกะสลักลวดลายใด ๆ จึงทำให้ปราสาทตาควายยังคงรูปอยู่ได้ โดยไม่ถูกทำลายหรือถูกลักลอบกะเทาะชิ้นส่วนต่าง ๆ ไป เช่นที่เกิดขึ้นกับปราสาทอื่น ๆ ตามแนวชายแดน และการที่ไม่ปรากฏลวดลายอย่างหนึ่งอย่างใดเลยนี้ ทำให้กำหนดอายุปราสาทตาควายได้แต่เพียงกว้าง ๆ โดยการดูจากรูปทรงของตัวปราสาททำให้คาดว่า น่าจะอยู่ในราวช่วงปลายสมัยนครวัด ตอนต้นสมัยบายน หรือรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ถึงรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นเอง
ทั้งนี้ พื้นที่ตั้งของ ปราสาทตาควาย ยังเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแบ่งเส้นเขตแดนที่ยังไม่ได้เจรจากันในคณะกรรมการปักปันเขตแดน ประกอบกับไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาพูดหรือเรียกร้องเหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร ฉะนั้น จึงมีการตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ใช้เป็นจุดประสานงานร่วมกัน ทำให้ประชาชนสามารถไปเยี่ยมชมความงดงามของปราสาทตาควายได้ โดยการเดินเท้าเข้าขึ้นไปที่ปราสาทตาควาย ด้วยระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยมีกองร้อยทหารพราน ที่ 2602 และกองร้อยทหารพรานที่ 2606 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน เข้าดูแลพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
แม้วันนี้สถานการณ์การปะทะระหว่างไทย – กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาควายยังไม่สงบลง และยังไม่รู้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ แต่ประชาชนตามชายแดน และรอบพื้นที่ปราสาทตาควายก็ได้แต่หวังว่าสถานกาณ์จะคลี่คลายได้ในเร็ว ๆ นี้ และ เชื่อว่า หากเหตุการณ์สงบลง ปราสาทตาควาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีที่จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาและไทยแน่นอน