ผมได้แสดงความเห็นหนึ่งไว้ที่กระทู้หนึ่ง ดังนี้

"…แต่ผมจะขอเพิ่มเติมนิดนึง คือ สิ่งที่ปุถุชนเห็นเป็นอัตตา คือ "ขันธ์ทั้ง 5" และไม่ใช่ขันธ์ 5 เฉยๆ แต่เป็น "ขันธ์ 5 ของกู"

หากเป็นขันธ์ 5 ของคนอื่น เช่น ของผม ของนาย ก นาย ข หรือคนที่เราไม่รู้จัก ปุถุชนเห็นเป็นอนัตตาปกติ

แต่เมื่อใดที่มีการไป "ยึดถือ" สิ่งที่เป็นอนัตตา ก็จะเกิดอัตตาขึ้นมาทันที และอัตตานี่เอง ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น…"

จากนั้น คุณเม็ดมะม่วงก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า

"...ถ้า 4432 มีอัตตานุทิฏฐิ ไม่ว่าคุณจะมองใคร คุณก็จะเห็น สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา นายดำ นายแดง

มานี มานะ ขอนลอย ฉงน คุณตาไฉน และ ฯลฯ

ไม่ใช่ เดี๋ยวอัตตา เดี๋ยวอนัตตา !!!!..."

ก่อนอื่นเลย อยู่ดีๆ คุณเม็ดมะม่วงก็เอาเรื่องอัตตานุทิฏฐิมาตอบความเห็นผม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันเลย เป็นคนละเรื่อง

คำว่าอัตตานุทิฏฐิ หากถามพวกเราในที่นี้ผมว่าน้อยคนจะรู้จักเพราะใช้กันน้อย แต่ถ้าผมบอกว่าคือความหมายเดียวกับ สักกายทิฏฐิ ทุกคนก็คงร้องอ๋อ

คุณเม็ดมะม่วงมีความเข้าใจว่า ถ้าเรายังเห็นสรรพสิ่งต่างๆ ว่าเป็นคน สัตว์ สิ่งของ เป็นนายดำ เป็นนายแดง แสดงว่าเราเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นอัตตา แต่ถ้าเห็นว่าไม่มีคน สัตว์ สิ่งของ หรือไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขาเมื่อไหร่ นั่นจึงเรียกว่าเราเห็นอนัตตา ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เป็นคนละเรื่อง

การที่เราเห็นสิ่งต่างๆ เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งของขันธ์ เกิดจากอวิชชา ไม่ใช่อย่างที่คุณเม็ดมะม่วงเข้าใจ

ซึ่งถ้าคุณเม็ดมะม่วงเข้าใจอย่างนั้น แสดงว่าปุถุชนทุกคนเห็นทุกสรรพสิ่งว่าเป็นอัตตา ซึ่งไม่ถูกต้อง

สิงโตที่วิ่งเล่นอยู่ในป่าตอนนี้ ถามว่า มันเป็นอัตตาหรืออนัตตา?

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ดังนั้น คำตอบคือ เป็นอนัตตานะครับ

สมมุติว่า ถ้ามีใครไปยิงมัน ไปฆ่ามัน คุณเม็ดมะม่วงเป็นทุกข์หรือไม่?

คงไม่เป็นทุกข์นะครับ เพราะหน้าตาเป็นยังไงยังไม่รู้จัก อยู่ป่าที่ไหนก็ไม่รู้ จะเป็นทุกข์ได้อย่างไร

แต่สมมุติว่าวันหนึ่ง คุณเม็ดมะม่วงไปจับมันมาเลี้ยง ถามว่า เกิดอัตตาขึ้นมาหรือไม่?

แน่นอนว่า ในความเข้าใจของคุณเม็ดมะม่วง จากที่ศึกษาพระไตรปิฏก มันคืออนัตตา แต่ในความรู้สึกจริงๆ มีอัตตาเกิดขึ้น เกิดความเป็น "สิงโตของกู" ขึ้นมาแล้ว

ย้ำก่อนว่า คนละเรื่องกับอัตตานุทิฏฐิหรือสักกายทิฏฐินะครับ เพราะการที่ปุถุชนหรือคุณเม็ดมะม่วงยังละสักกายทิฏฐิไม่ได้ หรือยังมีอัตตานุทิฏฐิอยู่ ทำให้เกิดอุปาทานขึ้นได้ เกิดความยึดถือเอาสิ่งต่างๆ มาป็นอัตตาได้ (แต่ไม่ใช่หมดทั้งโลก เฉพาะที่ไปยึดถือหรือมีอุปาทานเกิดขึ้นเท่านั้น)

เมื่อเกิดอัตตาขึ้นมา เกิดเป็น "สิงโตของกู" ขึ้นมา ก่อนหน้าที่ยังไม่จับมันมาเลี้ยง ผมถามว่าถ้าใครมาฆ่ามันเป็นทุกข์หรือไม่ ตอบว่า ไม่ แต่ตอนนี้พอเอามันมาเลี้ยงแล้ว ถ้าใครมาฆ่ามันเป็นทุกข์หรือไม่? คงตอบผมว่า เป็นทุกข์ นะครับ

เหตุผลที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะเคยบอกคุณเม็ดมะม่วงไว้ว่าจะพูดถึงข้อเสียของคุณเม็ดมะม่วง เพื่อให้รู้ตัวว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรลงไป ทำไมผมถึงเรียกคุณมะม่วงว่าอันธพาล และทำไมผมไม่ถึงไม่ตอบประเด็นธรรมะ (เช่นที่ผมตอบข้างต้น) ซึ่งเอาไว้ผมจะพูดถึงหลังจากนี้ถ้าเป็นไปได้นะครับ หากพูดทีเดียวอาจทำให้เนื้อหากระทู้ไม่ได้ประโยชน์ เอาเป็นเรื่องๆ อีกทั้งผมเชื่อว่า คุณเม็ดมะม่วงจะทำสิ่งที่เป็นข้อเสียนั้นในกระทู้นี้ด้วย

สำหรับการแสดงความเห็นที่ผมยกมาตอนต้น ทั้งของผมและของคุณเม็ดมะม่วง หากใครสนใจก็อยู่ที่กระทู้ https://ppantip.com/topic/39132713/comment12