พี่สาวเราเป็นชาวบ้านธรรมดา จบม.3 ก็ทำงานรับจ้างที่ร้านค้า จนมาได้กับสามี มีลูกสาว 1 คน พี่สาวอยู่บ้านสามี บ้านของสามีพี่สาวเป็นระบบกงสี ทำให้มีเงินส่งลูกหลานเรียนโรงเรียนดีๆ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เมื่อสองสามปีที่แล้วก็เลิกกันจบกันแบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ กับลูกสาวสามีพี่เราก็ไม่สนใจเลย พี่สาวเราพาลูกออกจากบ้านกลับมาอยู่บ้านแม่ แต่ลูกยังเรียนที่โรงเรียนเดิม (เรียนที่นี่ตั้งแต่อนุบาล) ตอนนี้หลานสาว อยู่ป.4 ห้อง ep ร.ร.เอกชนที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในจังหวัด พี่สาวบอกว่าการศึกษาเป็นอย่างเดียวที่จะให้ลูกได้ อยู่กับเรากับยาย ส่วนพี่สาวเราตอนนี้ไปทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้างในกรุงเทพ ช่วงออกกะแล้วก็ไปทำตามบ้าน
เมื่อวานก่อนเห็นหลานนั่งทำการบ้านไปร้องไห้ไป เลยเข้าไปคุย หลานบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน เราก็ตกใจนึกว่าหลานถูกแกล้ง คุยไปคุยมาได้ความว่า หลานอยากได้ตุ๊กตาที่อยู่ในลูกบอล เพราะเพื่อนๆเค้ามีมาเล่นกัน แต่มันก็แพงเกินไป หลานเรารู้ว่าที่บ้านซื้อไม่ได้ เธอพยายามไม่คิดถึง ที่ร้องไห้เพราะเธอโกรธตัวเองที่อยากได้ตุ๊กตา แล้วก็อยากได้ของอีกหลายๆอย่างที่เพื่อนๆมี ทั้งๆที่ไม่ควรเพราะว่าแม่ลำบาก โรงเรียนหลานค่อนข้างเป็นสังคมที่มีเงินประมาณนึง หลานเรา ป.4 ก็จริงแต่ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะยายจะบอกตลอด ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ด้วยกัน ว่าค่าเทอมแพง แม่กับยาย ต้องทำงานหนักมาจ่ายค่าเทอม จ่ายค่ารถรับส่ง ถ้าอยากได้อะไรต้องช่วยกันทำงาน ต้องช่วยกันประหยัด หลานเราบอกว่าถ้าหนูไม่ต้องไปโรงเรียนแม่กับยายก็ไม่ต้องลำบาก หนูจะได้ออกมาช่วยแม่ทำงาน
เราเลยมีความคิดว่าน่าจะย้ายหลานมาเรียนโรงเรียนวัดใกล้บ้านน่าจะดีกว่า หลานจะได้ไม่โกรธตัวเอง ไม่โทษตัวเอง เพราะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนใกล้เคียงกัน แต่อีกใจก็กลัวว่าหลานจะปรับตัวไม่ได้ เข้ากับเพื่อนใหม่ไม่ได้ กลัวภาษาอังกฤษที่เรียนมาไม่ได้พัฒนาต่อ ยายน่าจะเห็นด้วย แต่พี่สาวเราไม่น่าจะยอมให้ย้าย
ขอบคุณพี่หน้าบ้านที่ให้ยืมเน็ตกับล็อกอินนะ
ย้ายโรงเรียนให้หลานดีไหม
เมื่อวานก่อนเห็นหลานนั่งทำการบ้านไปร้องไห้ไป เลยเข้าไปคุย หลานบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน เราก็ตกใจนึกว่าหลานถูกแกล้ง คุยไปคุยมาได้ความว่า หลานอยากได้ตุ๊กตาที่อยู่ในลูกบอล เพราะเพื่อนๆเค้ามีมาเล่นกัน แต่มันก็แพงเกินไป หลานเรารู้ว่าที่บ้านซื้อไม่ได้ เธอพยายามไม่คิดถึง ที่ร้องไห้เพราะเธอโกรธตัวเองที่อยากได้ตุ๊กตา แล้วก็อยากได้ของอีกหลายๆอย่างที่เพื่อนๆมี ทั้งๆที่ไม่ควรเพราะว่าแม่ลำบาก โรงเรียนหลานค่อนข้างเป็นสังคมที่มีเงินประมาณนึง หลานเรา ป.4 ก็จริงแต่ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะยายจะบอกตลอด ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ด้วยกัน ว่าค่าเทอมแพง แม่กับยาย ต้องทำงานหนักมาจ่ายค่าเทอม จ่ายค่ารถรับส่ง ถ้าอยากได้อะไรต้องช่วยกันทำงาน ต้องช่วยกันประหยัด หลานเราบอกว่าถ้าหนูไม่ต้องไปโรงเรียนแม่กับยายก็ไม่ต้องลำบาก หนูจะได้ออกมาช่วยแม่ทำงาน
เราเลยมีความคิดว่าน่าจะย้ายหลานมาเรียนโรงเรียนวัดใกล้บ้านน่าจะดีกว่า หลานจะได้ไม่โกรธตัวเอง ไม่โทษตัวเอง เพราะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนใกล้เคียงกัน แต่อีกใจก็กลัวว่าหลานจะปรับตัวไม่ได้ เข้ากับเพื่อนใหม่ไม่ได้ กลัวภาษาอังกฤษที่เรียนมาไม่ได้พัฒนาต่อ ยายน่าจะเห็นด้วย แต่พี่สาวเราไม่น่าจะยอมให้ย้าย
ขอบคุณพี่หน้าบ้านที่ให้ยืมเน็ตกับล็อกอินนะ