“อนุทิน” ประกาศกลางบอร์ด สปสช. แก้ปัญหา ปชช.รอคิวนาน ต้องไม่เกิน 1 ชม. รับยาร้านขายยาแทน
Mon, 2019-08-05 16:02
รมว.สธ. ควง “หมอเลี๊ยบ” ประชุมบอร์ด สปสช.นัดแรก จ่อแก้ปัญหารอคิวไม่เกิน 1 ชม.พบหมอ 10-15 นาที เอายาร้านขายยาแทน
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. เข้าร่วมประชุมครั้งแรกหลังรับตำแหน่งในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) โดยมี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เข้าร่วมประชุมบอร์ดสปสช. ด้วย
โดยนายอนุทิน กล่าวแนะนำตัวก่อนการประชุมบอร์ด สปสช. ว่า ตนได้เรียนเชิญท่านสุรพงษ์ มาช่วยเป็นที่ปรึกษาระบบหลักประกันสุขภาพของตน เรียกว่าเปรียบเหมือนประธานคณะทำงานในส่วนของ สปสช. เนื่องจากท่านสุรพงษ์ เปรียบเหมือนคนทำคลอดโครงการ 30 บาท อย่างไรก็ตาม เรื่องทั่วไปที่อยากจะเห็น คือ การพัฒนาห้องฉุกเฉิน เพิ่มมาตรฐานในการดูแล เพราะคนไข้มารพ.ก็มักคิดว่าตนเองฉุกเฉินสุด ตรงนี้ต้องมีระบบในการกรองว่า อันไหนฉุกเฉินที่สุด นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข คือ การลดความแออัดของรพ. ตนได้รับข้อมูลจากท่านปลัด และ รองปลัด สธ. มาตลอดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนรอคิวไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยได้พบแพทย์ 10-15 นาที และไม่ต้องรอคิวรับยาที่ รพ. แต่สามารถกลับบ้านได้ โดยไปเบิกยาที่ร้านขายยาแถวบ้าน โรงพยาบาลก็จ่ายค่ายาให้แก่ร้านขายยา หากทำได้ก็จะลดจำนวนคนรอคิวได้
“อย่างเคยไปดูรพ. บางที่ก็ดี แต่ก็ไม่อยากบอกว่าส่วนหนึ่งมาจากความชำนาญการบริหาร บางคนก็ใส่ใจมาก เราก็ไม่อยากพูดแบบนี้ คิดว่าน่าจะมาจากทักษะความชำนาญ ซึ่งเราคงต้องมีการตั้งเกณฑ์มาตรฐานไว้ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนมี 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ผมมาในฐานะประชาชน ไม่มีตำแหน่งใดๆ มาด้วยเนื่องจากท่านว่าการอยากให้มาแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งตนก็พอมีความรู้เกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประการที่ 2 สิ่งที่คิดไว้เมื่อปี 2544 มาจนถึงวันนี้ระบบเปลี่ยนไปมาก อย่างอุปสรรคที่เคยคิดไว้ในอดีตก็แก้ปัญหาได้ไม่ยาก ภายใต้ระบบปัจจุบัน ภายใต้เทคโนโลยีที่มีอยู่ ซึ่งหากมองในเชิงบวกก็คิดว่าจะแก้ไขได้ไม่ยากนัก ผมจึงปวารณาตัวว่า จะพยายามใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
https://www.hfocus.org/content/2019/08/17469
“อนุทิน” ประกาศกลางบอร์ด สปสช. แก้ปัญหา ปชช.รอคิวนาน ต้องไม่เกิน 1 ชม. รับยาร้านขายยาแทน
Mon, 2019-08-05 16:02
รมว.สธ. ควง “หมอเลี๊ยบ” ประชุมบอร์ด สปสช.นัดแรก จ่อแก้ปัญหารอคิวไม่เกิน 1 ชม.พบหมอ 10-15 นาที เอายาร้านขายยาแทน
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. เข้าร่วมประชุมครั้งแรกหลังรับตำแหน่งในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) โดยมี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เข้าร่วมประชุมบอร์ดสปสช. ด้วย
โดยนายอนุทิน กล่าวแนะนำตัวก่อนการประชุมบอร์ด สปสช. ว่า ตนได้เรียนเชิญท่านสุรพงษ์ มาช่วยเป็นที่ปรึกษาระบบหลักประกันสุขภาพของตน เรียกว่าเปรียบเหมือนประธานคณะทำงานในส่วนของ สปสช. เนื่องจากท่านสุรพงษ์ เปรียบเหมือนคนทำคลอดโครงการ 30 บาท อย่างไรก็ตาม เรื่องทั่วไปที่อยากจะเห็น คือ การพัฒนาห้องฉุกเฉิน เพิ่มมาตรฐานในการดูแล เพราะคนไข้มารพ.ก็มักคิดว่าตนเองฉุกเฉินสุด ตรงนี้ต้องมีระบบในการกรองว่า อันไหนฉุกเฉินที่สุด นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข คือ การลดความแออัดของรพ. ตนได้รับข้อมูลจากท่านปลัด และ รองปลัด สธ. มาตลอดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนรอคิวไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยได้พบแพทย์ 10-15 นาที และไม่ต้องรอคิวรับยาที่ รพ. แต่สามารถกลับบ้านได้ โดยไปเบิกยาที่ร้านขายยาแถวบ้าน โรงพยาบาลก็จ่ายค่ายาให้แก่ร้านขายยา หากทำได้ก็จะลดจำนวนคนรอคิวได้
“อย่างเคยไปดูรพ. บางที่ก็ดี แต่ก็ไม่อยากบอกว่าส่วนหนึ่งมาจากความชำนาญการบริหาร บางคนก็ใส่ใจมาก เราก็ไม่อยากพูดแบบนี้ คิดว่าน่าจะมาจากทักษะความชำนาญ ซึ่งเราคงต้องมีการตั้งเกณฑ์มาตรฐานไว้ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนมี 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ผมมาในฐานะประชาชน ไม่มีตำแหน่งใดๆ มาด้วยเนื่องจากท่านว่าการอยากให้มาแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งตนก็พอมีความรู้เกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประการที่ 2 สิ่งที่คิดไว้เมื่อปี 2544 มาจนถึงวันนี้ระบบเปลี่ยนไปมาก อย่างอุปสรรคที่เคยคิดไว้ในอดีตก็แก้ปัญหาได้ไม่ยาก ภายใต้ระบบปัจจุบัน ภายใต้เทคโนโลยีที่มีอยู่ ซึ่งหากมองในเชิงบวกก็คิดว่าจะแก้ไขได้ไม่ยากนัก ผมจึงปวารณาตัวว่า จะพยายามใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
https://www.hfocus.org/content/2019/08/17469