ฝากถึงคุณแม่วัยใส คิดดีแล้วหรือ?

สวัสดีครับ ผมชื่อเนทครับ เป็นเจ้าของกระทู้ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์คุณแม่วัยใส ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผม
เพื่อให้เป็น "อุทาหรณ์" สำหรับครอบครัว และอยากเตือนสติเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทั้งหลาย ให้รักสนุกได้แต่ก็จงระมัดระวังครับ
เริ่มต้นเลย ครอบครัวผมมีด้วยกันเกือบ 10 คน ทั้งพ่อ แม่ ผม น้องสาว ตา ยาย น้า และลูกพี่ลูกน้องอีก3คน

แต่ปัจจุบันพ่อกับแม่ผมได้หย่าร้างกันแล้ว ผมเองก็ไม่ค่อยสนิทกับน้องสาวเท่าไหร่นัก เรามักตีกันตลอดเมื่อสมัยเด็ก
ผมมีอายุมากกว่าน้อง 7 ปี และผมมีชีวิตของผมเรื่อยมาแบบไม่ได้ใกล้ชิดน้องเลย
ปัจจุบันนี้ผมยังเรียนไม่จบ เนื่องจากดรอปไว้เพราะผมเป็นโรคซึมเศร้า น้องสาวผมอยู่ชั้น ปวช. 2 อายุก็ 15-16ปี ดรอปเรียนเหมือนกัน
  เรื่องมันมาจากว่า วันหนึ่งก่อนเปิดภาคเรียน ผมที่จะต้องฝึกงานก็ได้รับ ข่าวบางอย่าง ที่ทำเอาผมซึมไปเลย
นั่นก็คือ น้องสาวของผม ใช่ครับ! เธอท้อง โดยที่คนที่บ้านไม่มีใครรู้เลยนอกจากแม่ แม่แชทมาบอกผมว่าจะอยากให้กลับมางานสมาน้อง
แต่ผมช็อค ผมจึงบอกแม่ว่าไม่ไป! แล้วผมก็ใส่แม่ยับ ว่าทำไมไม่ดูแลน้องดีๆ เคยพูดเคยบอกแล้วใข่มั้ยให้ดูแลน้องดีๆ ทุกคนที่บ้านทำอะไรกันอยู่
ทำไมไม่ดูแลน้องเลย ตอนนั้นผมโกรธแม่และทุกคนที่บ้านมาก เพราะผมก็นึกว่าน้องพึ่งท้อง ผมร้องไห้ ผิดหวัง เสียใจ อยู่พักนึง
ผมถามแม่ว่า น้องท้องได้กี่เดือนแล้ว แม่ตอบว่า ใกล้คลอดแล้ว คือผมเรียนที่ต่างจังหวัด แต่ก็พยายามกลับบ้านทุกสัปดาห์
กลับไม่รู้เลยว่า น้องตัวเองท้อง ผมแค่คิดว่าเขาดูอ้วนขึ้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ด้วยความไม่สนิทสนมกันอยู่แล้ว
    ผมถามแม่ว่า ทำไมถึงเก็บเด็กไว้ แม่บอกว่าน้องต้องการจะเก็บลูกไว้ เพราะน้องบอกว่าแฟนน้องจะรับผิดชอบครับ
เขาก็รับผิดชอบจริงๆนะ ก็มาสมาผูกข้อมือ แต่ผมกลับมองว่า เด็กอายุ 15-16 ด้วยกันทั้งคู่ จะดูแลกันยังไง
ผมรู้เรื่องเป็นคนสุดท้ายของบ้าน ทุกคนในบ้านรับรู้ก่อนหน้าผม 1 สัปดาห์ 
หลังจากเสร็จพิธีสมา ยายของผม ซึ่งเป็นคนแบบ....อืม ไม่อยากพูดถึง กับพ่อผมซึ่งตอนนั้นโกรธน้องมาก
ได้บอกน้องว่าให้ไปอยู่บ้าน ผช. นะ คลอดแล้วก็ไปอยู่ที่นั่นเลย เพราะเค้าไม่เอาแฟนน้องส่าวผม
น้องผมจึงได้ไปอยู่บ้านผช. ซึ่งบ้านผช.ก็เป็นครอบครัวใหญ่ครับ แต่ครอบครัวฝั่งผช. ก็เหมือนกับฝั่งเรา คือ พ่อแม่เลิกรากัน
พ่อฝั่งผช. เป็นคนเจ้าชู้ มีหลายเมีย มีลูกหลายคน แล้วก็ไม่ได้ส่งเสียใคร แม่ผช. ก็คล้ายๆกับแม่ผมคือทำงานหนัก
เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และเค้ารับได้กับการมีหลานเพิ่มมาอีกคน เพราะบ้านนั้นพี่สาวของ ผช. ก็ท้องตอนเรียนเช่นกัน 
หลังจากนั้นผมได้เจอแม่ผข. ก็เลยเรียกเค้าว่า แม่ แต่แฟนน้องผมกลับ ไม่เคย ได้เจอหรือเห็นหน้ากัน
    ผมตั้งใจว่าผมจะไม่ยุ่งกับครอบครัวนี้ (ครอบครัวน้องสาว) ผมจะไม่ขอเข้ามาร่วมรับผิดขอบกับปัญหานี้ ไม่อยากยุ่ง 
และเด็กคนนี้จะไม่ได้รับความรักจากผมแน่ๆ เพราะผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีอยู่ในใจ
ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ น้องสาวผมก็ให้กำเนิดลูกชาย ผมรู้ข่าวผมก็แอบดีใจเล็กๆ เพราะหลานเป็นผช. ผมชอบเด็กผช.
ใจผมก็เริ่มอ่อนลง แต่ผมไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนดูน้องสาวและหลานเลย 
หลังจากน้องสาวผมคลอด ผมก็เริ่มสงสารแม่ผม ที่เค้าจะต้องรับภาระหนักขึ้น ถึงแม้บ้านเราจะไม่ได้ดูแลหลาน แต่แม่
ก็ส่งเสีย ทั้งเงิน ทั้งอาหาร ขนมนมเนย ค่านมหลาน ให้กับฝั่งแม่ผช. ด้วย เพราะแม่ผมไม่คิดจะผลักภาระให้แม่ผช. 
จึงได้ทำการส่งเสียต่างๆตอบแทน 
   ผมฝึกงานไปได้ไม่เท่าไหร่ ผมก็สติหลุด เพราะเจอปัญหาหลายๆเรื่อง ผมกลับบ้านมาเพื่อหาหมอด้วยสภาพซึมเศร้าที่ค่อนข้างสาหัส
พอผมกลับมาบ้าน ผมเจอหลานกับน้องผมนอนอยู่ ผมเข้าไปพูดคุยกับน้อง และเล่นกับหลาน ผมหลงรักหลานผมเต็มเปา
จากที่ว่าจะไม่ยุ่งแน่นอน กลับกลายเป็นว่าตลอดเวลาที่ผมหยุดพักผมอยู่กับหลานแล้วมีความสุข
ผมชื่นชมน้องผมที่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ ทำหลายๆอย่างได้ด้วยตนเอง จากคนที่ไม่หยิบจับอะไร การเรียนก็โคตรแย่ กลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในบางครั้ง
ผมถามแม่ว่า ทำไมน้องถึงกลับมาบ้าน ? แม่บอกว่าน้องมีปัญหากับผช. จึงอยากกลับบ้าน น้องผมจึงได้กลับมาอยู่บ้านพักนึง ส่วนยายกับพ่อผมอะเหรอ
ตอนแรกบอกไม่เอา. ตอนนี้นี่รักกันมากมาย จากเคยไล่ให้ไปที่อื่น กลับบอกน้องผมว่า ไม่ต้องไปแล้ว อยู่กันที่นี่แหละ 55555555
ผมแฮปปี้กับการเลี้ยงหลาน และเริ่มที่จะโอเคกับปัญหาเหล่านี้ แต่ก็ยังคงสงสารแม่อยู่ นอกจากทำงานหนักแล้ว กลับจากทำงานก็ต้องมาเลี้ยงหลานต่อ
เพราะแม่ผมสงสารน้อง ที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาทั้งวัน ผมเข้าไปส่องเฟสน้องเพราะอยากรู้จักแฟนน้อง แต่กลับเห็นว่าน้องตั้งสถานะว่าโสด 
ในเฟสก็มีแต่แคปขั่นอ่อยๆ มีเกี่ยวกับลูกบ้าง ผมจึงเริ่ม งง และได้ถามแม่ว่า เฟสผช. ชื่อไร และทำไมน้องตั้งสถานะโสดหละ
แม่ผมบอกว่าตอนนี้น้องสาวผมกับแฟนเขามีปัญหากันอยู่ ถึงได้กลับมาบ้านนี้ไง ผู้ชายก็ติดเพื่อน แล้วก็มีแฟนใหม่ แม่ผมจึงไม่ให้หลานกลับไปอยู่บ้านผช.
จนกว่าน้องสาวผมและแฟนจะกลับมาดีกัน ผมส่องเฟสน้องตลอดก็จะพบกับแคปชั่นโสด นู้นนี่นั่น เหมือนคนยังไม่มีลูก ผมสงสารหลาน
ผมไปส่องเฟสแฟนน้อง นี่ก็ยิ่งหนัก ไม่โพสอะไรเกี่ยวกับลูกและแม่ของลูก แถมในสตอรี่ยังมีสาวคนอื่นข้างกาย ผิดกับน้องผมที่เลี้ยงลูกตลอด. 
     หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็กลับมาหอ พร้อมกับลงรูปคิดถึงหลานชาย พ่อของหลานก็มากดหัวใจให้ ผมก็เข้าไปส่องเฟสก็เหมือนเดิม 
ไม่มีอะไรที่สื่อถึงลูก มีแต่เหล้า ยา น้ำท่อม รถ และผญ. ผมเริ่มหัวเสียและตั้งใจว่าจะทักไปด่า 
ผม : ตกลงกับน้องสาวกูอะยังไงแน่
แฟนน้อง : ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้วครับ (พร้อมส่งรูปน้องสาวกับหลานที่เพิ่งกลับไปอยู่บ้านตัวเองมาให้ดู)
ผม : แล้วผญ.คนนั้นล่ะ?
แฟนน้อง : อ่อ. ผมเลิกยุ่งไปแล้วครับ
ผม : อืม อันที่จริงก็ไม่ได้อยากยุ่งไรนะ แต่อยากให้ทำอะไรก็คิดถึงลูกเยอะๆ กูสงสารหลาน
   หลังจากนั้นมาผมก็คอยดูอยู่ห่างๆ ก็จะได้เห็นน้องสาวพาลูกกลับบ้านมาบ่อยๆ ทุกครั้งที่มีปัญหากับแฟน แม่ผมก็จะต้องเหนื้อยเป็นธุระ
ไปรับไปส่งน้องสาวและหลานอยู่เสมอ อาทิตนึงสองสามครั้ง จนล่าสุดน้องดีกะแฟน ไปส่งมาได้สามวัน แม่ผมก็รับน้องมาอยู่บ้านอีกแล้ว
ผมเข้าใจได้ทันที และเหมือนเดิมปัญหาเดิมๆ คือ แฟนน้องผมติดเพื่อนและมีคนอื่น 
ผมพิมพ์น้ำมาซะนาน ขอเข้าเนื้อเลยแล้วกัน คุณแม่วัยใสทั้งหลาย คุณคิดดีแล้วหรือที่จะทิ้งชีวิตวัยรุ่นของคุณไปกับความผิดพลาด
ผมอยากให้คุณไตร่ตรองสักนิด การเก็บเด็กไว้นั่นเป็นสิ่งดี แต่การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี สามารถอยู่ในสังคมได้มันยากนะ 
คุณยังรับผิดชอบชีวิตตนเองไม่ได้ แล้วลูกคุณจะรับผิดชอบยังไง ก็ไม่พ้นพ่อแม่อยู่ดี .
#เยสได้ก็เลี้ยงได้ มันไม่เท่หรอกครับ อย่าคิดว่ากูเลี้ยงได้ การเลี้ยงลูกไม่เหมือนกับการเลี้ยงหมาแมว ที่จะปล่อยให้เค้าเติบโตไปวันๆ
การเลี้ยงคนๆหนึ่ง ต้องเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ และต้องเลี้ยงให้เค้าอยู่ในสังคมให้ได้
ถ้าตัดเรื่องเวรกรรมออกไป ผมว่าถ้าไม่พร้อมคุณก็ไปยุติการตั้งครรภ์เถอะครับ เพราะคุณไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะเลี้ยงเด็กคนนึงได้
และเราไม่สาามารถรู้ได้เลยว่า เด็กจะเป็นอย่างไรในอนาคต สงสารพวกเค้าเถอะครับ คุณเป็นพ่อแม่อีกไม่นานคุณก็ตาย แต่ลูกคุณยังต้องใช้ขีวิต
ถ้าเลี้ยงดูผิดพลาด ก็เท่ากับเราฆ่าคนนๆนึงเมือนกัน แต่แค่เค้ายังไม่ตาย และยังต้องหายใจดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ในโลก 
ฝากไว้ให้คิดนะครับ คิดเห็นอย่างไรก็คุยกันไดแบบ สุภาพขน ขอบคุณครับ
.
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ผมว่าถ้าไม่พร้อมคุณก็ไปยุติการตั้งครรภ์เถอะครับ เพราะคุณไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะเลี้ยงเด็กคนนึงได้
และเราไม่สาามารถรู้ได้เลยว่า เด็กจะเป็นอย่างไรในอนาคต สงสารพวกเค้าเถอะครับ คุณเป็นพ่อแม่อีกไม่นานคุณก็ตาย แต่ลูกคุณยังต้องใช้ขีวิต
ถ้าเลี้ยงดูผิดพลาด ก็เท่ากับเราฆ่าคนนๆนึงเมือนกัน


เราเห็นด้วยกับคุณ จขกท มาก ๆ ค่ะ
และเราก็มักจะเสนอให้คุณแม่วัยใส่ที่วุฒิภาวะยังไม่พร้อมจริง ๆ ไปเอาออกอยู่เสมอ
บางคนคิดง่าย ๆ คิดว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันง่ายเหมือนเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว
คิดแค่ว่ามุมานะอดทนแค่นี้ เหนื่อยแค่นี้แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ แต่กว่าจะผ่านไปล่ะก็ไม่พ้นเป็นภาระของคนในครอบครัวอยู่ดี
บอกตรง ๆ ว่าเราสงสารเด็กที่จะต้องเติบโตมากับแม่ที่ไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่ เราย้ำอยู่เสมอว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ไม่ได้มีกันทุกคน
และในความเป็นจริงมันก็เป็นอย่างที่เราพิมพ์จริง ๆ
และก็สงสารสังคมในภายภาคหน้าที่อาจจะต้องเจอกับปัญหาเด็กขาดความอบอุ่นแล้วกลายเป็นพวก แว้น สก๊อย
เด็กที่โชคดีเกิดมาไม่พร้อมแต่มีครอบครัวที่อบอุ่น โตมาเป็นคนดีก็เยอะแยะ ก็จริงค่ะ แต่มันก็ไม่ได้โชคดีแบบนั้นทุกกรณี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่