พ่อค้า​แม่ค้า​ออน์ไลน์​ หายนะกำลังใกล้เข้ามาแล้ว

วันนี้เย็นผ่านไปรษณีย์ที่ห้าง​ซีค่อนบางแค​ คนต่อคิวส่งสินค้าจนล้นทางเดิน...    ดูแล้วคึกคัก​ เป็นการค้าออน์ไลน์​ ที่กูรูบอกให้ปรับตัว​  ให้​ 4.0​   แต่คู่แข่งยักษ์ใหญ่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว​   เวลาของเหล่าพ่อค้าแม้ค้าออน์ไลน์รายย่อย​  รายเล็ก​  กำลังถึงกาลอวสาน

ศุนย์กระจายสินค้าของ  Alibaba  ที่ฉะเชิงเทรากำลังจะเสร็จและส่งมอบในเดือนกันยายน​ 2562​ นี้แล้ว
http://www.thansettakij.com/content/400742



เมื่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการ​ ซึ่งทาง​ Alibaba.มาลงทุนในฐานะผู้กระจายสินค้า​ ไม่ใช่ผู้ขาย​  ดังนั้นสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า​ 1500​ บาท​ จะไม่เสียทั้งภาษีนำเข้าและ​Vat​
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

งานนี้​ พ่อค้าแม่ค้าออน์ไลน์ทั้งหลาย​  ที่มีสินค้าที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน​ คงหมดทางสู้ส่วนผู้นำเข้าสินค้าจากจากจีนคงหงายท้อง​ ยังไม่รวมผู้ผลิตสินค้าของไทยที่ผลิตสินค้าใกล้เคียงกับจีนคงม้วนเสื่อ

นี่เป็นเพียงการลงทุนเพียงเฟสแรกเท่านั้น​  เพราะการลงทุนในเฟสที่สองก็กำลังอยู่ระหว่างเจราจา
https://technode.com/2019/05/28/alibaba-in-talks-for-second-major-investment-in-thailand-for-industrial-land/

การเปลี่ยนแปลงทางการขายจะไม่ค่อยๆ​ มาให้เราปรับตัวได้​ แต่จะโหมมาด้วยความรวดเร็ว​ รุนแรง​ จนอาจตั้งตัวไม่ทัน​  ตอนนี้การค้าออน์ไลน์เสมือนยังเดินไปได้แบบปกติ​ แต่คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัว​ จนกลายเป็นคลื่นยักษ์​      ทุกคนต้องเตรียมตัวรับให้ดี

การลงทุนที่จะหวังให้มีการจ้างงาน​ ก็อาจได้เป็นบางส่วนเพราะคงได้สำหรับพนักงาน​ warehouse.เท่านั้น​  แถมจำนวนพนักงานก็ใช้น้อยลงแล้วเนื่องจากใช้ระบบ​ robot เข้าช่วยถึง​ 70%
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตัวใครตัวมัน​ เท่านั้น​ ไม่มีใครช่วยใครได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ขณะที่เมกาพยายามสุดตัวเพื่อสะกัดกั้นการขาดดุลการค้ากับจีน แต่ประเทศนี้กลับหวังแต่เรื่องเม็ดเงินมาลงทุนในประเทศโดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อการค้าขายของคนส่วนใหญ่ในประเทศในภาพรวม ทุกวันนี้เหลืออะไรที่เป็นของคนไทยจริงๆบ้าง
ความคิดเห็นที่ 12
เรื่องการเอาของมาขายแข่งกันนี่เรื่องปกติ

แต่เรื่องไม่เสียภาษีนี่สิ ขี้โกงมากตรงนี้ ทั้งภาษีนิติบุคคล ทั้ง vat โกงเกินไปตรงจุดนี้ เฮ้อ
ความคิดเห็นที่ 68
ในฐานะคนช็อป aliexpress​ และชอบสั่งของผ่านโกดังรับหิ้ว มานานแสนนานก่อน lazada จะดังเสียอีก

เราว่า แม่ค้าคนกลางตายจริงค่ะ รวมถึงพวกโกดังรับสั่งของจากจีนด้วยมั้ง
แต่เราว่ารัฐได้เยอะนะคะ แทนที่เดิมคนซื้อจะแห่ซื้อผ่าน aliexpress ซึ่งเม็ดเงินออกไปแบบตรงๆเลย
อย่างน้อย ตอนนี้สินค้าส่วนใหญ่ของจีนก็จะเข้าผ่านทางโกดังนี้เข้ามาไทยผ่านกระบวนการศุลกากร​ของไทยก่อนแน่ๆล่ะ การจัดเก็บภาษี​มีแหงๆ และน่าจะเก็บง่ายกว่าไปจับพวกรับหิ้วของจากจีน (และยิ่งง่ายกว่าพวกสั่งของผ่าน aliexpress ซึ่งสุ่มเก็บบ้างไม่เก็บบ้างแล้วแต่ดวง)
อีกอย่าง เท่าที่รู้มานะคะ ของพวกนี้เวลาเข้ามามันมาเป็นโกดังนี่คะ มาเป็นตู้เลย เวลาพวกนักลงทุนเค้าขนของเข้ามาเค้าไม่ส่งมาเป็นชิ้นๆ ชิ้นละไม่ถึง 1500 บ.เพื่อเลี่ยงภาษี​หรอกค่ะ เค้าส่งมาเป็นล็อตเหมือนพวกตัวแทนนำเข้าต่างๆของไทย สั่งทีลงมาเป็นตันๆ ซึ่งรัฐก็คุมสินค้าง่าย จัดเก็บภาษี​ง่าย ไม่ใช่มาทีละชิ้นปลีกย่อยตามจำนวนคนที่สั่งผ่านเว็บ อันนั้นจัดการยังไงก็ไม่มีทางคุมได้หรอก

ที่เค้าลดภาษีให้เพราะน่าจะตั้งใจให้สินค้าที่เข้ามาขายในไทยถูกพอๆกันหรือถูกกว่าพวกรับหิ้ว เพื่อให้กลุ่มคนซื้อมานิยมสินค้าจากทางนี้แทน
(เดาว่า)​ รัฐค่อยๆจำกัดเส้นทางสินค้าเข้าจากจีนให้แคบลง ให้ผ่านมือรัฐให้หมดด้วยวิธีนี้ คนรับหิ้วจะสู้ไม่ไหวและทำให้คุมปริมาณ​สินค้าหนีภาษี​ได้ง่ายค่ะ

สรุปคือรัฐน่าจะได้เต็มๆนะ และคนซื้อก็อาจจะได้สินค้าราคาเท่าเดิมที่ซื้อผ่าน aliexpress แต่ถ้าเมื่อไรที่รัฐคุมเส้นทางสินค้าจีนได้หมดไว้ในมือ แล้วขึ้นภาษีเตรียมเอากำไร ถึงตอนนั้นแม่ค้ารับหิ้วคงมีหนทางหากินอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 80
จากประสบการณ์ ทำ eCommerce implementer มานานเป็นสิบปีนะครับ ถ้าพูดชื่อออกไป รู้จักหมดทุกเว็บแน่นอน

ผมคิดว่าการมาครั้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเกินความคาดหมายอะไร จริงๆ ก็รู้ตั้งแต่ตอน Alibaba เข้าซื้อหุ้น Lazada แล้ว แค่ตอนนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเท่านั้นเองครับ

ย้อนกลับมา คนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งทาง บวกและลบ ซึ่งแยกได้หลายส่วนครับ และแนวทางปรับตัว

คนขาย offline
โดนไปเต็มๆ จริงๆ โดนตั้งแต่ Alibaba ยังไม่มาแล้ว ทุกวันนี้ คนทั่วไป ไม่รู้จะทำอะไร ก็ขายสินค้า online เด็กจบใหม่ ก็ขายของผ่านเน็ต เอาจริง ขายตั้งแต่ยังเรียนไม่จบแล้วนะครับ แล้วคุณมีเรี่ยวแรงสู้เด็กจบใหม่ได้แค่ไหนครับ คุณเข้าใจหรือเปล่าว่า eCommerce ทำงานยังไง มีประโยชน์ยังไง คุณไม่เปลี่ยน ทุกอย่างจะบังคับให้คุณเปลี่ยนในวันนึงเอง แต่กว่าจะถึงวันนั้น น่าจะเจ็บตัวไปเยอะ ดังนั้น วันนี้แล้ว จะนิ่งเฉยต่อ หรือ จะสู้ หรือ จะหมอบเลย คุณต้องเลือกเอง ถ้าซื้อหุ้น ก็คือ คุณต้องรู้ว่าตัวเองเข้ามาจุดไหน ตลาดกำลังไปจุดไหน ตอนนี้ กำไรหรือขาดทุนยังไง แล้วจะ cut loss หรือ let profit รัน ธุรกิจของคุณ คุณน่าจะตอบตัวเองได้ แล้วถ้าถามว่าปรับอย่างไร ง่ายมากๆ เริ่มต้นด้วย คนอื่นทำอย่างไร ก็ทำตาม แล้วก็ทำความเข้าใจพร้อมต่อยอดไป อย่าหยุด เน้นว่าอย่าหยุด

คนขาย Online
ก็ในเมื่อคุณรับของคนอื่นมาขาย วันนี้ คนนั้นเค้าขายตรงถึงลูกค้าแล้ว คุณจะอยู่ได้อย่างไร ต้องคิดนะครับ ทำไมลูกค้าต้องซื้อคุณ คิดออกมั้ย นี่คือโจทย์คุณ ถ้าให้ผมใบ้ ก็คือ Value added ของคุณที่มีให้ลูกค้าคืออะไร แล้วใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการมั้ย เอาแบบไม่มโนตัวเอง ไม่หลอกตัวเอง

หรือถ้าทางออกอื่น ก็คือ คุณจะผลิตเองบ้างหรือเปล่า นอกจากรับมาขายแล้วเนี่ย ถ้าผลิตเองได้ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะยังไง การผลิตเองขายเอง ก็คือเราเป็นเจ้าของตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลย แต่ถ้าไม่ได้ผลิตเอง ก็ย้อนขึ้นไปข้างบนครับ

ลูกค้า
เอาจริงๆ ผมก็เป็นลูกค้า Aliexpress มาหลายปีแล้ว ระดับ top บ้าง รอง top บ้างแล้วแต่ปี สิ่งที่ผมเห็นคือหลังๆ ส่งเร็วขึ้นมาก มากยังกับอยู่ในไทยเลย ส่วนเรื่องราคา ก็นั่นล่ะครับ ซื้อกับผู้ผลิต แล้วไหนจะมีการการันตีคุณภาพให้อีก เพราะใช้ไม่ได้ ก็ dispute ได้ ขอเงินคืนได้ อะไรแบบนี้ ดังนั้นคุณได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะได้สินค้า ราคาถูก ส่งไว ดีไม่ดี ไวกว่าคนที่ขายกันเองในประเทศอีก

รัฐบาล
ก็นั่นล่ะครับ ถ้าไม่ได้ประโยชน์ก็คงไม่ทำหรอก อะไรยังไงบ้าง ก็หาอ่านตามสื่อเอาได้ครับ มีเยอะ ข้ามไป

ประเทศจีน เน้นที่ Alibaba
ถ้าคุณได้อ่านเรื่อง Alibaba คุณจะเข้าใจว่า หัวใจของเค้า ก็คือ เค้าต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศของเค้า ให้สามารถขายสินค้าได้ อยู่ได้ เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ และการ expand ออกมาข้างนอกประเทศ มันก็เป็นการเปิดกว้างและทำให้ mission ของเค้าแข็งแรงมากขึ้นไปอีก เค้าไม่เคยลืมจุดยืนเค้าเลย จริงอยู่ว่าการลงทุนมันอาจจะเยอะ และในช่วงแรก มันอาจจะไม่ทำกำไรให้เค้า แต่ถ้า platform มันขยายตัวได้จริง คนใช้เยอะจริง ผู้ประกอบการอยู่ได้จริง เค้าสบายใจแล้วครับ เพราะอะไร เพราะ mission เค้าสำเร็จแล้วไง ส่วนเรื่องเงินกำไร มันก็จะค่อยๆเติบโตตามอัตราการลงทุนไปเรื่อยๆอยู่แล้ว คุณรู้มั้ยว่าตอนตั้งต้น เค้าคิดจะทำบริษัท ให้มีอายุ 20 ปี ต่อมาเค้าขยายเป็น 80 ปี ดังนั้น คุณก็กำลังอยู่ในเกมที่เค้าเดินเกม นาน 80 ปี ถ้าปีที่ 60 มันพึ่งจะได้กำไร ก็ยังไม่สายเกินไปหรอกครับ แต่คุณไปลองหาตัวเลขดูก็ได้ ว่าเค้ากำไรขาดทุนเท่าไร เติบโตด้วยความเร็วเท่าไร แล้วคุณจะทึ่ง

ประเทศจีน เน้นที่ผู้ผลิต และขาย
ก็ตามย่อหน้าบนเลยครับ ในเมื่อที่ผู้ที่มีวิสัยทัศน์ พาออกไปเปิดตลาดต่างประเทศให้แล้ว เราจะขายกันเองแต่ในประเทศอย่างเดียวอีกทำไม ก็ต้องไปช่วยกันขายออกไปสู่เพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด


ย้อนกลับมามองเกมภาพรวมครับ

ปัญหาของบ้านเราก็คือ ทุกภาคส่วน ยังมองเกมสั้นเกินไป อย่างภาครัฐ ก็มองเกมสั้น ประมาณ 4-8 ปีตามอายุรัฐบาล แล้วปัญหาหลักคือเปลี่ยนรัฐบาลแล้วงานหลายอย่าง ไม่ถูกสานต่อ ซึ่งแตกต่างจาก Alibaba ที่เค้าเป็นเอกชน แล้วเค้าก็พร้อมจะทำจนตัวตายไปด้วยกัน เพราะเกมเค้านาน 80 ปี ตัวบุคคลเองเค้าก็ไม่น่าจะอยู่ถึงหรอก แต่เค้าคิด แล้วก็ทำจริง ที่สำคัญ วันที่เค้าเดินออกจากบริษัทไปแล้ว แต่บริษัทยังสามารถสืบทอดเจตนารมณ์ได้อยู่ จนในที่สุด เค้าก็ใหญ่มากพอที่จะคุยอะไร ยังไง กับใครก็ได้ แต่เค้าก็ยังคุยในฐานะมิตรภาพอันดี ที่จะเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ใช่ห้ำหั่นกันให้ตาย

เราต้องถอดบทเรียนอันนี้ออกมา แล้วทุกคนก็ต้องเริ่มปรับตัวเองได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่า หรือว่ายังไง เพราะหลายคนในเน็ตชอบแซะว่า เค้าไปหลอกให้ คนทำเกษตร คนทำผลผลิตพืชไร่ ปลูกแล้วขายให้เค้า แล้วเค้าก็ผูกขาดเรื่องต่างๆจนหมด แต่ผลักภาระและความเสี่ยงให้กับคู่ค้าเหล่านั้น ถ้าคิดอย่างนั้นจริง บริษัทไม่น่าจะอยู่ได้นาน และเติบโตได้ขนาดนี้หรอก มันก็น่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งนั้นแหล่ะ ใครจะอยากฆ่าคู่ค้าตัวเอง แล้วเค้าจะทำธุรกิจในระยะยาวได้อย่างไร

ภาครัฐ จะทำอย่างไร เพื่อให้วิสัยทัศน์แบบนี้ อยู่ในระยะยาว แบบ ยาวมากๆได้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็เป็นแผนระยะยาวดีครับ แต่ว่า มีการตรวจสอบและ revise แผนทุกปีหรือเปล่า (inspect and adapt) หรือว่าคนที่คิดเอาไว้ หมดแรงผลักดันแล้ว คนที่ขึ้นมาแทนคนใหม่ จะยังผลักดันอยู่หรือเปล่า อันนี้ต้องดูเกมยาวๆ

ภาคเอกชนที่เล็กลงมาระดับ SME คุณมีเกมยาวๆมั้ย ต้องไม่คิดแค่ว่า วันนี้ ปีนี้ จะขายอะไร ขายยังไง แต่ต้องคิดว่า ต้องทำอะไร ธุรกิจของคุณมันจะอยู่ยาวๆ ทุกคนทำงานก็อยากได้เงินเยอะครับ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าได้เงินประมาณนึง แต่ได้ไปยาวๆ ตลอดชีวิต มันจะดีกว่าหรือเปล่า ต้องคิดครับ อันนี้ก็แล้วแต่แผนการณ์ แต่ที่ผมเสนอก็คือ แผนระยะสั้น ระยะยาว คุณต้องมี ระยะสั้น มีเพื่อให้สร้างผลกำไนสูงสุดในช่วงเวลานั้นๆ แผนระยะยาว เพื่อรักษาธุรกิจเอาไว้ ไม่ใช่มีอะไรกระทบนิดหน่อย ก็ล้มพับลงไปเลย

ฝากไว้เท่านี้แหล่ะ
ความคิดเห็นที่ 59
คนไทยไม่ต้องกลัว
เกษตรแย่ให้ปรับตัวไปค้าขาย
ค้าขายแย่ให้ปรับตัวไปขายออนไลน์
ขายออนไลน์แย่ให้ปรับตัวไปทำงานบริษัท
ทำงานบริษัทแย่ให้ปรับตัวไปทำเกษตรหรือค้าขาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่