“4 ธุรกิจทำเงินของ Alibaba”

"4 ธุรกิจทำเงินของ Alibaba"




ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คตั้งแต่ปี 2557 และในปัจจุบัน Alibaba ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากได้โค่น Walmart ไปตั้งแต่ปี 2559  

เมื่อนึกถึงชื่อ Alibaba คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง website ที่ใช้ในการซื้อของออนไลน์ที่คล้าย ๆ กับ Amazon (ไม่ได้หมายถึงร้านกาแฟสดนะครับ) ซึ่งโด่งดังจากการทำธุรกิจ e-commerce และ cloud computing  เพียงแต่ Alibaba เน้นเจาะไปที่ตลาดในประเทศจีนซึ่งมีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน (หรือประมาณ 20% ของประชากรทั้งโลก)

จริง ๆ แล้ว Alibaba ไม่ได้ทำเพียงแค่ธุรกิจ e-commerce อย่างเดียว แต่มีธุรกิจหลากหลายมาก ไล่มาตั้งแต่ e-commerce บริการชำระเงิน สื่อและบันเทิง ไปจนถึงธุรกิจ Healthcare โดยมีกิจการที่อยู่ในกลุ่ม Alibaba กว่า 10 ธุรกิจด้วยกัน เรามาดูกันดีกว่าว่า 4 ธุรกิจหลักที่สร้างรายได้หลักให้กับ Alibaba group มีบริษัทอะไรบ้างและธุรกิจอะไรเป็นหลัก

1. Alibaba.com

Alibaba.com ถือเป็น platform ออนไลน์สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (business to business) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีการดำเนินการอยู่ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนงานหลัก ได้แก่ Alibaba.com ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ ภาษาอังกฤษ, 1688.com ซึ่งให้บริการการซื้อขายระหว่างธุรกิจในจีน และ AliExpress.com ซึ่งให้บริการกิจการค้าปลีกระหว่างผู้ซื้อรายย่อยที่ซื้อของจำนวนไม่มากแต่สามารถซื้อได้ที่ราคาส่ง

2. Taobao

Taobao ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 โดยเป็น platform การซื้อขายสินค้าระหว่างลูกค้าและลูกค้า (consumer to consumer) ในจีน ซึ่งคล้ายกับ eBay และ Amazon โดยในช่วงที่ Taobao เพิ่งก่อตั้งขึ้น eBay ได้เข้าไปซื้อกิจการประมูลสินค้าออนไลน์ของจีนที่ชื่อ Eachnet แต่ Taobao ก็ใช้กลยุทธ์สกัดคู่แข่งโดยการเสนอให้ผู้ขายสินค้าใช้ฐานข้อมูลสินค้าและบริการเสริมอย่างการส่งข้อความสำหรับผู้ซื้อได้ฟรี และหลังจากนั้น Taobao ก็กลายเป็น website ซื้อขายสินค้าชั้นนำในจีนภายในเวลาเพียง 2 ปี

3. Alipay

Alipay (ที่เรามักจะเห็นแท่นโลโก้สีฟ้า ๆ ตามร้านสะดวกซื้อในบ้านเรา) เริ่มกิจการเมื่อปี 2548 และในปัจจุบันถือเป็นธุรกิจชำระเงินออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคน  ปัจจุบัน Alipay อยู่ภายใต้บริษัท Ant Financial Group (อยู่ภายใต้ Alibaba อีกทีหนึ่ง) ซึ่งก็ได้แซงหน้า Paypal มาเป็นผู้ให้บริการด้านการชำระเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2557 และในเดือนสิงหาคม 2560 Alipay ก็ได้ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Yelp เพื่อที่จะขยายตลาดไปยังฝั่งประเทศตะวันตก  

นอกจากนี้ Alipay ยังเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินแก่บริษัทในเครืออย่าง Taobao และมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินทั่วโลกถึง 65 แห่ง อาทิ MasterCard และ Visa

ในส่วนของไทยนั้น เมื่อปลายปี 2559 Ant Financial ก็เพิ่งเข้ามาร่วมลงทุนใน Ascend Money ของกลุ่ม CP เพื่อขยายตลาดการชำระเงินทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในไทยด้วยเช่นกัน

4. Lazada

Alibaba ได้เข้าซื้อ Lazada เมื่อกลางปี 2560 ด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้นถึง 83%  โดยธุรกิจหลักของ Lazada ก็คือ e-commerce ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ นั่นเอง

นอกจาก 4 ธุรกิจข้างต้นแล้ว Alibaba ยังมีธุรกิจอื่น ๆ  อีก เช่น  Alibaba Picture Groups ซึ่งทำธุรกิจสื่อและบันเทิง หรือบริษัท Ali Health Information Technology ที่มุ่งเน้นพัฒนา platform สำหรับ healthcare รวมไปถึงธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ และยังมี Aliwangwang and Laiwang ที่เป็นผู้ให้บริการส่งข้อความ (คล้าย ๆ กับ Line ในบ้านเรา) รวมไปถึงธุรกิจหนังสือพิมพ์อย่าง South China Morning Post อีกด้วย

เรียกได้ว่า Alibaba ได้พยายามยึดครองพื้นที่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อขายออนไลน์ไปทั่วทุกหัวระแหงและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกันเลยทีเดียว เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ยักษ์ใหญ๋ Alibaba แห่งนี้ จะใช้กลยุทธ์อย่างไรในการขยายธุรกิจไปยังฟากตะวันตกและจะทำอย่างไรให้สามารถคงสถานะผู้นำธุรกิจซื้อขายออนไลน์ระดับโลกต่อไป
    
ที่มา :
alibabagroup.com
investopedia.com
techsauce.co
en.wikipedia.org

ภาพประกอบ :
alibabagroup.com

อ่านบนเฟสบุ๊ค  https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=320147748490653&id=244466562725439
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่