ผมจะขออธิบายแบบสั้น ๆ ถ้าทำได้นะครับ
เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของธุรกิจจะเกี่ยวข้องกับการขายของทั้งนั้น ต่อให้คุณจะทำแผนกอะไรก็ตามในบริษัทนั้น
ยกตัวอย่าง บ.ขายเครื่องดื่ม แต่คุณทำแผนกช่าง คอยซ่อมบำรุงเครื่องจักรใน บ. แต่สุดท้ายแล้วที่มาของรายได้ของ บ. คุณก็มาจากการขายเครื่องดื่มนั้นเอง
แล้วถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นละ จะทำยังไงเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ที่จะสามารถจ่ายให้กับพนักงานของคุณได้
แน่นอนว่าเราต้องมองถึงเจ้าสองตัวนี้ก็คือ อุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ (อังกฤษ: demand) หมายถึง ความต้องการซื้อสินค้าและบริการ
อุปทาน (supply) หมายถึง ความต้องการขายสินค้าและบริการ
เช่น เราผลิตเครื่องดื่ม 1 ล้านขวดต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงต่อผู้บริโภค แสดงว่ามีคนต้องการสินค้าเรามาก
หรือ ถ้าเราผลิต 1 ล้านขวดเท่าเดิม แต่สำรวจตลาดมาแล้วว่าขายไม่ดีเลย เราก็ต้องลดปริมาณการผลิตลง
สรุปเลยแล้วกัน
ถ้าหากเรารู้ว่าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของตลาด ก็ผลิตให้มากกว่าเดิมครับ
แต่ถ้าผลิตแล้วไม่ค่อยมีคนสนใจ ก็คงต้องมองหาการโฆษณา หรือ ปรับเปลี่ยนสินค้ากันไปครับ
คงไม่มีเจ้าของบริษัทไหนอยากขาดทุนหรอกครับ จริงมั้ย
มีลูกน้องดี ถือว่าคุณโชคดี มีลูกน้องจ้องแต่จะเอาเงินเดือนจากคุณ ก็ซวยไปครับ
ปล. ไม่เข้าใจอะไร เสริมได้ครับ หรือ เข้าใจแล้วจะเสริมให้เพื่อน ๆ อีกก็ได้ครับ
เจ้าของธุรกิจ กับ ลูกจ้าง
เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของธุรกิจจะเกี่ยวข้องกับการขายของทั้งนั้น ต่อให้คุณจะทำแผนกอะไรก็ตามในบริษัทนั้น
ยกตัวอย่าง บ.ขายเครื่องดื่ม แต่คุณทำแผนกช่าง คอยซ่อมบำรุงเครื่องจักรใน บ. แต่สุดท้ายแล้วที่มาของรายได้ของ บ. คุณก็มาจากการขายเครื่องดื่มนั้นเอง
แล้วถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นละ จะทำยังไงเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ที่จะสามารถจ่ายให้กับพนักงานของคุณได้
แน่นอนว่าเราต้องมองถึงเจ้าสองตัวนี้ก็คือ อุปสงค์ อุปทาน
อุปสงค์ (อังกฤษ: demand) หมายถึง ความต้องการซื้อสินค้าและบริการ
อุปทาน (supply) หมายถึง ความต้องการขายสินค้าและบริการ
เช่น เราผลิตเครื่องดื่ม 1 ล้านขวดต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงต่อผู้บริโภค แสดงว่ามีคนต้องการสินค้าเรามาก
หรือ ถ้าเราผลิต 1 ล้านขวดเท่าเดิม แต่สำรวจตลาดมาแล้วว่าขายไม่ดีเลย เราก็ต้องลดปริมาณการผลิตลง
สรุปเลยแล้วกัน
ถ้าหากเรารู้ว่าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของตลาด ก็ผลิตให้มากกว่าเดิมครับ
แต่ถ้าผลิตแล้วไม่ค่อยมีคนสนใจ ก็คงต้องมองหาการโฆษณา หรือ ปรับเปลี่ยนสินค้ากันไปครับ
คงไม่มีเจ้าของบริษัทไหนอยากขาดทุนหรอกครับ จริงมั้ย
มีลูกน้องดี ถือว่าคุณโชคดี มีลูกน้องจ้องแต่จะเอาเงินเดือนจากคุณ ก็ซวยไปครับ
ปล. ไม่เข้าใจอะไร เสริมได้ครับ หรือ เข้าใจแล้วจะเสริมให้เพื่อน ๆ อีกก็ได้ครับ