ขอแชร์เรื่องราว เรื่องเล่า เรื่องจริง ที่เกิดขึ้น ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปนะคะ เขียนผิด หรือตั้งกระทู้ผิดอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ ด้วยไม่ค่อยได้ตั้งบ่อย
มรดกที่รับมอบส่งต่อ จากญาติผู้ใหญ่ที่เป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นเรื่องของป้า ของเจ้าของกระทู้เองค่ะ
ป้า ปัจจุบันอายุ 70 กว่าๆ แล้ว สามีป้าอายุเกือบ 80 ปีแล้ว
เรื่องราวของป้า แม่เล่าให้ฟังยังจำได้ขึ้นใจตราบทุกวันนี้
ในตอนที่ป้าสาวๆ ช่วงนั้น หมู่บ้านเราที่อยู่ในจังหวัดติดชายแดนลาว และ หมู่บ้านเราข้ามเขาไปไม่กี่กิโลก็จะถึงประเทศเพื่อนบ้าน เรียกได้ว่า อยู่ในจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพมาก แล้วยังอยู่ในหมู่บ้านที่ไกลจากตัวเมืองมากอีก
ความคิด ความเชื่อของชาวบ้านจึงยังไม่เปิดกว้าง เรียกได้ว่าไม่เปิดกว้างเลยดีกว่า
ในช่วงที่ป้าสาวๆ ก็จะเป็นช่วงที่มีสงคราม คอมมิวนิส จะมีทหาร ตำรวจชายแดนเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อประจำการ
ป้าเรา รักชอบ กับนายตำรวจจากต่างจังหวัดท่านหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่ามาจากจังหวัดอะไร แต่คิดว่าน่าจะมาจากทางกรุงเทพหรือทางใต้
ในวันที่ตำรวจท่านนั้นจะต้องย้ายกลับภูมิลำเนาตัวเอง ป้าเราตกลงใจจะไปด้วย แต่ยาย ไม่ยอม และไม่ยอมรับ
กับการที่ลูกสาวแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้านเดียวกัน
ในตอนนั้น ป้าเราหนีไปกับตำรวจ แต่ไปไม่พ้น เพราะยาย ให้คนไปตามกลับมา
และไปขอให้หัวหน้านายตำรวจท่านนั้น ช่วยเพื่อไม่ให้ป้าเราจากบ้านและยายไป
ท้ายที่สุด ป้าเราต้องเลิกกันกับตำรวจ และ แต่งงานกับคนที่ยายเลือกให้
ซึ่งคนที่ยายเลือกให้นั้น ก็เป็นญาติกัน เรียกได้ว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้เลย
เรื่องราวความรักของป้า กับ ตำรวจ หรืออื่นๆ หากเป็นละคร คงจบลงที่ป้าเราแต่งงาน
แต่ในชีวิตจริง ไม่จบลงเช่นนั้น ป้าเราแต่งงานกับคนที่ยายเลือกให้ มีลูกคนแรก
ด้วยสายเลือดที่ใกล้กันมากเกินไปหรือเปล่า ลูกสมองไม่ดี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้แต่การขับถ่าย การกิน การอยู่
ทุกอย่าง ต้องช่วยเหลือ
และ ป้ากับสามี คิดว่า ถ้ามีคนที่สองไม่น่าจะเป็นอะไร จึงมีลูกอีกคนเป็นผู้หญิง ลูกออกมา สมองไม่ดีอีกเช่นกัน แม้จะดีกว่าคนแรก แต่ก็ไม่สามารถ
ช่วยเหลือตัวเองได้เช่นกัน คนโต เป็นผู้ชาย แม้ร่างกาย จะโตตามไว แต่แรงเยอะมาก แรงมหาศาล ในตอนที่ต้องบังคับใส่เสื้อผ้า เพราะเขาชอบถอดเสื้อ
ถอดกางเกง ออกวิ่งไปทั่ว ต้องไล่จับ ตามจับกัน
คนที่สองเป็นผู้หญิง แม้สมองไม่ดี แต่ร่างกายนั้น ก็เจริญเติบโตไปตามวัย ในวัยที่ต้องมีประจำเดือน เรียกได้ว่า ทรมานกันไปอีก จากที่
สองคนพี่น้อง ลำพัง ต้องช่วยป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็คอึ เช็ดฉี่ ที่ขับถ่ายไม่เป็นที่ คนน้องในวัยที่ต้องมีประจำเดือน ลำบากมากเข้าไปอีก
ในตอนนี้ เวลาผ่านไปเกือบ 45 ปี คืออายุของลูกชายป้าคนโต
และ 35 ปี ของลูกสาวคนเล็กของป้า
คือช่วงเวลาที่ป้าเราดูแลลูกมา
ในวันนี้ป้าเราอายุมากแล้ว และเดินไม่ได้แล้วเพราะต้องทำงาน และดูแลลูกมานานหลายปี
สมบัติที่ตกทอด ที่เราจะดูแลต่อ คือญาติสองคนนี้ เราไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด
เพียงแต่ ลำพังไม่เคยดูแลมาก่อน ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก เคยแต่วิ่งผ่าน วิ่งเล่นใกล้ๆ
ในตอนเด็ก ในช่วงสงกรานต์ ญาติพี่น้อง มาเต็มบ้านยาย เราเข้าไปเล่นด้วยกับคนพี่ โดนเขาบีบคอเกือบตาย
ดีที่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้
ขอกำลังใจในการดูแลต่อกับญาติเราด้วยนะค่ะ
มรดกที่ต้องดูแลต่อ จากการคุมถุงชน
มรดกที่รับมอบส่งต่อ จากญาติผู้ใหญ่ที่เป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นเรื่องของป้า ของเจ้าของกระทู้เองค่ะ
ป้า ปัจจุบันอายุ 70 กว่าๆ แล้ว สามีป้าอายุเกือบ 80 ปีแล้ว
เรื่องราวของป้า แม่เล่าให้ฟังยังจำได้ขึ้นใจตราบทุกวันนี้
ในตอนที่ป้าสาวๆ ช่วงนั้น หมู่บ้านเราที่อยู่ในจังหวัดติดชายแดนลาว และ หมู่บ้านเราข้ามเขาไปไม่กี่กิโลก็จะถึงประเทศเพื่อนบ้าน เรียกได้ว่า อยู่ในจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพมาก แล้วยังอยู่ในหมู่บ้านที่ไกลจากตัวเมืองมากอีก
ความคิด ความเชื่อของชาวบ้านจึงยังไม่เปิดกว้าง เรียกได้ว่าไม่เปิดกว้างเลยดีกว่า
ในช่วงที่ป้าสาวๆ ก็จะเป็นช่วงที่มีสงคราม คอมมิวนิส จะมีทหาร ตำรวจชายแดนเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อประจำการ
ป้าเรา รักชอบ กับนายตำรวจจากต่างจังหวัดท่านหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่ามาจากจังหวัดอะไร แต่คิดว่าน่าจะมาจากทางกรุงเทพหรือทางใต้
ในวันที่ตำรวจท่านนั้นจะต้องย้ายกลับภูมิลำเนาตัวเอง ป้าเราตกลงใจจะไปด้วย แต่ยาย ไม่ยอม และไม่ยอมรับ
กับการที่ลูกสาวแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้านเดียวกัน
ในตอนนั้น ป้าเราหนีไปกับตำรวจ แต่ไปไม่พ้น เพราะยาย ให้คนไปตามกลับมา
และไปขอให้หัวหน้านายตำรวจท่านนั้น ช่วยเพื่อไม่ให้ป้าเราจากบ้านและยายไป
ท้ายที่สุด ป้าเราต้องเลิกกันกับตำรวจ และ แต่งงานกับคนที่ยายเลือกให้
ซึ่งคนที่ยายเลือกให้นั้น ก็เป็นญาติกัน เรียกได้ว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้เลย
เรื่องราวความรักของป้า กับ ตำรวจ หรืออื่นๆ หากเป็นละคร คงจบลงที่ป้าเราแต่งงาน
แต่ในชีวิตจริง ไม่จบลงเช่นนั้น ป้าเราแต่งงานกับคนที่ยายเลือกให้ มีลูกคนแรก
ด้วยสายเลือดที่ใกล้กันมากเกินไปหรือเปล่า ลูกสมองไม่ดี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้แต่การขับถ่าย การกิน การอยู่
ทุกอย่าง ต้องช่วยเหลือ
และ ป้ากับสามี คิดว่า ถ้ามีคนที่สองไม่น่าจะเป็นอะไร จึงมีลูกอีกคนเป็นผู้หญิง ลูกออกมา สมองไม่ดีอีกเช่นกัน แม้จะดีกว่าคนแรก แต่ก็ไม่สามารถ
ช่วยเหลือตัวเองได้เช่นกัน คนโต เป็นผู้ชาย แม้ร่างกาย จะโตตามไว แต่แรงเยอะมาก แรงมหาศาล ในตอนที่ต้องบังคับใส่เสื้อผ้า เพราะเขาชอบถอดเสื้อ
ถอดกางเกง ออกวิ่งไปทั่ว ต้องไล่จับ ตามจับกัน
คนที่สองเป็นผู้หญิง แม้สมองไม่ดี แต่ร่างกายนั้น ก็เจริญเติบโตไปตามวัย ในวัยที่ต้องมีประจำเดือน เรียกได้ว่า ทรมานกันไปอีก จากที่
สองคนพี่น้อง ลำพัง ต้องช่วยป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็คอึ เช็ดฉี่ ที่ขับถ่ายไม่เป็นที่ คนน้องในวัยที่ต้องมีประจำเดือน ลำบากมากเข้าไปอีก
ในตอนนี้ เวลาผ่านไปเกือบ 45 ปี คืออายุของลูกชายป้าคนโต
และ 35 ปี ของลูกสาวคนเล็กของป้า
คือช่วงเวลาที่ป้าเราดูแลลูกมา
ในวันนี้ป้าเราอายุมากแล้ว และเดินไม่ได้แล้วเพราะต้องทำงาน และดูแลลูกมานานหลายปี
สมบัติที่ตกทอด ที่เราจะดูแลต่อ คือญาติสองคนนี้ เราไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด
เพียงแต่ ลำพังไม่เคยดูแลมาก่อน ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก เคยแต่วิ่งผ่าน วิ่งเล่นใกล้ๆ
ในตอนเด็ก ในช่วงสงกรานต์ ญาติพี่น้อง มาเต็มบ้านยาย เราเข้าไปเล่นด้วยกับคนพี่ โดนเขาบีบคอเกือบตาย
ดีที่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้
ขอกำลังใจในการดูแลต่อกับญาติเราด้วยนะค่ะ