สวัสดีครับผม ขอใช้คำแทนตัวว่า น้า นะครับ (ชื่อในวงการเรือ )ห้วข้อนี้เห็นมีมากันเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีคนสงสัย ยังมีคำถามเข้ามาเรื่อยๆ อยู่เหมือนกัน อย่างว่าแหละอะไรก็ช่างมันต้องมีสองด้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน
ก่อนอื่นเลยอยากแนะนำตัวนิดนึงว่าผมเองก็เป็นลูกเรือสำราญเหมือนกัน และก็ทำมาอยู่สักพักใหญ่ๆแล้ว (แค่ 20 ปีเอง 555 )
เริ่มจากทำงานเป็นพนักงานเสริฟเครื่องดื่ม Bar Steward (Bar Server) , Bartender , Bar Supervisor, Jr. Asst. F&B Mgr. , Asst. F&B Mgr. Bar Manager. ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ในตำแหน่ง Bar Manager ของบริษัท Princess Cruise Line
ก็เห็นมีคำถามเข้ามาตลอดเหมือนกันในบล็อคของน้า ใครอยากรู้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเข้าไปดูได้นะครับผม
http://chatthaiseaman.blogspot.com น้าได้เขียนบทความต่างๆ เกี่ยวกับงานเรือและข้อมูลทั่วไปใครมีเวลาเข้าไปอ่านดูครับ
เข้าเรื่องเราดีกว่าว่างานเรือนั้นมันหนักแค่ไหนกัน??? ถามว่าหน้กไหม ก็หนักอยู่นะ แต่ก็แล้วแต่ตำแหน่งงานของแต่ละบุคคลด้วย เช่น Crew Cleaner/ Crew Utility, Accommodation Attendant, Bar Utility, Dish Washer, Galley Steward, Cook ( Helper) ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้งานหนักเงินน้อย เริ่มจากแค่ 20,000 กว่าๆ ไปจนแค่ 30,000 กว่าๆ แค่นั้นเอง (ใช่ครับ แค่นี้จริง ) ไอ้ที่บอกว่าเงินเดือนเป็นแสนนะจริงไหม จริงครับผม แต่ไม่ใช่ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้
ตำแหน่งต่อไปนี้พอดูดีขึ้นมาหน่อย และรายได้ก็สูงขึ้นมาหน่อยนึง Bar Steward/ Bar Server, Bartender, Lido Attendent/Buffet Steward, Jr. Waiter
ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้จะทำงานค่อนข้างจะต่างจากกลุ่มแรกเยอะเลย งานเบาเงินเยอะ (เบากว่ากลุ่มแรกนิดนึง เยอะกว่ากลุ่มแรกนิดนึง ) โดยเฉพาะ Bar Steward/ Bar Server, Bartender จะงานเบากว่าสาย Dining แต่ว่ามีโอกาสในการสร้างรายได้ได้มากกว่า เพราะว่ารายได้จะขึ้นอยู่กับการขาย และยอดขายโดยรวม และที่สำคัญยอดทิปในแต่ละเที่ยว (cruise) จริงๆแล้วถ้าคนไม่ดื่มไม่เที่ยว แค่ทิปก็สามารถอยู่ได้แล้ว เก็บเงินเดือนและยอดขายเอาไว้ แต่ข้อเสียของสาย Bar คือยอดขายมีโอกาสขึ้นบ้าง ลงบ้างซึ่งส่งผลโดยตรงกับรายได้ แต่ว่างานนั้นถือว่าเบามากกว่าชาวบ้านเขาเยอะเลย 555 ใครบอกว่าทำงานบาร์หนักคุยกันหล้งไมค์ครับผม
Lido Attendant /Buffet Steward, Jr. Waiter กลุ่มนี้จะทำงานในห้องอาหาร Buffet / Dining room หรือแล้วแต่หัวหน้างานจะจัดให้ลงตามความสามารถและความเหมาะสม กลุ่มนี้จะยุ่งทั้งวันซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะ Port Day/ Sea Day และโดยเฉพาะ Turnaround day (วันเปลี่ยนลูกค้า คืออีกวันนีงที่ยุ่งที่สุดสำหรับทุกๆคน น้าเขียนไว้แล้วในบล็อคเข้าไปอ่านนะ ) กลุ่มนี้งานจะหนักกว่ากลุ่มบาร์ รายได้ของกลุ่มนี้จะคงที่ ขึ้นลงก็ไม่มาก เพราะว่าจะได้เงินส่วนแบ่งตามตำแหน่งอยู่แล้ว แต่งานหนักส่วนใหญ่จะคงที่ 555
คำว่างานหนัก น้าว่ามันมาจากความเหนื่อยสะสมมากกว่า ใครที่อ่านบทความเกี่ยวกับงานเรือสำราญมาสักพักนึงคงจะพอรู้ว่าคนที่เขาทำงานเรือกันจะบอกว่าไม่มีวันหยุดต้องทำงานต่อเนื่อง 6-10 เดือน (แล้วแต่สัญญาจ้างของแต่ละคน แต่ละตำแหน่ง อย่างน้าตอนนี้ทำแค่ 5-6 เดือน ) ใช่ครับ ไม่มีวันหยุดแบบงานบนฝั่ง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นหรอก เขาก็มีเวลาให้คุณได้พักผ่อนกันอยู่ เขาจะมี Time Off ให้ คือไม่ได้หยุดทั้งวัน แต่จะมีเวลาตอนเช้า ตอนกลางวัน หรือแม้แต่ Night Off ถ้าเรือจอดค้างคืน ( ซึ่งจะไม่บ่อยเท่าไหร่ที่เรือจะจอดค้างคืน) ทีนี้พอเราได้เวลามาคนส่วนใหญ่ทำอะไรกันครับ ตอบให้เลยก็ได้ว่าออกไปเที่ยวกันสิครับ จะรออะไร จริงๆแล้วถ้าออกไปเที่ยวพอหอมปากหอมคอ กลับมาได้พัก ได้นอนเอาแรงสัก 2-3 ชม ก็ยังโอ แต่ส่วนใหญ่ออกไปเที่ยวแล้วกลับมาทำงานต่อเลย เลยกลายเป็นว่าได้เวลาหยุดมา แต่กลับรู้สึกว่าเหนื่อยขึ้นกว่าเดิมอีก ( ไม่งงนะ )
ตามกฎหมายการเดินเรือสากล Maritime law ลูกเรือจะต้องได้พักอย่างน้อย 11ชม ต่อวัน (เพราะลูกเรือน่าจะทุกบริษัท เซ็นต์สัญญาจ้าง 13 ชม. ต่อวัน ไม่มีวันหยุดตลอดระยะสัญญาจ้าง ) แต่ก็อย่างที่บอกว่าเขาก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นมีเวลาให้พักผ่อนอยู่แล้ว แต่ว่าพอเลิกงานกัน มีเวลาพักผ่อนอีก 7-8 ชม. กว่าจะเข้างานอีกทีวันพรุ่งนี้ แล้วพวกเราทำอะไรก้น ดื่ม สังสรรค์ เล่นโทรศัพท์ คุยกะเพื่อน คนที่บ้าน จนดึกดื่นสิครับ แล้วพรุ่งนี้ก็บ่นเหนื่อยกันตามระเบียบ
งานเรือน่ะ มีเวลาให้พักผ่อนเกิน 10 ชม ต่อวันอย่างแน่นอน เราจะเอาเวลาพักผ่อนของเราไปทำอะไรแค่นั้นเอง
สำหรับน้านะ งานเรือมันไม่ได้หนัก ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นหรอก ถ้าเปรียบเที่ยบกับรายได้ที่เราได้รับ ประสบการณ์ที่เราได้รับ มันคุ้มค่ามากเลยแหละสำหรับน้า ได้ยินเสียงมานิดๆ ว่าก็ใช่สิ น้าชาติเป็น Bar Manager เลยพูดดได้ เพราะว่าไม่ได้ทำงานเหมือนลูกเรือทั่วไป แต่อย่าลืมนะน้าก็เคยผ่านตรงจุดนั้นมาแล้วเหมือนกัน อย่างที่น้าบอกตอนเริ่มต้นบทความว่าทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอแหละ แล้วเจอกันครับผม ติดตามกันต่อไปครับ
Alaska ดินแดนที่ถ้าไม่ได้ไปทำงานเรือก็คงไม่น่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้
เป็นรูปที่ดูยังงัยก็ไม่เบื่อ น้าอยู่มา 20 ปีแล้ว มีความรู้สึกว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 อยู่บนเรือมากกว่าอยู่บนฝั่งอีก 555
3 หนุ่ม 3 มุม กะเพื่อนร่วมงาน
กับลูกน้อง Bartender & Barista
กับลูกน้องสาย Bar ดูสิแต่ละคนไม่มีใครเหนื่อยเลย
กาลครั้งหนึ่งเมื่อสมัยยังทำงานหลังบาร์อยู่
งานเรือสำราญนั้นหนักแค่ไหนกัน ????
ก่อนอื่นเลยอยากแนะนำตัวนิดนึงว่าผมเองก็เป็นลูกเรือสำราญเหมือนกัน และก็ทำมาอยู่สักพักใหญ่ๆแล้ว (แค่ 20 ปีเอง 555 )
เริ่มจากทำงานเป็นพนักงานเสริฟเครื่องดื่ม Bar Steward (Bar Server) , Bartender , Bar Supervisor, Jr. Asst. F&B Mgr. , Asst. F&B Mgr. Bar Manager. ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ในตำแหน่ง Bar Manager ของบริษัท Princess Cruise Line
ก็เห็นมีคำถามเข้ามาตลอดเหมือนกันในบล็อคของน้า ใครอยากรู้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเข้าไปดูได้นะครับผม http://chatthaiseaman.blogspot.com น้าได้เขียนบทความต่างๆ เกี่ยวกับงานเรือและข้อมูลทั่วไปใครมีเวลาเข้าไปอ่านดูครับ
เข้าเรื่องเราดีกว่าว่างานเรือนั้นมันหนักแค่ไหนกัน??? ถามว่าหน้กไหม ก็หนักอยู่นะ แต่ก็แล้วแต่ตำแหน่งงานของแต่ละบุคคลด้วย เช่น Crew Cleaner/ Crew Utility, Accommodation Attendant, Bar Utility, Dish Washer, Galley Steward, Cook ( Helper) ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้งานหนักเงินน้อย เริ่มจากแค่ 20,000 กว่าๆ ไปจนแค่ 30,000 กว่าๆ แค่นั้นเอง (ใช่ครับ แค่นี้จริง ) ไอ้ที่บอกว่าเงินเดือนเป็นแสนนะจริงไหม จริงครับผม แต่ไม่ใช่ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้
ตำแหน่งต่อไปนี้พอดูดีขึ้นมาหน่อย และรายได้ก็สูงขึ้นมาหน่อยนึง Bar Steward/ Bar Server, Bartender, Lido Attendent/Buffet Steward, Jr. Waiter
ตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้จะทำงานค่อนข้างจะต่างจากกลุ่มแรกเยอะเลย งานเบาเงินเยอะ (เบากว่ากลุ่มแรกนิดนึง เยอะกว่ากลุ่มแรกนิดนึง ) โดยเฉพาะ Bar Steward/ Bar Server, Bartender จะงานเบากว่าสาย Dining แต่ว่ามีโอกาสในการสร้างรายได้ได้มากกว่า เพราะว่ารายได้จะขึ้นอยู่กับการขาย และยอดขายโดยรวม และที่สำคัญยอดทิปในแต่ละเที่ยว (cruise) จริงๆแล้วถ้าคนไม่ดื่มไม่เที่ยว แค่ทิปก็สามารถอยู่ได้แล้ว เก็บเงินเดือนและยอดขายเอาไว้ แต่ข้อเสียของสาย Bar คือยอดขายมีโอกาสขึ้นบ้าง ลงบ้างซึ่งส่งผลโดยตรงกับรายได้ แต่ว่างานนั้นถือว่าเบามากกว่าชาวบ้านเขาเยอะเลย 555 ใครบอกว่าทำงานบาร์หนักคุยกันหล้งไมค์ครับผม
Lido Attendant /Buffet Steward, Jr. Waiter กลุ่มนี้จะทำงานในห้องอาหาร Buffet / Dining room หรือแล้วแต่หัวหน้างานจะจัดให้ลงตามความสามารถและความเหมาะสม กลุ่มนี้จะยุ่งทั้งวันซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะ Port Day/ Sea Day และโดยเฉพาะ Turnaround day (วันเปลี่ยนลูกค้า คืออีกวันนีงที่ยุ่งที่สุดสำหรับทุกๆคน น้าเขียนไว้แล้วในบล็อคเข้าไปอ่านนะ ) กลุ่มนี้งานจะหนักกว่ากลุ่มบาร์ รายได้ของกลุ่มนี้จะคงที่ ขึ้นลงก็ไม่มาก เพราะว่าจะได้เงินส่วนแบ่งตามตำแหน่งอยู่แล้ว แต่งานหนักส่วนใหญ่จะคงที่ 555
คำว่างานหนัก น้าว่ามันมาจากความเหนื่อยสะสมมากกว่า ใครที่อ่านบทความเกี่ยวกับงานเรือสำราญมาสักพักนึงคงจะพอรู้ว่าคนที่เขาทำงานเรือกันจะบอกว่าไม่มีวันหยุดต้องทำงานต่อเนื่อง 6-10 เดือน (แล้วแต่สัญญาจ้างของแต่ละคน แต่ละตำแหน่ง อย่างน้าตอนนี้ทำแค่ 5-6 เดือน ) ใช่ครับ ไม่มีวันหยุดแบบงานบนฝั่ง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นหรอก เขาก็มีเวลาให้คุณได้พักผ่อนกันอยู่ เขาจะมี Time Off ให้ คือไม่ได้หยุดทั้งวัน แต่จะมีเวลาตอนเช้า ตอนกลางวัน หรือแม้แต่ Night Off ถ้าเรือจอดค้างคืน ( ซึ่งจะไม่บ่อยเท่าไหร่ที่เรือจะจอดค้างคืน) ทีนี้พอเราได้เวลามาคนส่วนใหญ่ทำอะไรกันครับ ตอบให้เลยก็ได้ว่าออกไปเที่ยวกันสิครับ จะรออะไร จริงๆแล้วถ้าออกไปเที่ยวพอหอมปากหอมคอ กลับมาได้พัก ได้นอนเอาแรงสัก 2-3 ชม ก็ยังโอ แต่ส่วนใหญ่ออกไปเที่ยวแล้วกลับมาทำงานต่อเลย เลยกลายเป็นว่าได้เวลาหยุดมา แต่กลับรู้สึกว่าเหนื่อยขึ้นกว่าเดิมอีก ( ไม่งงนะ )
ตามกฎหมายการเดินเรือสากล Maritime law ลูกเรือจะต้องได้พักอย่างน้อย 11ชม ต่อวัน (เพราะลูกเรือน่าจะทุกบริษัท เซ็นต์สัญญาจ้าง 13 ชม. ต่อวัน ไม่มีวันหยุดตลอดระยะสัญญาจ้าง ) แต่ก็อย่างที่บอกว่าเขาก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นมีเวลาให้พักผ่อนอยู่แล้ว แต่ว่าพอเลิกงานกัน มีเวลาพักผ่อนอีก 7-8 ชม. กว่าจะเข้างานอีกทีวันพรุ่งนี้ แล้วพวกเราทำอะไรก้น ดื่ม สังสรรค์ เล่นโทรศัพท์ คุยกะเพื่อน คนที่บ้าน จนดึกดื่นสิครับ แล้วพรุ่งนี้ก็บ่นเหนื่อยกันตามระเบียบ
งานเรือน่ะ มีเวลาให้พักผ่อนเกิน 10 ชม ต่อวันอย่างแน่นอน เราจะเอาเวลาพักผ่อนของเราไปทำอะไรแค่นั้นเอง
สำหรับน้านะ งานเรือมันไม่ได้หนัก ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นหรอก ถ้าเปรียบเที่ยบกับรายได้ที่เราได้รับ ประสบการณ์ที่เราได้รับ มันคุ้มค่ามากเลยแหละสำหรับน้า ได้ยินเสียงมานิดๆ ว่าก็ใช่สิ น้าชาติเป็น Bar Manager เลยพูดดได้ เพราะว่าไม่ได้ทำงานเหมือนลูกเรือทั่วไป แต่อย่าลืมนะน้าก็เคยผ่านตรงจุดนั้นมาแล้วเหมือนกัน อย่างที่น้าบอกตอนเริ่มต้นบทความว่าทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอแหละ แล้วเจอกันครับผม ติดตามกันต่อไปครับ
Alaska ดินแดนที่ถ้าไม่ได้ไปทำงานเรือก็คงไม่น่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้
เป็นรูปที่ดูยังงัยก็ไม่เบื่อ น้าอยู่มา 20 ปีแล้ว มีความรู้สึกว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 อยู่บนเรือมากกว่าอยู่บนฝั่งอีก 555
3 หนุ่ม 3 มุม กะเพื่อนร่วมงาน
กับลูกน้อง Bartender & Barista
กับลูกน้องสาย Bar ดูสิแต่ละคนไม่มีใครเหนื่อยเลย
กาลครั้งหนึ่งเมื่อสมัยยังทำงานหลังบาร์อยู่