ตอนแรกเขาจะรูดบัตรแต่รูดไม่ได้  ก็เลยคืนบัตรเขาไป
แป๊บเดียวเขาหาบัตรไม่เจอ บอกว่าอยู่ไหน. พนักงานเราบอกว่าอยู่ในถุงที่พี่ถือหรือเปล่า
เขาก็ค้นเจอบัตรที่เขาเป็นคนเก็บใส่เองนั่นแหละ

เขาเลยเดินไปกดatm ใกล้ๆร้านใกล้7-11
เขาเอาเงินมายื่นให้เรา4000  เราก็เขียนบัตรนัดอยู่. 
เลยยื่นเงินให้พนักงานนับ.    ซึ่งนั่งอยู่ติดกันเลย
นับเสร็จก็ยื่นให้เรานับอีก  แบงค์พัน4ใบ  ครบ เราก็เก็บลงลิ้นชัก

ปกติเวลาลูกค้าจ่ายเงินเราจะนับ2คน เผื่อผิดพลาด

พอลูกค้ากลับไป โทรมาบอกว่าเขาจ่ายไป5000
เพราะกดatmมา5000มีslip
เขาบอกแวะซื้อเงาะไปด้วย แต่บริเวณนั้นไม่มีร้านขายเงาะเลยอ่ะ
เราบอกให้กลับมา เขาไม่กลับ บอกให้โอนคืน1000
คิดว่าร้านเราโกงเขาแน่ๆ
เราเลยบอกในลิ้นชักมีแค่แบงค์พัน4ใบ
แล้วเราก็นับหลายรอบแล้ว. ในลิ้นชักมีแต่เหรียญ ไม่มีแบงค์อื่นเลย
 ลูกค้าก่อนหน้าเขามีแค่คนเดียว  และรูดบัตร
ค้นกระเป๋าตังพนักงานและของเรา ไม่มีแบงค์พันเลยสักใบ 

เราอธิบายเท่าไรเขาไม่ฟังเลย 
คิดว่าเราโกงท่าเดียว
เราบอกงั้นเราโอนคืนให้ง่ายๆ. แต่ยืนยันว่าเขาให้มา4000จริงๆ.   วันข้างหน้าคุณอาจจะรู้ความจริง
เขาก็ไม่ยอมรับว่าอาจเป็นที่ความหลงลืมของเขา
เราโอนไปให้แล้ว
พุ่งนี้ต้องไปสน ลงบันทึก เอาใบมายื่นที่7-11เพื่อขอดูกล้อง
ถ้ากล้องไม่เห็นเธอ เราก็ซวยไป ถูกใส่ร้ายป้ายสี ทั้งที่ไม่ได้ทำ

 
ขอคำแนะนำ  ในชีวิตก็เจอคนใส่ความมาเยอะ บางเรื่อง7-8เดือนกว่าความจริงปรากฏ
บางเรื่องทั้งชีวิตก็ไม่ได้พิสูจน์เลย
มันไม่สบายใจ