นั่งทำงานเพลินๆ สายตาก็เหลือบไปมองปฏิทิน ช่วงนี้วันหยุดยาวไม่ค่อยจะมีเลยนะ แต่อาการอยากเที่ยวกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว
แอบมองหาที่เที่ยวซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน และที่นั่นก็คือ แอ่น..แอ๊น…
จังหวัด ‘สระบุรี-ลพบุรี’ นี่เองค่ะ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย
เราและชาวคณะรวมตัวกันได้ 8 คน เดินทางโดยรถตู้พร้อมคนขับ ค่ารถไป-กลับคนละ 550 บาท ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กันตั้งแต่ 7 โมงเช้า
มาเริ่มที่แรกกันเลย มีคุณยายนั่งรับแขกอยู่ด้านหน้าด้วย ถ้ายายขยับนี่มีวิ่งนะคะ
มาค่ะที่นี่คือ ‘บ้านไร่กาแฟ สระบุรี’ ทางเข้าด้านหน้าโอ่อ่าอลังการงานสร้างมาก
เดินเข้ามาด้านในนี่ โอ้โฮ! เหมือนทะลุมิติย้อนเวลากลับมาในโลกแห่งอดีตกันเลย
มีน้องนกยูง ออกมาต้อนรับด้วยการรำแพนหางอวดสีสันสวยงามให้เราดูด้วย เลิศค่ะ!
เอ๊ะ! ใครแอบมาปล่อยควันไล่ยุง อ่อ..ด้านในเริ่มคั่วเมล็ดกาแฟกันแล้ว
ที่นี่มีการจัดวางตกแต่งออกมาในรูปแบบของร้านกาแฟสมัยก่อน
พร้อมสาธิตวิธีการทำกาแฟแบบโบราณให้เราได้ดูกันอีกด้วย
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยของเก่าต่างๆมากมายมาจัดวางไว้ให้เราได้เดินชมพร้อมถ่ายรูปกันเพลินๆ
แถมยังมีการจำลองงานวัดให้ได้หวนคิดถึงในวันวาน เหมือนว่าแอบมาเช็คอายุกันเบาๆนะคะ
นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มมาวางจัดจำหน่ายให้เราได้เลือกซื้อเลือกชิมกันด้วย
เช้าอย่างนี้ขอเป็นกาแฟแล้วกันค่ะ ราคา 80 บาท อึกแรกนี่ ตื่นเลยค่ะคุณพี่ ของเขาดีจริงๆ เข้มข้นเด็ดมากขอบอก
ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวันเลยนะคะ ตั้งแต่ เวลา 09.00-17.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
ถ่ายรูปกันจนสดชื่นสดใสสมวัยกันแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อแล้วค่ะ ไปก่อนนะเจ้าหนูไม่ต้องร้องนะ โอ๋ๆ
มาต่อกันที่ ‘หอวัฒนธรรมพื้นบ้าน ไท-ยวน สระบุรี ’ มีค่าเข้าชม (บำรุงสถานที่) 20 บาท
ก่อตั้งโดย อ.ทรงชัย วรรณกุล ท่านต้องการอนุรักษ์มรดกของกลุ่ม ไท-ยวน เอาไว้
จึงได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาว ไท-ยวน ภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ริมน้ำแห่งนี้
ทางเข้ายังมีน้ำหวานแบบโบราณ ใส่ในขันเงินใบเล็กให้เราได้เลือกชิมกัน รสชาติหวานเย็นชื่นใจเลยค่ะ
ด้านในเราจะพบกับเรือนไม้ทรงไทยที่ยังคงเสน่ห์แบบโบราณ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก
มีอายุกว่าร้อยปีจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ มองแล้วเต็มไปด้วยมนต์ขลังจริงๆ ขนลุกแล้ว
โดยภายในเรือนริมน้ำแห่งนี้ ยังมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของชาวไท-ยวน ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงผ้าทอลวดลายแบบโบราณให้เราได้ชมกัน
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการการสาธิตวิธีการทำอาหาร และขนมไทยแบบโบราณ
รวมถึงการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติให้น้องๆ นักเรียน นักศึกษา ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้อีกด้วย
ซึ่งหากสนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้กับทางเพจ ‘หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวนสระบุรี’ ได้เลยนะคะ
มานั่งริมน้ำกับลมพัดเย็นๆแบบนี้ ชิลมากค่ะ คร่อกกกก เดี๋ยวหล่อนจะมานอนที่นี่ไม่ได้นะไปต่อได้แล้ว
ออกมาก็ได้เวลามื้อกลางวันพอดี เรามาหาของทานกันดีกว่าค่ะนี่เลย ‘ตลาดหัวปลี สระบุรี’
เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
มีน้องๆ มาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ‘สวัสดีค่ะ ตลาดหัวปลียินดีต้อนรับค่ะ’ ต้อนรับเราอยู่ด้านหน้าด้วย น่ารักอ่ะ
เข้ามาด้านในยังได้บรรยากาศแนวบ้านสวนแบบชิลๆ ต้นไม้ร่มรื่นมาก
สินค้าที่วางจำหน่ายส่วนมากเป็นของพื้นบ้าน และผลิตผลทางการเกษตรของคนในชุมชน
โดยระหว่างที่เราเดินเลือกซื้อสินค้าก็ยังมีบทเพลงเพราะๆ มาขับกล่อมให้เราได้ฟังกันแบบเพลินๆอีกด้วย
และในส่วนของอาหารนั้นก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลาย
เดินไปร้านไหน พ่อค้า แม่ค้า ที่นี่ก็น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายทุกร้านเลย เป็นกันเองมากค่ะ
นึกอะไรไม่ออก บอกข้าวกระเพราไข่ดาว 45 บาท อาหารธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดานะคะ แปบเดียวเกลี้ยง แทบจะเลียใบตองกันเลยทีเดียว
ในส่วนของฝากก็มีให้เลือกอย่างมากมาย โดยฉพาะซิกเนเจอร์ของที่นี่เมนู ‘ลาบหัวปลี’ รสชาติอร่อยเด็ดไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ
เดินไปเดินมาเห็นอะไรก็น่าทานไปหมดเลย อะแฮ่มๆ ไปต่อได้แล้วจ้ะ
[CR] รีวิว 'สระบุรี-ลพบุรี' [วันเดียว เที่ยวสนุก กินสนั่น]
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้