สืบเนื่องจากโพสต์พระราชวังต้องห้าม ปักกิ่ง ที่ได้เข้าชมสองรอบ รอบที่ 1 และ รอบที่ 2 ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของทริปปักกิ่งช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้คิดถึงการไปเที่ยว/ไปทำงานที่ไต้หวัน และ National Palace Museum หรือกู้กงไทเป ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ต้องแวะ ทั้งความชอบส่วนตัว และการทำงานที่ผสมผสานไปด้วยกัน เลยถือโอกาสโพสต์ย้อนหลังกับความประทับใจ ความสุขที่ได้เข้าชมวัตถุจัดแสดงของกู้กงไทเป โดยเฉพาะหยกที่ล้ำค่าอย่างหยกแกะสลักเป็นรูปผักกาดขาวที่มีตั๊กแตนเกาะอยู่ ซึ่งได้รับการจัดอันดับในความงดงามติดอันดับโลก รวมไปถึงหยกหมูสามชั้น 

 

พิพิธภัณฑ์กู้กงไทเปนี้กับพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งนั้นมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยง ศิลปวัตถุที่แสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ไต้หวัน ล้วนขนย้ายมาจากพิพิธภัณฑ์ในพระราชวังกู้กง เป็นการย้ายหนีในช่วงที่จีนประสบปัญหาการถูกรุกรานจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าถูกทำลาย โดยกู้กงไทเปเริ่มการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1962 ซึ่งมีต้นแบบมาจากพระราชวังโบราณในกรุงปักกิ่ง เดิมตั้งชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์ จง ซาน ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งชาติ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บ วัตถุและ ผลงานทางศิลปะของจีนโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 5000 ปี เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มีอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์นี่เป็นจำนวนมากกว่า 600,000 ชิ้นจากทุกราชวงศ์ของจีน จนต้องหมุนเวียนออกมาจัดให้ชมทุก 3 เดือน


ปัจจุบันกู้กงยังได้พื้นที่จัดแสดงใหม่ ที่นำเทคโนโลยีหลากรูปแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ การเรียนรู้ของผู้ชม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้อย่างน่าสนใจ เช่น ภาพวาดสวยๆ จากภาพเก่าของจีน ลวดลายบนวัตถุล้ำค่าต่างๆ ได้ถูกถอดออกมาเป็นสื่อใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประสมประสานอย่าง AR เพียงเปิด App AR ที่กู้กงจัดทำ ส่องไปที่แผ่นรองเมาส์ ซึ่งจะปรากฏภาพแจกันใส่ดอกไม้สามมิติสวยงามบนจอภาพ หรือสื่อ Interactive อีกหลายหลายเทคนิค


ไต้หวันได้ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บ รวมรวบ และเผยแพร่ข้อมูลศิลปวัฒนธรรมของประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวัตถุทรงคุณค่าที่นำมาจากประเทศจีน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 600,000 ชิ้น ประกอบด้วย ภาพเขียน หนังสือ แผ่นป้าย เครื่องทองแดง เครื่องหยก เครื่องเซรามิก เครื่องเขียนโบราณ เครื่องแกะสลัก งานปัก งานทอมือ หนังสือ รวมทั้งเอกสารเก่าแก่ต่างๆ โดยไต้หวันได้กำหนดให้หน่วยงานชื่อ National Palace Museum หรือ NPM รับผิดชอบในการดูแลรักษา จัดเก็บ รวบรวม จัดหมวดหมู่ และเผยแพร่ส่งเสริมความรักในศิลปะให้กับเยาวชนในชาติ โดยมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการรวบรวม จัดหมวดหมู่ เพื่อสะดวกต่อการค้นคืน ส่วนตัวถือว่าได้รับโอกาสดีจากหน่วยงานหนึ่งให้เข้าไปศึกษาวิธีดำเนินการของ NPM ในปี 2014 เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งยังคงประทับใจมาจนวันนี้ และยังมีโอกาสดีๆ ได้เข้าร่วมฟังพัฒนาการของ NPM ตลอดจนการจัดตั้ง NPM สาขาภาคใต้ที่เมืองเจียอี้ นับว่ากู้กงของไต้หวันทั้งที่ไทเป และเจียอี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีโอกาสเข้าชมทั้งส่วนการจัดแสดง และส่วนการบริหารจัดการ และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้ามากกว่า 10 ครั้ง แผนภาพด้านล่างคือกระบวนการบริหารจัดการที่ได้รับรู้ตั้งแต่ปี 2014 และถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่นำมาประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างดี

และที่ไปดูงานล่าสุด