สวัสดีค่ะ เนื่องจากสอบผ่านแล้วเลยจะมาแก้บนว่าจะเขียนแชร์วิธีอ่านสอบเองให้ผ่านอย่างน้อย 7 โดยที่ทุกพาร์ทอย่างน้อย6.5 ค่ะ
เราสอบติดกันสองครั้ง ห่างกัน1อาทิตย์
แบบกระดาษได้ L8.5 R8.0 W7.0 S6.0
แบบคอมพ์ได้ L8.5 R9.0 W6.5 S6.5เป็นการเขียนรีวิวสอบครั้งแรกของเราถ้าไม่ดียังไงขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะแต่จะพยายามแชร์ทริคทุกอย่างและสิ่งที่อ่านให้หมดเลยค่ะ
เล่าเรื่องก่อนคือ เราไปลองสอบแบบ paper-based ก่อน ที่มีสอบแค่รอบวันเสาร์ จำได้ว่าคนสอบเยอะมากๆน่าจะร้อยคนได้ค่ะ
รอบแรกนี้เตรียมตัวไปแค่writing คืออ่านตัวอย่างคำตอบแบนด์9.0ไป เกือบ10อัน คืนก่อนสอบ (task1+2) มาวันสอบจริง
ตอนreadingนี่แบบ เสียงเปิดกระดาษทำเรารำคาญมาก และตอนwritingคือสติแตกเพราะว่าไม่เคยฝึกเขียนมาก่อน
และเป็นคนลายมือแย่มาก เขียนไปนับคำไป ลนมากๆ เลยรีบสมัครสอบคอมต่อเลยเพราะคิดว่าไม่ผ่านแน่ค่ะ เพราะคิดว่าเขียนคำไม่ครบ250
แต่ปรากฎผลสอบออกมาได้writing 7.0เฉย แต่ดันติด 6.0 ที่ speaking คราวนี้สอบอีกรอบ มีเวลาอ่านประมาณ5วันค่ะ
เคล็ดลับโดยรวม: ถ้าต้องเอา6.5ทุกพาร์ท แล้วพาร์ทไหนเก่งอยู่แล้ว มั่นใจว่าทำได้เกิน7.5ชัวร์ ก็ไม่ต้องไปแตะมันแล้วค่ะ (ในกรณีที่มีเวลาน้อย)
อ่านแต่พาร์ทที่เราไม่มั่นใจว่าจะผ่าน6.5พอ อย่างเราคือเรียนภาษาอังกฤษแบบpassiveมาทั้งชีวิต อยู่โรงเรียนไทยด้วย speaking, writing เป็นจุดอ่อนเลยค่ะ 5วันนั้นเราฝึกแต่speaking แล้วท่องwritingนิดหน่อย L&Rทิ้งเลยค่ะ
REVIEW สอบ
Computer Delivered IELTS Test IDP @ CP TOWER ค่าสอบ 7,500 บาท เลือกวันได้ตามใจเลยค่ะมีวันสอบเยอะมาก
วันสอบจริง คนน้อยดีค่ะ มีประมาณ8คนมั้งคะ ชอบมาก ชิวกว่าและกดดันน้อยกว่าตอนสอบกระดาษวันเสาร์เยอะค่ะ ตอนนั่งรอมีเปิดคลิปtutorial
แบบเดียวกับในเว็บ
https://www.ielts.idp.co.th/computer_th.aspx เปิดวนให้ดูเรื่อยๆค่ะ
พอเข้าไปในห้อง ตอนแรกจะแจกใบusername+password ของlistening, readingค่ะ หลังจากนั้นจะเก็บไปหลังสอบรีดดิ้งเสร็จ
(เราทำรีดดิ้งเสร็จก่อน ละร่างdraft writingไว้ ไม่รู้ว่าเค้าจะเก็บ เศร้าเลย55) แล้วแจกให้ใบใหม่ตอนwritingอีกทีค่ะ
ใช้โน้ตบุ๊ค acer สอบค่ะ แป้นพิมพ์ปกติที่มีเลขอยู่ข้างๆด้วย จะมีให้เลือกขนาดfont 3ระดับ
เราเลือกระดับ2ค่ะ คิดว่า1เล็กไป ชอบอันใหญ่สุดนะคะเอาจริงแต่กลัวมันใหญ่ไปแล้วทำให้บรรทัดเยอะขึ้น เดี๋ยวอ่านแล้วอืดค่ะ
ส่วนตอนเลือกสีตัวอักษรกับสีพื้นหลัง สำหรับเรา อันแรกสุดดีสุดแล้วค่ะ อันอื่นเรารู้สึกว่าทำให้ปวดตาขึ้นอะ แบบตัวอักษรน้ำเงิน พื้นเหลือง
อันแรกคือ ตัวหนังสือสีดำ พื้นฟ้าอ่อนค่ะ มีเวลาให้กดเลือกดูก่อนสอบค่ะ เปลี่ยนระหว่างสอบก็ได้
Listening เหมือนแบบกระดาษเลยค่ะ ต่างแค่ตอนจบมีเวลาให้ทวนแค่2นาที แต่ว่าหลังเสร็จแต่ละพาร์ท จะมีประมาณ30วิ-1นาทีให้เช็คเหมือนกัน
เราลืมพิมพ์แบบcapital letterทั้งหมด ลืมคิด มาคิดได้ตอนรีดดิ้ง เลยลองเสี่ยงดูพิมพ์ตอบด้วยพิมพ์ใหญ่ไปสี่ข้อ ปรากฎก็ยังได้9 แสดงว่าน่าจะตอบพิมพ์ใหญ่หมดได้นะคะ ดูข้อดีๆด้วยนะคะ เรามีหลุด เพราะมันพาร์ทนึงเรียงแบบ
11 12
13 14
15 16
แต่เราประมาท ไม่ได้ดูเลขข้อคิดว่าเรียงลงมา เลยมองข้อ13ตอนเสียงพูดข้อ12
เคล็ดลับ: ฝึกทำข้อสอบจริง ให้ชิน ถ้าสมมติคนไหนเริ่มจากทำไม่ค่อยได้เลย เราแนะนำให้
ฟังไปอ่านสคริปต์ไปค่ะ อีกอย่างคือ ฝึก
อ่านโจทย์ก่อนแล้วเดาว่าคำที่ใส่จะเป็น
part of speechอะไรค่ะ เช่น noun, adj ส่วนใหญ่คำที่เติมคือคำง่ายๆทั้งนั้นค่ะทุกพาร์ทเลย อีกอย่างที่สำคัญสุดคือ
สมาธิล้วนๆ ถ้าใจลอยนิดนึงมันไปเลยอะค่ะ ต้องฝึกสมาธิอย่าคิดถึงเรื่องอื่นตอนฟัง (เราเป็นตลอดT T) และถ้ารู้ตัวว่าพลาดไป ต้องmove onนะคะ5555 ทิ้งข้อนั้นไปเลย อย่าไปพยายามคิดว่าจะตอบอะไรดี ไม่งั้นมันจะหลุดข้อถัดๆไปต่อจะยิ่งเละค่ะ
เราสังเกตุได้ว่า Listening สอบทั้งสองครั้งไม่มีแบบแผนที่แผนผังแล้วค่ะ ชอบนะเพราะเราชอบสติหลุดพาร์ทแผนที่55
Reading
อันนี้สะดวกจริงๆ คือ passage อยู่ข้างซ้าย right click highlightได้ คำถามคำตอบอยู่ขวา เวลาก็เขียนอยู่ข้างบน อันนี้ดีมากใครอยากดึงคะแนนพาร์ทreading มาสอบคอมพ์เถอะค่ะจริงๆ ไม่มีเสียงเปิดกระดาษน่ารำคาญด้วย อีกอย่างคือ เรื่องฟ้อนท์ ตอนเปเปอร์เราไม่ชอบเลยค่ะ ฟ้อนท์เปลี่ยนทุกแพสเสจ ฟ้อนท์มันส่งผลนิดๆต่อการอ่านนะคะ
เคล็ดลับ:
แบ่งเวลา 15,15, 30นาที ต้องทำ จริงๆนะคะ เขียนไว้ในกระดาษเลยค่ะว่า
45
30
คือ 45ปุ๊ปต้องเสร็จpassageแรก และ30ปุ๊ปต้องเริ่มอ่านเรื่องสุดท้าย
ตอนสอบกระดาษรอบแรก เราแบ่ง20-20-20ค่ะ ละแพสเสจ1,2เอ้อระเหยมาก ชิว คิดว่าง่ายจังให้เวลาเยอะจัง พออันสุดท้าย มาเป็นนิยายเลยค่า ตัดนิยายมากเลย มีถามด้วยว่า ทำไมคนเขียนใส่ประโยคนี้มาด้วย ตอนนั้นแบบ ieltsมันออกขนาดนี้เลยหรอ ละคือ ทำเติมคำ5ข้อสุดท้ายไม่ทันค่ะ ตอบมั่วมากไป
สรุปคือ แบ่งเวลาแบบที่บอกเถอะค่ะจริงๆ ชีวิตดีกว่าเยอะ
พาร์ทนี้เราคิดว่าทำได้เพราะรู้ศัพท์เยอะค่ะ ยังไงก็ ท่องศัพท์เยอะๆและฝึกอ่านเยอะๆ คือเราผ่านการสอบSAT critical readingมา reading ieltsเลยง่ายไปเลย ช่วงนั้นก็คือ
ท่องศัพท์academicเยอะมาก และ
ฝึกจับเวลาให้ทำให้ทัน ต้องอ่านเร็วๆให้ชิน คำถามส่วนใหญ่ถ้าแปลออกก็คือตอบได้เลยอ่ะ ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
T,F,NG
Fคือสิ่งที่อยู่ในแพสเสจ ตรงข้ามกับ statement
NG คือมันไม่ได้บอกค่า พวกคำว่าextreme แบบ only ไรงี้ส่วนใหญ่ตอบNGนะคะถ้าหาrefไม่เจอจริงๆอ่ะ
ปกติวิธีทำของเราคือจะอ่านไปก่อน2-3paragraphละค่อยมาเริ่มทำค่ะ ก็ไล่ๆไปคำตอบมันเรียง อ่านซ้ำบ้าง ปกติเราอ่านสองรอบตลอด ก็คือถ้าอ่านออก ก็จบ เพราะคำตอบมันก็แค่เปลี่ยนคำมั่ง paraphaseมั่ง เติมคำนี่แทบจะแค่หาคำข้างๆในแพสเสจ
ส่วนพาร์ทสาม มันชอบจัดมา T,F,NG, multiple choices, matching ในอันเดียว (ข้อ28-40) เราเลยคิดว่าต้องแบ่ง30นาทีค่ะ เพราะจะได้เผื่อเวลาอ่านทั้งหมดซ้ำแบบละเอียดอีกรอบ (เหมือนคุ้นๆว่าอ่านเจอก็มีฝรั่งแนะนำว่าให้แบ่งเวลาพาร์ทสุดท้ายเยอะสุด) แพสเสจสามบางทีมันถามละเอียดค่ะ แถมยังชอบออกแบบliteratureหน่อยๆ รอบคอมพ์ ก็พูดถึงนักเขียนและตัวละคร แต่คำถามมันแค่ถามตรงๆว่าเราแปลออกมั๊ยเข้าใจมั๊ย ไม่ถึงขนาดคิดวิเคราะห์
Writing
ใครลายมือแย่ แนะนำสอบคอมเลยค่ะ มันกด ctrl+c ctrl+v ได้ค่ะ ย้ายไปย้ายมาสะดวก ทำให้เราลบแก้ได้ ร่างได้ในนั้นเลย (แต่ก๊อปแล้วต้องเพสท์ก่อนนะคะ ค่อยกลับไปลบ ถ้าก๊อป แล้วลบ แล้วเพสท์ ไม่ติดนะคะ55555โดนมาแล้ว)
เคล็ดลับ: ต้องฝึกเขียนเอาจริง เราไม่ได้ฝึก ทำให้เราใช้เกือบครึ่งชมไปกับพาร์ทแรกทั้งสองรอบและทำให้มีเวลาเขียนพาร์ทสองน้อยลง
คือพาร์ทสอง คะแนน2/3นะคะ พาร์ทแรก1/3 ควรแบ่ง20กับ40นาที
1. ส่วนตัวเราเขียนessayบ่อยอยู่แล้วและไม่มีเวลาไม่มีคนตรวจ เลยไม่ได้ฝึก ใช้วิธีอ่านเอา คือ
อ่านแพทเทิร์นของคนที่สอบได้9 อ่านคำตอบ9 เท่านั้น
https://www.ieltsadvantage.com/2015/03/10/ielts-writing-task-1-grammar-guide/
https://www.ielts-exam.net/ielts-preparation-tips/describe-a-line-graph.html อ่านตัวอย่างคำตอบของtask1ให้หมด ให้รู้วิธีตอบของแต่ละกราฟ
2. ท่องศัพท์ค่ะ topic ไหนควรมีศัพท์คำไหน เวลาคิดidea 1,2 ก้ใลิสท์คำลงไปเลย รอบ2เราได้เรื่องสัตว์ป่า เงิบเลย คะแนนหล่นเลยค่ะ
แนะนำหาโหลดอันนี้ค่ะ IELTS-2018-Vocab-Ebook-1 เค้าจะไล่topic ละฟังคลิปตามเลยค่ะ จะได้boost vacab
3. มีแพทเทิร์นของตัวเอง และทำตามแพทเทิร์นนั้นไปเลย เช่น
-Intro
- On the one hand,
-On the other hand, ที่เราagree
-To conclude, it appears that, while xxx is essential for xenon, there are definite advantages when …ตรงข้าม as well. This is provided that xxxx,xxx.
คือหมายถึง แบบ ในพารากราฟแรก จะใช้ for instance พารากราฟ2ใช้ for example. แรกใช้ however สอง in contrast แบบจะได้ไม่ต้องมานึกว่าใช้ซ้ำไปยัง ไรงี้อะค่ะ
4. ท่องpattern ประโยคสวยๆที่ตัวเองใช้เป็นและคุ้น
it is inevitable that
xxx plays a key role
xxx
is indispensable
is
reasonably reliable
A detrimental effect on
Speaking
ด้วยความที่สอบวันธรรมดา มีexaminer แค่ห้องเดียวค่ะ ไม่เหมือนวันที่สอบรอบกระดาษ คนเยอะกว่า มีหลายห้องสอบ
พาร์ทนี้คือปัญหาโลกแตกของเราเพราะเป็นคนขี้อายไม่กล้าพูด ไปสอบมาครั้งแรกได้6 เซงมาก ต้องใช้6.5
แต่เราค้นพบวิธีละค่ะ มันได้ผลด้วย5555 คือบอกก่อนเราเป็นพวกพูดลอยๆเรื่อยๆไม่ได้ แบบต้องคิดออกก่อนค่อยพูดอะค่ะ
ซึ่งแย่มาก สำหรับข้อสอบวัดภาษา แง คือในห้องนี่ลืมเทคนิคทุกอย่างหมดอ่ะ คิดแต่จะคิดคำตอบ ซึ่งอันนี้เราแก้ตัวเองยังไม่ได้อยู่ดี
แต่เอาเป็นว่าจะแชร์วิธีที่ทำให้ได้อย่างน้อย6.5 นั่นก็คือ ทำพาร์ทแรกกับสองให้รอดค่า เพราะมันเตรียมได้ง่ายมากๆๆ ถึงจะเวลาน้อย สำเนียงแย่ อะไรก็ตาม
https://ieltsliz.com/ielts-speaking-topics-may-aug-2019/
ดูเว็บนี้ค่ะ แล้วเตรียมคำตอบพาร์ท1,2ไปค่ะ ไม่ต้องท่องนะคะ แต่ให้มีไอเดียในหัวไม่ไปเงิบในห้องสอบค่ะ
อย่างหนัง,หนังสือ,writerอ่ะ ก็เอาเป็นเรื่องเดียวไปเลยค่ะ จะได้พูดได้ไม่หยุดง่ะ
คือต้องฝึกโยงให้เก่ง ต่อให้ได้เรื่องที่ไม่ชอบก็พูดเรื่องนั้นนิดๆแล้วออกทะเลไปเลยค่ะ เค้าไม่หักถ้าพูดนอกเรื่องค่ะ
ปล ในเว็บielts liz ดีมากค่ะ ให้อ่านลิ้งค์วิธีตอบคำถามยากๆไปเผื่อค่ะ จะได้มีแนวคำตอบสำหรับคำถามแปลกๆ
จะฝึกเองก็ดูช่องนี้ก็ได้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=qXPSgMo0C1w Jay สอนดีค่ะ
ข้อเสียของการสอบแบบคอมพ์
1. เวลาเล็กๆน้อยๆมันหายไป เพราะคอมพ์ตัดเลย ตอนสอบแบบกระดาษระยะเวลาตอนที่บอกหมดเวลาแล้ว แต่อีกประมาณ10วิก่อนพนักงานจะมาเก็บมันยังเปลี่ยนคำตอบทัน เติมsทัน จะหายไป
2. เวลาบอกเป็นนาทีไม่เป็นวินาที อันนี้งงมาก?? คือตอนเหลือ1นาทีถ้าเห็นเป็นวิมันอาจจะโอเคกว่าอ่ะ
3. คือพาร์ท listening, readingอ่ะ ปกติแบบถ้าไม่แน่ใจคำตอบจริงๆ บางทีเราจะตอบซ้ำสองข้อ เก้ทป่ะคะ
แบบคิดว่าA จับคู่ตอบข้อ 11,12 สักข้อแน่ๆ เราจะมั่วไป เพราะอย่างน้อยจะได้1คะแนนแน่ๆ แต่อันนี้มันไม่ได้ค่ะ คือแต่ละคำตอบเราต้องลากมาใส่อ่ะ ใช้ตอบได้ครั้งเดียวค่ะ
4. เราคิดว่าwritingอะ แบบpaperเรื่องจำนวนคำมันไม่โหดเท่าคอม เพราะบนคอมมันนับคำให้อ่ะ สอบรอบแรกเราได้7.0ทั้งๆที่มั่นใจว่าพาร์ทสองเขียนไม่ถึง250แน่ๆ ประมาณ200เอง รอบสองได้6.5 แต่คงเป็นเพราะtopicด้วยค่ะ รอบแรกได้เรื่องรัฐบาลออกแนวecon รอบสองมาเรื่องสัตว์ป่า คลังศัพท์ไม่ค่อยมี
5. ใครพิมพ์คอมช้าคืออาจจะแย่มากกว่าช่วย
6. คือไม่แน่ใจว่าการcopy paste ได้ในwritingมันดีหรือไม่ดีอะ คืออย่างตอนเขียนกระดาษ เราจะบังคับตัวเองให้เขียนไปไม่ลบ แต่พอจอคอมปุ๊ป เราแบบ แก้ไปแก้มา เก้ทปะคะ แบบcoherenceไม่ได้เท่าตอนต้องบังคับตัวเองให้เขียนให้เสร็จแบบเรียงมา
คือtask2ในกระดาษอย่างมากถ้าเราข้ามขั้นคือ เราเขียนintro ละเว้นที่ไปเขียนconclusionเลย แต่ที่เหลือเราจะพยายามเขียนbody1ให้เสร็จก่อนค่อยขึ้นbody2 ไม่ก็อย่างมากเว้นไปสองบรรทัดกรณีคิดexampleไม่ออกอ่ะ แต่พอเป็นคอม เราแบบ ร่างทุกอย่างละค่อยๆเติมบนเติมล่าง อะไรไม่รู้ หรือเป็นเพราะได้เรื่องสัตว์ป่าแล้วเราไม่ค่อยแม่นideaไม่รู้
Share วิธีอ่านสอบieltsเองให้ได้อย่างน้อย6.5ทุกพาร์ท + รีวิวสอบ ielts แบบ computer delivered IDP
เราสอบติดกันสองครั้ง ห่างกัน1อาทิตย์
แบบกระดาษได้ L8.5 R8.0 W7.0 S6.0
แบบคอมพ์ได้ L8.5 R9.0 W6.5 S6.5เป็นการเขียนรีวิวสอบครั้งแรกของเราถ้าไม่ดียังไงขอโทษไว้ล่วงหน้านะคะแต่จะพยายามแชร์ทริคทุกอย่างและสิ่งที่อ่านให้หมดเลยค่ะ
เล่าเรื่องก่อนคือ เราไปลองสอบแบบ paper-based ก่อน ที่มีสอบแค่รอบวันเสาร์ จำได้ว่าคนสอบเยอะมากๆน่าจะร้อยคนได้ค่ะ
รอบแรกนี้เตรียมตัวไปแค่writing คืออ่านตัวอย่างคำตอบแบนด์9.0ไป เกือบ10อัน คืนก่อนสอบ (task1+2) มาวันสอบจริง
ตอนreadingนี่แบบ เสียงเปิดกระดาษทำเรารำคาญมาก และตอนwritingคือสติแตกเพราะว่าไม่เคยฝึกเขียนมาก่อน
และเป็นคนลายมือแย่มาก เขียนไปนับคำไป ลนมากๆ เลยรีบสมัครสอบคอมต่อเลยเพราะคิดว่าไม่ผ่านแน่ค่ะ เพราะคิดว่าเขียนคำไม่ครบ250
แต่ปรากฎผลสอบออกมาได้writing 7.0เฉย แต่ดันติด 6.0 ที่ speaking คราวนี้สอบอีกรอบ มีเวลาอ่านประมาณ5วันค่ะ
เคล็ดลับโดยรวม: ถ้าต้องเอา6.5ทุกพาร์ท แล้วพาร์ทไหนเก่งอยู่แล้ว มั่นใจว่าทำได้เกิน7.5ชัวร์ ก็ไม่ต้องไปแตะมันแล้วค่ะ (ในกรณีที่มีเวลาน้อย) อ่านแต่พาร์ทที่เราไม่มั่นใจว่าจะผ่าน6.5พอ อย่างเราคือเรียนภาษาอังกฤษแบบpassiveมาทั้งชีวิต อยู่โรงเรียนไทยด้วย speaking, writing เป็นจุดอ่อนเลยค่ะ 5วันนั้นเราฝึกแต่speaking แล้วท่องwritingนิดหน่อย L&Rทิ้งเลยค่ะ
REVIEW สอบ Computer Delivered IELTS Test IDP @ CP TOWER ค่าสอบ 7,500 บาท เลือกวันได้ตามใจเลยค่ะมีวันสอบเยอะมาก
วันสอบจริง คนน้อยดีค่ะ มีประมาณ8คนมั้งคะ ชอบมาก ชิวกว่าและกดดันน้อยกว่าตอนสอบกระดาษวันเสาร์เยอะค่ะ ตอนนั่งรอมีเปิดคลิปtutorial
แบบเดียวกับในเว็บ https://www.ielts.idp.co.th/computer_th.aspx เปิดวนให้ดูเรื่อยๆค่ะ
พอเข้าไปในห้อง ตอนแรกจะแจกใบusername+password ของlistening, readingค่ะ หลังจากนั้นจะเก็บไปหลังสอบรีดดิ้งเสร็จ
(เราทำรีดดิ้งเสร็จก่อน ละร่างdraft writingไว้ ไม่รู้ว่าเค้าจะเก็บ เศร้าเลย55) แล้วแจกให้ใบใหม่ตอนwritingอีกทีค่ะ
ใช้โน้ตบุ๊ค acer สอบค่ะ แป้นพิมพ์ปกติที่มีเลขอยู่ข้างๆด้วย จะมีให้เลือกขนาดfont 3ระดับ
เราเลือกระดับ2ค่ะ คิดว่า1เล็กไป ชอบอันใหญ่สุดนะคะเอาจริงแต่กลัวมันใหญ่ไปแล้วทำให้บรรทัดเยอะขึ้น เดี๋ยวอ่านแล้วอืดค่ะ
ส่วนตอนเลือกสีตัวอักษรกับสีพื้นหลัง สำหรับเรา อันแรกสุดดีสุดแล้วค่ะ อันอื่นเรารู้สึกว่าทำให้ปวดตาขึ้นอะ แบบตัวอักษรน้ำเงิน พื้นเหลือง
อันแรกคือ ตัวหนังสือสีดำ พื้นฟ้าอ่อนค่ะ มีเวลาให้กดเลือกดูก่อนสอบค่ะ เปลี่ยนระหว่างสอบก็ได้
Listening เหมือนแบบกระดาษเลยค่ะ ต่างแค่ตอนจบมีเวลาให้ทวนแค่2นาที แต่ว่าหลังเสร็จแต่ละพาร์ท จะมีประมาณ30วิ-1นาทีให้เช็คเหมือนกัน
เราลืมพิมพ์แบบcapital letterทั้งหมด ลืมคิด มาคิดได้ตอนรีดดิ้ง เลยลองเสี่ยงดูพิมพ์ตอบด้วยพิมพ์ใหญ่ไปสี่ข้อ ปรากฎก็ยังได้9 แสดงว่าน่าจะตอบพิมพ์ใหญ่หมดได้นะคะ ดูข้อดีๆด้วยนะคะ เรามีหลุด เพราะมันพาร์ทนึงเรียงแบบ
11 12
13 14
15 16
แต่เราประมาท ไม่ได้ดูเลขข้อคิดว่าเรียงลงมา เลยมองข้อ13ตอนเสียงพูดข้อ12
เคล็ดลับ: ฝึกทำข้อสอบจริง ให้ชิน ถ้าสมมติคนไหนเริ่มจากทำไม่ค่อยได้เลย เราแนะนำให้ฟังไปอ่านสคริปต์ไปค่ะ อีกอย่างคือ ฝึกอ่านโจทย์ก่อนแล้วเดาว่าคำที่ใส่จะเป็น part of speechอะไรค่ะ เช่น noun, adj ส่วนใหญ่คำที่เติมคือคำง่ายๆทั้งนั้นค่ะทุกพาร์ทเลย อีกอย่างที่สำคัญสุดคือสมาธิล้วนๆ ถ้าใจลอยนิดนึงมันไปเลยอะค่ะ ต้องฝึกสมาธิอย่าคิดถึงเรื่องอื่นตอนฟัง (เราเป็นตลอดT T) และถ้ารู้ตัวว่าพลาดไป ต้องmove onนะคะ5555 ทิ้งข้อนั้นไปเลย อย่าไปพยายามคิดว่าจะตอบอะไรดี ไม่งั้นมันจะหลุดข้อถัดๆไปต่อจะยิ่งเละค่ะ
เราสังเกตุได้ว่า Listening สอบทั้งสองครั้งไม่มีแบบแผนที่แผนผังแล้วค่ะ ชอบนะเพราะเราชอบสติหลุดพาร์ทแผนที่55
Reading
อันนี้สะดวกจริงๆ คือ passage อยู่ข้างซ้าย right click highlightได้ คำถามคำตอบอยู่ขวา เวลาก็เขียนอยู่ข้างบน อันนี้ดีมากใครอยากดึงคะแนนพาร์ทreading มาสอบคอมพ์เถอะค่ะจริงๆ ไม่มีเสียงเปิดกระดาษน่ารำคาญด้วย อีกอย่างคือ เรื่องฟ้อนท์ ตอนเปเปอร์เราไม่ชอบเลยค่ะ ฟ้อนท์เปลี่ยนทุกแพสเสจ ฟ้อนท์มันส่งผลนิดๆต่อการอ่านนะคะ
เคล็ดลับ: แบ่งเวลา 15,15, 30นาที ต้องทำ จริงๆนะคะ เขียนไว้ในกระดาษเลยค่ะว่า
45
30
คือ 45ปุ๊ปต้องเสร็จpassageแรก และ30ปุ๊ปต้องเริ่มอ่านเรื่องสุดท้าย
ตอนสอบกระดาษรอบแรก เราแบ่ง20-20-20ค่ะ ละแพสเสจ1,2เอ้อระเหยมาก ชิว คิดว่าง่ายจังให้เวลาเยอะจัง พออันสุดท้าย มาเป็นนิยายเลยค่า ตัดนิยายมากเลย มีถามด้วยว่า ทำไมคนเขียนใส่ประโยคนี้มาด้วย ตอนนั้นแบบ ieltsมันออกขนาดนี้เลยหรอ ละคือ ทำเติมคำ5ข้อสุดท้ายไม่ทันค่ะ ตอบมั่วมากไป
สรุปคือ แบ่งเวลาแบบที่บอกเถอะค่ะจริงๆ ชีวิตดีกว่าเยอะ
พาร์ทนี้เราคิดว่าทำได้เพราะรู้ศัพท์เยอะค่ะ ยังไงก็ ท่องศัพท์เยอะๆและฝึกอ่านเยอะๆ คือเราผ่านการสอบSAT critical readingมา reading ieltsเลยง่ายไปเลย ช่วงนั้นก็คือ ท่องศัพท์academicเยอะมาก และ ฝึกจับเวลาให้ทำให้ทัน ต้องอ่านเร็วๆให้ชิน คำถามส่วนใหญ่ถ้าแปลออกก็คือตอบได้เลยอ่ะ ไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
T,F,NG
Fคือสิ่งที่อยู่ในแพสเสจ ตรงข้ามกับ statement
NG คือมันไม่ได้บอกค่า พวกคำว่าextreme แบบ only ไรงี้ส่วนใหญ่ตอบNGนะคะถ้าหาrefไม่เจอจริงๆอ่ะ
ปกติวิธีทำของเราคือจะอ่านไปก่อน2-3paragraphละค่อยมาเริ่มทำค่ะ ก็ไล่ๆไปคำตอบมันเรียง อ่านซ้ำบ้าง ปกติเราอ่านสองรอบตลอด ก็คือถ้าอ่านออก ก็จบ เพราะคำตอบมันก็แค่เปลี่ยนคำมั่ง paraphaseมั่ง เติมคำนี่แทบจะแค่หาคำข้างๆในแพสเสจ
ส่วนพาร์ทสาม มันชอบจัดมา T,F,NG, multiple choices, matching ในอันเดียว (ข้อ28-40) เราเลยคิดว่าต้องแบ่ง30นาทีค่ะ เพราะจะได้เผื่อเวลาอ่านทั้งหมดซ้ำแบบละเอียดอีกรอบ (เหมือนคุ้นๆว่าอ่านเจอก็มีฝรั่งแนะนำว่าให้แบ่งเวลาพาร์ทสุดท้ายเยอะสุด) แพสเสจสามบางทีมันถามละเอียดค่ะ แถมยังชอบออกแบบliteratureหน่อยๆ รอบคอมพ์ ก็พูดถึงนักเขียนและตัวละคร แต่คำถามมันแค่ถามตรงๆว่าเราแปลออกมั๊ยเข้าใจมั๊ย ไม่ถึงขนาดคิดวิเคราะห์
Writing
ใครลายมือแย่ แนะนำสอบคอมเลยค่ะ มันกด ctrl+c ctrl+v ได้ค่ะ ย้ายไปย้ายมาสะดวก ทำให้เราลบแก้ได้ ร่างได้ในนั้นเลย (แต่ก๊อปแล้วต้องเพสท์ก่อนนะคะ ค่อยกลับไปลบ ถ้าก๊อป แล้วลบ แล้วเพสท์ ไม่ติดนะคะ55555โดนมาแล้ว)
เคล็ดลับ: ต้องฝึกเขียนเอาจริง เราไม่ได้ฝึก ทำให้เราใช้เกือบครึ่งชมไปกับพาร์ทแรกทั้งสองรอบและทำให้มีเวลาเขียนพาร์ทสองน้อยลง
คือพาร์ทสอง คะแนน2/3นะคะ พาร์ทแรก1/3 ควรแบ่ง20กับ40นาที
1. ส่วนตัวเราเขียนessayบ่อยอยู่แล้วและไม่มีเวลาไม่มีคนตรวจ เลยไม่ได้ฝึก ใช้วิธีอ่านเอา คืออ่านแพทเทิร์นของคนที่สอบได้9 อ่านคำตอบ9 เท่านั้น
https://www.ieltsadvantage.com/2015/03/10/ielts-writing-task-1-grammar-guide/
https://www.ielts-exam.net/ielts-preparation-tips/describe-a-line-graph.html อ่านตัวอย่างคำตอบของtask1ให้หมด ให้รู้วิธีตอบของแต่ละกราฟ
2. ท่องศัพท์ค่ะ topic ไหนควรมีศัพท์คำไหน เวลาคิดidea 1,2 ก้ใลิสท์คำลงไปเลย รอบ2เราได้เรื่องสัตว์ป่า เงิบเลย คะแนนหล่นเลยค่ะ
แนะนำหาโหลดอันนี้ค่ะ IELTS-2018-Vocab-Ebook-1 เค้าจะไล่topic ละฟังคลิปตามเลยค่ะ จะได้boost vacab
3. มีแพทเทิร์นของตัวเอง และทำตามแพทเทิร์นนั้นไปเลย เช่น
-Intro
- On the one hand,
-On the other hand, ที่เราagree
-To conclude, it appears that, while xxx is essential for xenon, there are definite advantages when …ตรงข้าม as well. This is provided that xxxx,xxx.
คือหมายถึง แบบ ในพารากราฟแรก จะใช้ for instance พารากราฟ2ใช้ for example. แรกใช้ however สอง in contrast แบบจะได้ไม่ต้องมานึกว่าใช้ซ้ำไปยัง ไรงี้อะค่ะ
4. ท่องpattern ประโยคสวยๆที่ตัวเองใช้เป็นและคุ้น
it is inevitable that
xxx plays a key role
xxx is indispensable
is reasonably reliable
A detrimental effect on
Speaking
ด้วยความที่สอบวันธรรมดา มีexaminer แค่ห้องเดียวค่ะ ไม่เหมือนวันที่สอบรอบกระดาษ คนเยอะกว่า มีหลายห้องสอบ
พาร์ทนี้คือปัญหาโลกแตกของเราเพราะเป็นคนขี้อายไม่กล้าพูด ไปสอบมาครั้งแรกได้6 เซงมาก ต้องใช้6.5
แต่เราค้นพบวิธีละค่ะ มันได้ผลด้วย5555 คือบอกก่อนเราเป็นพวกพูดลอยๆเรื่อยๆไม่ได้ แบบต้องคิดออกก่อนค่อยพูดอะค่ะ
ซึ่งแย่มาก สำหรับข้อสอบวัดภาษา แง คือในห้องนี่ลืมเทคนิคทุกอย่างหมดอ่ะ คิดแต่จะคิดคำตอบ ซึ่งอันนี้เราแก้ตัวเองยังไม่ได้อยู่ดี
แต่เอาเป็นว่าจะแชร์วิธีที่ทำให้ได้อย่างน้อย6.5 นั่นก็คือ ทำพาร์ทแรกกับสองให้รอดค่า เพราะมันเตรียมได้ง่ายมากๆๆ ถึงจะเวลาน้อย สำเนียงแย่ อะไรก็ตาม
https://ieltsliz.com/ielts-speaking-topics-may-aug-2019/
ดูเว็บนี้ค่ะ แล้วเตรียมคำตอบพาร์ท1,2ไปค่ะ ไม่ต้องท่องนะคะ แต่ให้มีไอเดียในหัวไม่ไปเงิบในห้องสอบค่ะ
อย่างหนัง,หนังสือ,writerอ่ะ ก็เอาเป็นเรื่องเดียวไปเลยค่ะ จะได้พูดได้ไม่หยุดง่ะ
คือต้องฝึกโยงให้เก่ง ต่อให้ได้เรื่องที่ไม่ชอบก็พูดเรื่องนั้นนิดๆแล้วออกทะเลไปเลยค่ะ เค้าไม่หักถ้าพูดนอกเรื่องค่ะ
ปล ในเว็บielts liz ดีมากค่ะ ให้อ่านลิ้งค์วิธีตอบคำถามยากๆไปเผื่อค่ะ จะได้มีแนวคำตอบสำหรับคำถามแปลกๆ
จะฝึกเองก็ดูช่องนี้ก็ได้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=qXPSgMo0C1w Jay สอนดีค่ะ
ข้อเสียของการสอบแบบคอมพ์
1. เวลาเล็กๆน้อยๆมันหายไป เพราะคอมพ์ตัดเลย ตอนสอบแบบกระดาษระยะเวลาตอนที่บอกหมดเวลาแล้ว แต่อีกประมาณ10วิก่อนพนักงานจะมาเก็บมันยังเปลี่ยนคำตอบทัน เติมsทัน จะหายไป
2. เวลาบอกเป็นนาทีไม่เป็นวินาที อันนี้งงมาก?? คือตอนเหลือ1นาทีถ้าเห็นเป็นวิมันอาจจะโอเคกว่าอ่ะ
3. คือพาร์ท listening, readingอ่ะ ปกติแบบถ้าไม่แน่ใจคำตอบจริงๆ บางทีเราจะตอบซ้ำสองข้อ เก้ทป่ะคะ
แบบคิดว่าA จับคู่ตอบข้อ 11,12 สักข้อแน่ๆ เราจะมั่วไป เพราะอย่างน้อยจะได้1คะแนนแน่ๆ แต่อันนี้มันไม่ได้ค่ะ คือแต่ละคำตอบเราต้องลากมาใส่อ่ะ ใช้ตอบได้ครั้งเดียวค่ะ
4. เราคิดว่าwritingอะ แบบpaperเรื่องจำนวนคำมันไม่โหดเท่าคอม เพราะบนคอมมันนับคำให้อ่ะ สอบรอบแรกเราได้7.0ทั้งๆที่มั่นใจว่าพาร์ทสองเขียนไม่ถึง250แน่ๆ ประมาณ200เอง รอบสองได้6.5 แต่คงเป็นเพราะtopicด้วยค่ะ รอบแรกได้เรื่องรัฐบาลออกแนวecon รอบสองมาเรื่องสัตว์ป่า คลังศัพท์ไม่ค่อยมี
5. ใครพิมพ์คอมช้าคืออาจจะแย่มากกว่าช่วย
6. คือไม่แน่ใจว่าการcopy paste ได้ในwritingมันดีหรือไม่ดีอะ คืออย่างตอนเขียนกระดาษ เราจะบังคับตัวเองให้เขียนไปไม่ลบ แต่พอจอคอมปุ๊ป เราแบบ แก้ไปแก้มา เก้ทปะคะ แบบcoherenceไม่ได้เท่าตอนต้องบังคับตัวเองให้เขียนให้เสร็จแบบเรียงมา
คือtask2ในกระดาษอย่างมากถ้าเราข้ามขั้นคือ เราเขียนintro ละเว้นที่ไปเขียนconclusionเลย แต่ที่เหลือเราจะพยายามเขียนbody1ให้เสร็จก่อนค่อยขึ้นbody2 ไม่ก็อย่างมากเว้นไปสองบรรทัดกรณีคิดexampleไม่ออกอ่ะ แต่พอเป็นคอม เราแบบ ร่างทุกอย่างละค่อยๆเติมบนเติมล่าง อะไรไม่รู้ หรือเป็นเพราะได้เรื่องสัตว์ป่าแล้วเราไม่ค่อยแม่นideaไม่รู้