แอฟริกาใต้🇿🇦 ถ้าพูดถึงประเทศนี้คุณนึกถึงอะไร?.....

สำหรับเราแล้วนึกถึงคนผิวดำ ชนเผ่าเพ้นท์ลวดลายบนหน้า
ซาฟารีมีฝูงม้าลายที่กำลังวิ่งหนีเสือ ช้างแอฟริกาหูใบใหญ่ๆ
กับวิวทุ่งหญ้าสีทองอร่ามตอนพระอาทิตย์ตก ใช่เลยเราดูแต่ในจีโอกราฟฟิก 555

แต่เมื่อเราเจอคอนเท้นนึงที่ไปเที่ยวเคปทาวน์ โหย สวยยย น่าไปจัง
ก่อนหน้านี้แฟนเราก็บอกว่า เคปทาวน์เป็นเมืองที่เขาอยากไปอยู่มากๆเลย
เราเลยบอกว่างั้นพาเราไปเที่ยวสิ อิอิ
และแล้วฝันก็เป็นจริง
แฟนมีภารกิจต้องไปทำงานโซนนั้นพอดี เราเลยตามเขาไปเที่ยวซะเลย
ด้วยความกระชั้นชิดเราจองไฟล์ทบินกับ เอธิโอเปียแอร์ไลน์
หาข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดเหลือง
บางกระทู้ก็บอกไม่ต้องฉีดเพราะเป็นโซนปลอดโรค แต่เราบินกลับเอธิโอเปีย
อาจจะโดนตรวจ เพื่อความสบายใจไปฉีดดีกว่า ต้องฉีดก่อนเดินทาง 10 วัน
ซึ่งเราไปฉีดก่อน 10 วันเป๊ะ เอาล่ะตั๋วพร้อม จองโรงแรมแล้ว ป่ะ ไปกัน!!
ทริปนี้รูปเยอะ เลยอยากรีวิวละเอียดหน่อย เราขอแบ่งเป็น 3 part นะคะ

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
MY plan: Part1
26/5 Day1
relax day ถึง st.james ช่วงบ่ายๆ ตกเย็นเดินเล่นไปดูเล่นเซิรฟ์ ที่หาด Muizenberg Beach, Dinner Harbour House Kalk Bay
27/5 Day2
Table Mountain เสียใจไม่ได้ขึ้นหมอกเยอะ แงๆๆ - Bo Kaap - V&A Water front
28/5 Day 3
Boulder beach - Cape of Good Hope and Cape National Park
29/5 Day4
Table Mountain มาซ้ำ^^
Part: 2
30/5 Day5
ตลอนชิมไวน์ ที่เมือง Stellenbosh
31/5 Day6
ไปส่องสัตว์ ตามหา big5 ที่ inverdoorn safari camp
Part: 3
1/6 Day7
กลับมาเที่ยวต่อที่ Stellenbosh
2/6 End day
เที่ยว Vergelegen Estate ก่อนกลับบ้าน

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
☝#Advices:
-ตอนเราไปช่วงยังหนาวอยู่ ใบเมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนสี อากาศเย็นๆ 10-20 องศา
ตอนมีแดด อากาศดีมาก แดดแรงแต่ลมเย็นสบาย ตอนฝนตก ลมแรงมากค่ะ
-เวลาช้ากว่าบ้านเรา 5 ชั่วโมง
-ไปร้านอาหารหรือคาเฟ่ ต้องจ่ายทิป 10% ของค่าอาหารทุกครั้ง
-ไปจอดรถแต่ละที่ ถ้ามีคนโบกรถควรให้ทิปเขาด้วยเช่นกัน 20-40 R
-เคปทาวน์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เจอhomelessบ้างแค่ปฎิเสธเขาไป ไม่ได้ตื้อเยอะ ตอนกลางคืนก็อย่าไปเดินที่เปลี่ยวๆ
-ผู้คนอัธยาศัยดี ตอนมาเราหาข้อมูลบางคนโดนโจรกระชากกระเป๋า ไถเงินบ้าง
แต่เราว่าย่านเคปทาวน์ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น บ้านเมืองเขาแบ่งเป็นโซนมากๆ
เมืองที่เที่ยวกันส่วนใหญ่ฝรั่งขาวก็อยู่เยอะ ก็แค่ป้องกันไว้ดีกว่า
อย่าพยายามถือของเยอะ ทำตัวให้เหมือนคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ยิ่งเราเป็นคนเอเชียเขาก็ยิ่งจับตามอง
❌#Visa:
- ฟรีวีซ่า 30 วัน ไม่ต้องกรอกใบตม Say Hello โดนถามนิดหน่อย มาอยู่กี่วัน พักที่ไหนบ้าง แล้วก็ยิ้มหวานๆ เข้าประเทศได้เลยจ้า
📱#Sim
- ซื้มซิมที่แอร์พอร์ตเลยค่ะ สะดวกดีมีหลายบูท
🍗 #Food:
- อาหารอร่อยมากเลยค่ะ ของก็สด จานใหญ่ๆเน้นคุณภาพ อร่อยทุกร้านที่แวะเลย
-ไปร้านอาหารหรือคาเฟ่ ต้องจ่ายทิป 10% ของค่าอาหารทุกครั้งด้วยนะคะ
💸 #ค่าครองชีพ:
- ที่นี่ไม่แพงเลยค่ะ เบียร์ถูก ไวน์ถูกมากแทบกินแทนน้ำ อาหารก็จานใหญ่อร่อยมาก มื้อนึงกินดี กินหรู 1500 บาทก็อิ่มเว่อร์แล้วค่ะ
🚙 #การเดินทาง:
- เช่ารถยนต์ขับสะดวกสุดค่ะ เช่าถูก 500 บาท/วัน
ถนนที่เคปทาวน์ขับรถง่ายมาก ขับเหมือนบ้านเราเลย สะดวกสุดๆ
แต่ถ้ามาคนเดียวก็ใช้ Uber หรือมาที่เคปทาวน์ ใช้บริการรถบัส Hop On - Hop
Off ก็มีนะคะ
💰 #แลกเงินที่ไหนดี?
- แลกเงินดอลล่าที่ super rich แล้วเอาไปแลกแรนด์ที่แอร์พอร์ตก็ได้ค่ะ
- ค่าเงินสกุล แรนด์ (Rand) X2 ตามค่าเรทเงินเลยจ้า เช่น ค่าน้ำเปล่า 20R x2 = 40 บาท
🏠 #ที่พัก
- blue on blue bed and breakfast อยู่โซน ST.James เรานอนที่นี่ 3
คืนเลยค่ะ คืนละ 1700 THB ที่พักดีมากค่ะ เป็นกันเอง เหมือนเป็นเกสต์เฮ้าท
วิวทะเล บ้านติดหลังภูเขา
-Muratie Wine Estate, Stellenbosch คืนละ 3000 THB เป็นบ้านเก่าอายุ100 กว่าปี บ้านใหญ่มาก เรานอนที่นี่ 2 คืน
-inverdoorn game reserve 1 คืน 2 คน 5020 R ราคานี้รวมทุกอย่างเลยนะคะ
ต้องไปถึงก่อนเที่ยงครึ่ง ค่าอาหารกลางวัน,Game drive 2 รอบ,dinner
,beakfast ที่พักดีงาม อาหารก็อร่อยค่ะ บริการดีมากๆค่ะ
-Vredenburg Manor House คืนละ 2500 THB ที่พักหรูหรา บ้านเก่าคลาสสิคอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีเช่นกัน

แค่Part 1 รูปปาไปร้อยกว่ารูปแล้วค่ะ พยายามจะคัดแล้ว
แต่อยากให้เห็นเหมือนที่เราไป อยากจะบอกว่าเป็นสถานที่ๆ
ซักครั้งในชีวิตที่ต้องมาจริงๆ มาเหอะ สวยไม่แพ้ยุโรปเลย
ฟรีวีซ่าอีกต่างหาก สวยทั้งบ้านเมือง วิวข้างทาง อิจฉาคนที่นี่มาก  อยากย้ายมาอยู่ที่นี่ซะเลย
fall in lovewith Capetown

เราเดินทางด้วยสายการบิน เอธิโอเปียแอร์ไลน์ เครื่องออก ตี1.20 ใช้เวลาเดินทางประมาณเก้าชั่วโมงกว่า นอนยาวไปเลยจ้า มาถึงที่ Addis Ababa ตี5กว่า ต่อเครื่องไปเคปทาวน์ อีก 7 ชั่วโมง
มาถึงช่วงบ่าย เช่ารถที่สนามบิน ค่าเช่าที่นี่ถูกมากค่ะ ประมาณ 500 กว่าบาท เดินทางไปที่พักแถว ST.James บ้านเมืองเขาสวยจัง บ้านติดหลังเขา วิวข้างหน้าเป็นทะเล ทางเข้าโรงแรมค่ะ
ถึงแล้ว เราลืมถ่ายห้องตั้งแต่ตอนมา แต่ห้องใหญ่มากค่ะ เห็นวิวทะเล 
เก็บของเสร็จ ลงมาเดินเล่น เดินมาแค่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม ก็เจอ Muizenberg Beach กระท่อมหลังสีๆ เลยค่ะ หาดนี้มีความยาวประมาณ 20 กิโล เราเดินจากตรงนี้ไปอีกโซน ได้เลยค่ะ

ตามทางเดินก็จะเจอเปลือกหอยแมลงภู่ บ้านเราสีเขียวแต่บ้านเขาออกสีฟ้า ดูแปลกตาดีค่ะ
วันนี้อากาศไม่ค่อยดี ฝนตกปรอยๆ ลมแรงและหนาวมากค่ะ แต่อยากเดินเล่น ฮ่าๆๆๆ
ถึงแล้วหาด Muizenberg โซนที่เขาเล่นเซิร์ฟกัน ตรงนี้จะมีป้ายบอกและสีธง เตือนเกี่ยวกับปลาฉลาม ในป้ายเขียนเจอล่าสุดประมาณ สองเดือนที่แล้วเองค่ะ เรามาดินเนอร์ที่ร้าน Harbour House Kalk Bay ค่ะ ตกแต่งสวยงาม ใครมาโซนนี้ห้ามพลาดนะคะ

อาหารอร่อยมากกกกOyster สด หวานน มากก
กินเสร็จแล้ว เราก็เดินกลับที่พัก วันแรกยัง Jet lag ถึงเตียงปุ๊บไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ปั๊ป
ต่อวันที่สองเลยน๊า วิวตอนเช้า มองไปตรงนู้นคือ Table Mountain ที่เราจะไปวันนี้

wowww  สวยมากกกกกก แค่วิวทางเข้าเมืองก็อลังการเว่อร์

มาถึงลานจอด CableCar แล้วค่ะ แต่เอ๊ะ!! ทำไมไม่ค่อยมีคนเลย

อ๋อออออออออ ปิดนี่เอง หมอกเยอะไป ลมแรงมาก ขึ้นไม่ได้ แงงง

ปะ ไปที่อื่นกันต่อ ทริปทัวร์ชะโงก

เราซื้อตั๋วจากออนไลน์นะคะ แต่ตอนจองเขาไม่ได้มีบอกเลยว่า วันนี้ห้ามขึ้นหรือเราดูไม่ทั่วเอง เขาเลยให้โบชัวร์มา โทรมาก่อนที่จะมาอีกรอบได้ค่ะ ตั๋วที่เราซื้อสามารถใช้ภายใน 7 วันค่ะ

บายย Lion's Rump เด๋ยวเรากลับมาซ้ำ

ไปค่ะ มาต่อที่ Bo kapp ขับรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

บ้านคัลเลอร์ฟูลมากก ทัวร์ลงโซนนี้เยอะหน่อย

สถานนีต่อไปคือ V&A Water front จ้า

มาถึงเสียที เอเชียทีค  ผิดๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ


เดินถัดมาจากร้านอาหาร ก็เจอร้านขายของที่ระลึก  ช็อปกันให้จุใจไปเลย
ลาน Nobel Square
เดินทั้งวัน เลยแวะทานข้าวเย็นก่อนกลับ ที่Belthazar Restaurant & Wine Bar