JJNY : 4in1 เชื่อคนทำร้ายจ่านิววางแผนอย่างดี/ชลน่านลั่นซักฟอกอุตตม/กรุงไทยหั่นเหลือ3.3%/เอฟทีเออียู-เวียดนามซัดส่งออก

ตร.เชื่อคนทำร้าย”จ่านิว” วางแผนมาอย่างดี หลบหนีมุมกล้องเก่ง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1567205

มื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3(บก.น.3) พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เรียก พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ที่เฝ้าบ้านนายสิรวิชญ์ เข้าร่วมประชุมเร่งรัดและสืบสวนหาตัวคนร้ายด้วย โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียงลำดับเหตุการณ์ โดยช่วงระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดตามความเคลื่อนไหวของ นายสิรวิชญ์ เพราะเป็นนักเคลื่นไหวทางการเมือง เนื่องจากระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน เป็นช่วงระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยทางตำรวจ สน.บางชัน มีการดูแลติดตาม นายสิรวิชญ์ ไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ติดตาม ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน จากคำให้การของ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ รู้สึกว่ามีคนพยายามติดตามตัวแต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้เห็นหน้า กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน นายสิรวิชญ์ ถูกทำร้ายร่างกาย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่านอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือให้ได้มากที่สุด โดยมีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 9 ปาก ทั้งบุคคลที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน และมีการแยกตรวจสอบอาวุธว่า อาวุธที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นอย่างไร รวมไปถึงตรวจสอบยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยันอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่บุคคลในพื้นที่แต่จะต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากว่า การหลบหนีนั้นคนร้ายรู้ทุกจุดที่มีกล้องมีการหลบมุมกล้อง ซึ่งจุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคือหน้าโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สำหรับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีการสเกตช์ภาพคนร้ายนั้น เป็นการสเกตช์ภาพตำหนิ รูปพรรณ สัณฐาน ส่วนสูง ผิวพรรณ พร้อมทั้งสเกตช์ภาพรถจักรยานยนต์ที่ใช้ ว่ามีลักษณะใด แต่ยังไม่มีการขอออกหมายจับแต่อย่าง



‘ชลน่าน’ ลั่นหลัง ‘บิ๊กตู่’ ตั้งรัฐบาลเดินเครื่องตรวจสอบ ซักฟอก ‘อุตตม’ ขาดคุณสมบัติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1567386

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 มกราคม ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่ระบุว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากแต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ว่า ตอนนี้มีแต่โผว่าจะมีการตั้ง ซึ่งเราคงไปปิดกั้นพล.อ.ประยุทธ์ไม่ให้ตั้งไม่ได้ ยกเว้นพล.อ.ประยุทธ์ มีจิตสำนึกในขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ ถ้ามีจิตสำนึกที่ดีและตระหนักว่า เป็นสิ่งที่ไม่ชอบ เป็นของที่มีคุณสมบัติไม่ดี และเป็นสิ่งที่มิบังควรก็อาจจะเกิดความยับยั้งชั่งใจได้ แต่คาดว่าไม่เกิดยับยั้ง และพล.อ.ประยุทธ์ก็คงนำขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้เราคงทำอะไรไม่ได้ แม้ครม.จะเข้าถวายสัตย์แล้ว ก็ถือว่ายังไม่ได้ทำหน้าที่ ดังนั้นเรื่องของนายอุตตมจะเริ่มเข้มข้นขึ้นตั้งแต่วันแถลงนโยบายเป็นต้นไป เพราะถือว่า ครม.ทำงานสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้น ในพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีปรึกษาหารือกันว่ามาตรการจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนมาตรการที่รุนแรงที่สุดคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญเพราะกรณีของนายอุตตมมันชัดมาก ทั้งนี้การยื่นอภิปรายทำได้ 2 ลักษณะคือยื่นอภิปราย ครม.ทั้งคณะก็ได้ หมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ด้วย หรืออภิปรายนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นรายบุคคลก็ได้ ซึ่งที่ประชุมจะต้องไปดูความเหมาะสมว่าควรจะยื่นใครตามพยานหลักฐานที่คิดว่า มีน้ำหนัก แต่นายอุตตมถูกจองกฐินแน่นอน

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นอภิปรายคนอื่นด้วยหรือไม่นอกจากนายอุตตม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีอีกหลายคน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามกันอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีนายอุตตมจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ อยู่ในขั้นตอนและกระบวนการที่สามารถทำได้ เพราะรัฐมนตรีสามารถถูกตรวจสอบโดยสมาชิกสภา โดยผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่