ตร.เชื่อคนทำร้าย”จ่านิว” วางแผนมาอย่างดี หลบหนีมุมกล้องเก่ง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1567205
มื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3(บก.น.3) พล.ต.ต.
นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เรียก พล.ต.ต.
อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.
ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.
คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.
ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ที่เฝ้าบ้านนาย
สิรวิชญ์ เข้าร่วมประชุมเร่งรัดและสืบสวนหาตัวคนร้ายด้วย โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียงลำดับเหตุการณ์ โดยช่วงระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดตามความเคลื่อนไหวของ นาย
สิรวิชญ์ เพราะเป็นนักเคลื่นไหวทางการเมือง เนื่องจากระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน เป็นช่วงระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยทางตำรวจ สน.บางชัน มีการดูแลติดตาม นาย
สิรวิชญ์ ไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ติดตาม ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน จากคำให้การของ น.ส.
พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานาย
สิรวิชญ์ รู้สึกว่ามีคนพยายามติดตามตัวแต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้เห็นหน้า กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน นาย
สิรวิชญ์ ถูกทำร้ายร่างกาย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่านอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือให้ได้มากที่สุด โดยมีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 9 ปาก ทั้งบุคคลที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน และมีการแยกตรวจสอบอาวุธว่า อาวุธที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นอย่างไร รวมไปถึงตรวจสอบยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยันอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่บุคคลในพื้นที่แต่จะต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากว่า การหลบหนีนั้นคนร้ายรู้ทุกจุดที่มีกล้องมีการหลบมุมกล้อง ซึ่งจุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคือหน้าโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สำหรับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีการสเกตช์ภาพคนร้ายนั้น เป็นการสเกตช์ภาพตำหนิ รูปพรรณ สัณฐาน ส่วนสูง ผิวพรรณ พร้อมทั้งสเกตช์ภาพรถจักรยานยนต์ที่ใช้ ว่ามีลักษณะใด แต่ยังไม่มีการขอออกหมายจับแต่อย่าง
‘ชลน่าน’ ลั่นหลัง ‘บิ๊กตู่’ ตั้งรัฐบาลเดินเครื่องตรวจสอบ ซักฟอก ‘อุตตม’ ขาดคุณสมบัติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1567386
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 มกราคม ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่ระบุว่า หากพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนาย
อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.
ประยุทธ์ เนื่องจากแต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ว่า ตอนนี้มีแต่โผว่าจะมีการตั้ง ซึ่งเราคงไปปิดกั้นพล.อ.
ประยุทธ์ไม่ให้ตั้งไม่ได้ ยกเว้นพล.อ.
ประยุทธ์ มีจิตสำนึกในขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ ถ้ามีจิตสำนึกที่ดีและตระหนักว่า เป็นสิ่งที่ไม่ชอบ เป็นของที่มีคุณสมบัติไม่ดี และเป็นสิ่งที่มิบังควรก็อาจจะเกิดความยับยั้งชั่งใจได้ แต่คาดว่าไม่เกิดยับยั้ง และพล.อ.
ประยุทธ์ก็คงนำขึ้นทูลเกล้าฯ
นพ.
ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้เราคงทำอะไรไม่ได้ แม้ครม.จะเข้าถวายสัตย์แล้ว ก็ถือว่ายังไม่ได้ทำหน้าที่ ดังนั้นเรื่องของนาย
อุตตมจะเริ่มเข้มข้นขึ้นตั้งแต่วันแถลงนโยบายเป็นต้นไป เพราะถือว่า ครม.ทำงานสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้น ในพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีปรึกษาหารือกันว่ามาตรการจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนมาตรการที่รุนแรงที่สุดคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญเพราะกรณีของนาย
อุตตมมันชัดมาก ทั้งนี้การยื่นอภิปรายทำได้ 2 ลักษณะคือยื่นอภิปราย ครม.ทั้งคณะก็ได้ หมายถึงพล.อ.
ประยุทธ์ด้วย หรืออภิปรายนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นรายบุคคลก็ได้ ซึ่งที่ประชุมจะต้องไปดูความเหมาะสมว่าควรจะยื่นใครตามพยานหลักฐานที่คิดว่า มีน้ำหนัก แต่นาย
อุตตมถูกจองกฐินแน่นอน
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นอภิปรายคนอื่นด้วยหรือไม่นอกจากนาย
อุตตม นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า มีอีกหลายคน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามกันอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีนาย
อุตตมจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติเหมือนกับ พล.อ.
ประยุทธ์หรือไม่ อยู่ในขั้นตอนและกระบวนการที่สามารถทำได้ เพราะรัฐมนตรีสามารถถูกตรวจสอบโดยสมาชิกสภา โดยผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
JJNY : 4in1 เชื่อคนทำร้ายจ่านิววางแผนอย่างดี/ชลน่านลั่นซักฟอกอุตตม/กรุงไทยหั่นเหลือ3.3%/เอฟทีเออียู-เวียดนามซัดส่งออก
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1567205
มื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3(บก.น.3) พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เรียก พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ที่เฝ้าบ้านนายสิรวิชญ์ เข้าร่วมประชุมเร่งรัดและสืบสวนหาตัวคนร้ายด้วย โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียงลำดับเหตุการณ์ โดยช่วงระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดตามความเคลื่อนไหวของ นายสิรวิชญ์ เพราะเป็นนักเคลื่นไหวทางการเมือง เนื่องจากระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน เป็นช่วงระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยทางตำรวจ สน.บางชัน มีการดูแลติดตาม นายสิรวิชญ์ ไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ติดตาม ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน จากคำให้การของ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ รู้สึกว่ามีคนพยายามติดตามตัวแต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้เห็นหน้า กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน นายสิรวิชญ์ ถูกทำร้ายร่างกาย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่านอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือให้ได้มากที่สุด โดยมีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 9 ปาก ทั้งบุคคลที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน และมีการแยกตรวจสอบอาวุธว่า อาวุธที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นอย่างไร รวมไปถึงตรวจสอบยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยันอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่บุคคลในพื้นที่แต่จะต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากว่า การหลบหนีนั้นคนร้ายรู้ทุกจุดที่มีกล้องมีการหลบมุมกล้อง ซึ่งจุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคือหน้าโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สำหรับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีการสเกตช์ภาพคนร้ายนั้น เป็นการสเกตช์ภาพตำหนิ รูปพรรณ สัณฐาน ส่วนสูง ผิวพรรณ พร้อมทั้งสเกตช์ภาพรถจักรยานยนต์ที่ใช้ ว่ามีลักษณะใด แต่ยังไม่มีการขอออกหมายจับแต่อย่าง
‘ชลน่าน’ ลั่นหลัง ‘บิ๊กตู่’ ตั้งรัฐบาลเดินเครื่องตรวจสอบ ซักฟอก ‘อุตตม’ ขาดคุณสมบัติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1567386
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 มกราคม ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่ระบุว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากแต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ว่า ตอนนี้มีแต่โผว่าจะมีการตั้ง ซึ่งเราคงไปปิดกั้นพล.อ.ประยุทธ์ไม่ให้ตั้งไม่ได้ ยกเว้นพล.อ.ประยุทธ์ มีจิตสำนึกในขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ ถ้ามีจิตสำนึกที่ดีและตระหนักว่า เป็นสิ่งที่ไม่ชอบ เป็นของที่มีคุณสมบัติไม่ดี และเป็นสิ่งที่มิบังควรก็อาจจะเกิดความยับยั้งชั่งใจได้ แต่คาดว่าไม่เกิดยับยั้ง และพล.อ.ประยุทธ์ก็คงนำขึ้นทูลเกล้าฯ
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้เราคงทำอะไรไม่ได้ แม้ครม.จะเข้าถวายสัตย์แล้ว ก็ถือว่ายังไม่ได้ทำหน้าที่ ดังนั้นเรื่องของนายอุตตมจะเริ่มเข้มข้นขึ้นตั้งแต่วันแถลงนโยบายเป็นต้นไป เพราะถือว่า ครม.ทำงานสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้น ในพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีปรึกษาหารือกันว่ามาตรการจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนมาตรการที่รุนแรงที่สุดคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญเพราะกรณีของนายอุตตมมันชัดมาก ทั้งนี้การยื่นอภิปรายทำได้ 2 ลักษณะคือยื่นอภิปราย ครม.ทั้งคณะก็ได้ หมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ด้วย หรืออภิปรายนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นรายบุคคลก็ได้ ซึ่งที่ประชุมจะต้องไปดูความเหมาะสมว่าควรจะยื่นใครตามพยานหลักฐานที่คิดว่า มีน้ำหนัก แต่นายอุตตมถูกจองกฐินแน่นอน
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นอภิปรายคนอื่นด้วยหรือไม่นอกจากนายอุตตม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีอีกหลายคน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามกันอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีนายอุตตมจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ อยู่ในขั้นตอนและกระบวนการที่สามารถทำได้ เพราะรัฐมนตรีสามารถถูกตรวจสอบโดยสมาชิกสภา โดยผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้