Hacker!!! จับผัวเมีย Hacker เจาะเว็บขายออนไลน์!!! เหยื่อนับหมื่น!!!
4/7/2019
เมื่อวันที่4 ก.ค.ที่บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากษ์ ผกก.1 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่กก.1 บก.ปอท. แถลงจับกุมนายจักรพงศ์ กระแจะจันทร์อายุ 32 ปี และน.ส.ปนัดดา จิตรากรอายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ“ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ3 เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่องแท็ปเล็ต 2 เครื่อง แฟลชไดรฟ์ 2 ตัว บัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ 4 ใบ ฮาร์ดดิส 2 อัน และอุปกรณ์อื่นๆรวมทั้งสิ้น 18 รายการโดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 51/1360 ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายถูกคนร้ายขโมยเงินในบัญชีธนาคารจึงมาแจ้งความบก.ปอท. ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบว่านายจักรพงศ์ และน.ส.ปนัดดา สองสามีภรรยา เป็นแฮกเกอร์ผู้ก่อเหตุ จึงทำการดำเนินการรวบรวมหลักฐานและขอศาลอนุมัติหมายจับกระทั่งจับกุมได้และจะดำเนินการส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมาย
สำหรับวิธีการนั้น ผู้ต้องหาใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์แฮกเข้าไปในเว็บไซต์สาธารณะหรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์
ที่มีการป้องกันการแฮกต่ำ เพราะเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีข้อมูลต่างๆของลูกค้าที่สมัครสมาชิก
กระทั่งแฮกเข้าไปได้จะนำข้อมูลลูกค้าไปลองเจาะเข้าอีเมล์ของลูกค้า
เมื่อเข้าอีเมล์ได้จะทำการเจาะเข้าไปในบัญชีธนาคารผ่านออนไลน์
ก่อนนำไปซื้อสินค้าออนไลน์หรือบัตรเติมเงิน และนำไปขายหลายๆ ทอด
เอาเงินที่ได้มาเข้าบัญชีของคนร้ายเอง
ประชาชนควรตั้งรหัสและพาสเวิร์ดที่ใช้ในเว็บไซต์หรือเพจต่างๆ
ให้ยากต่อการคาดเดาและควรมีการตั้งค่าความปลอดภัย 2-3 ชั้น
และมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการล็อคอินเค้าไปในเพจหรืออีเมล์ตัวเอง
รวมถึงการใช้ไวไฟสาธารณะที่ไม่รู้จักระวังโดนแฮกเกอร์ปล่อยไวรัสและแฮกเข้าระบบได้
จากการสอบสวนนายจักรพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า เคยเรียนคณะคอมพิวเตอร์ในระดับปวช. ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง แต่ไม่เรียนไม่จบหลังจากนั้นได้ใช้ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์คลุกคลีอยู่ในโลกโซเชียลก่อนแฮกเว็บไซต์สาธารณะนานกว่า 2 ปีแล้ว ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีพบเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายล้านบาทและจากการตรวจในคอมพิวเตอร์ผู้ต้องหาก็พบข้อมูลประชาชนที่แฮกถูกแฮกมาจากเว็บไซต์สาธารณะต่างๆถึงกว่า 10,000 ราย
https://www.dailynews.co.th/crime/718553
Hacker!!! จับผัวเมีย Hacker เจาะเว็บขายออนไลน์!!! เหยื่อนับหมื่น!!!
4/7/2019
เมื่อวันที่4 ก.ค.ที่บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากษ์ ผกก.1 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่กก.1 บก.ปอท. แถลงจับกุมนายจักรพงศ์ กระแจะจันทร์อายุ 32 ปี และน.ส.ปนัดดา จิตรากรอายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ“ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ3 เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่องแท็ปเล็ต 2 เครื่อง แฟลชไดรฟ์ 2 ตัว บัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ 4 ใบ ฮาร์ดดิส 2 อัน และอุปกรณ์อื่นๆรวมทั้งสิ้น 18 รายการโดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 51/1360 ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายถูกคนร้ายขโมยเงินในบัญชีธนาคารจึงมาแจ้งความบก.ปอท. ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบว่านายจักรพงศ์ และน.ส.ปนัดดา สองสามีภรรยา เป็นแฮกเกอร์ผู้ก่อเหตุ จึงทำการดำเนินการรวบรวมหลักฐานและขอศาลอนุมัติหมายจับกระทั่งจับกุมได้และจะดำเนินการส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมาย
สำหรับวิธีการนั้น ผู้ต้องหาใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์แฮกเข้าไปในเว็บไซต์สาธารณะหรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์
ที่มีการป้องกันการแฮกต่ำ เพราะเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีข้อมูลต่างๆของลูกค้าที่สมัครสมาชิก
กระทั่งแฮกเข้าไปได้จะนำข้อมูลลูกค้าไปลองเจาะเข้าอีเมล์ของลูกค้า
เมื่อเข้าอีเมล์ได้จะทำการเจาะเข้าไปในบัญชีธนาคารผ่านออนไลน์
ก่อนนำไปซื้อสินค้าออนไลน์หรือบัตรเติมเงิน และนำไปขายหลายๆ ทอด
เอาเงินที่ได้มาเข้าบัญชีของคนร้ายเอง
ประชาชนควรตั้งรหัสและพาสเวิร์ดที่ใช้ในเว็บไซต์หรือเพจต่างๆ
ให้ยากต่อการคาดเดาและควรมีการตั้งค่าความปลอดภัย 2-3 ชั้น
และมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการล็อคอินเค้าไปในเพจหรืออีเมล์ตัวเอง
รวมถึงการใช้ไวไฟสาธารณะที่ไม่รู้จักระวังโดนแฮกเกอร์ปล่อยไวรัสและแฮกเข้าระบบได้
จากการสอบสวนนายจักรพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า เคยเรียนคณะคอมพิวเตอร์ในระดับปวช. ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง แต่ไม่เรียนไม่จบหลังจากนั้นได้ใช้ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์คลุกคลีอยู่ในโลกโซเชียลก่อนแฮกเว็บไซต์สาธารณะนานกว่า 2 ปีแล้ว ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีพบเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายล้านบาทและจากการตรวจในคอมพิวเตอร์ผู้ต้องหาก็พบข้อมูลประชาชนที่แฮกถูกแฮกมาจากเว็บไซต์สาธารณะต่างๆถึงกว่า 10,000 ราย
https://www.dailynews.co.th/crime/718553