จับแล้ว เดนนรกหื่น บุกโรงเรียนพื้นที่หลังสวน ชุมพร หมายข่มขืนครูสาวท้อง 5 เดือน อ้างแค่สอบถามแอพโอนเงิน ด้านเหยื่อโร่ขึ้นโรงพักชี้ตัว ยันถูกลวนลาม
กรณีคนร้ายขับรถกระบะ บุกเข้ามาในโรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร หมายจะข่มขืน ครูโบว์ (สงวนชื่อสกุลจริง) ครูสาวที่กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน แต่ครูสาวไหวพริบดีรีบส่งไลน์หาเพื่อนครู เข้าช่วยเหลือได้ทัน ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ ต่อมาพ่อครูสาว วอนตำรวจเร่งตามจับกุมตัว ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่านาทีประจันหน้าขณะไล่จับคนร้าย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบรู้ตัวคนร้ายแล้ว เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสิทธิพงษ์ คงนคร อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับความผิด ทำอนาจารครูสาว ได้ที่บริเวณศาลาริมชายทะเล บ้านทะเลงาม หมู่ 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร จึงควบคุมตัวมาสอบสวน สภ.ละแม เจ้าของพื้นที่ ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน สอบสวนเบื้องต้นให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเป็นบุคคลในคลิปที่ขับรถกระบะหลบหนีจริง แต่ไม่ได้พยายามกระทำอนาจาร ลวนลามหรือพยายามข่มขืนครูสาวแต่อย่างใด เพียงแค่เข้าไปสอบถามเรื่องแอพพลิเคชั่นธนาคารเพื่อให้ช่วยโอนเงินเท่านั้น และไม่ได้เปิดคลิปอนาจารให้ครูสาวดู แต่ที่ต้องหลบหนีเพราะตกใจ หลังครูโวยวายและมีรถขับเข้ามาอีกคันอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน การจับกุมตัวคนร้ายในครั้งนี้ได้รวดเร็วเพราะได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน ทั้งในพื้นที่ โลกโซเชียล รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลจนทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวช่วยกันแจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้ผู้ต้องหายังยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพไอซ์ และเคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดมาแล้ว
ด้านครูโบว์ ครูผู้เสียหาย หลังทราบข่าวว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ก็เดินทางมาชี้ตัวยืนยันที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน ทันทีพร้อมบอกว่า รู้สึกโล่งใจ ที่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้แล้ว แต่ทราบว่าผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้ลวนลาม ซึ่งยังยืนยันว่า ผู้ต้องหาพยายามลวนลามและข่มขืนจริง แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะนำตัวผู้ต้องหา ไปสอบสวน รวมทั้งสอบปากคำครูผู้เสียหายเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตามกฎหมายต่อไป
https://www.dailynews.co.th/news/790791/
จับแล้ว! เดนนรกหื่น บุกโรงเรียนหมายขยี้กามครูสาวท้อง 5 เดือน
กรณีคนร้ายขับรถกระบะ บุกเข้ามาในโรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร หมายจะข่มขืน ครูโบว์ (สงวนชื่อสกุลจริง) ครูสาวที่กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน แต่ครูสาวไหวพริบดีรีบส่งไลน์หาเพื่อนครู เข้าช่วยเหลือได้ทัน ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ ต่อมาพ่อครูสาว วอนตำรวจเร่งตามจับกุมตัว ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่านาทีประจันหน้าขณะไล่จับคนร้าย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบรู้ตัวคนร้ายแล้ว เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสิทธิพงษ์ คงนคร อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับความผิด ทำอนาจารครูสาว ได้ที่บริเวณศาลาริมชายทะเล บ้านทะเลงาม หมู่ 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร จึงควบคุมตัวมาสอบสวน สภ.ละแม เจ้าของพื้นที่ ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน สอบสวนเบื้องต้นให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเป็นบุคคลในคลิปที่ขับรถกระบะหลบหนีจริง แต่ไม่ได้พยายามกระทำอนาจาร ลวนลามหรือพยายามข่มขืนครูสาวแต่อย่างใด เพียงแค่เข้าไปสอบถามเรื่องแอพพลิเคชั่นธนาคารเพื่อให้ช่วยโอนเงินเท่านั้น และไม่ได้เปิดคลิปอนาจารให้ครูสาวดู แต่ที่ต้องหลบหนีเพราะตกใจ หลังครูโวยวายและมีรถขับเข้ามาอีกคันอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน การจับกุมตัวคนร้ายในครั้งนี้ได้รวดเร็วเพราะได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน ทั้งในพื้นที่ โลกโซเชียล รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลจนทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวช่วยกันแจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้ผู้ต้องหายังยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพไอซ์ และเคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดมาแล้ว
ด้านครูโบว์ ครูผู้เสียหาย หลังทราบข่าวว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ก็เดินทางมาชี้ตัวยืนยันที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน ทันทีพร้อมบอกว่า รู้สึกโล่งใจ ที่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้แล้ว แต่ทราบว่าผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้ลวนลาม ซึ่งยังยืนยันว่า ผู้ต้องหาพยายามลวนลามและข่มขืนจริง แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะนำตัวผู้ต้องหา ไปสอบสวน รวมทั้งสอบปากคำครูผู้เสียหายเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตามกฎหมายต่อไป
https://www.dailynews.co.th/news/790791/