ส่วนตัวบอกเลยว่าแผนของตำรวจเจ๋งมากครับ
คลิปและข้อความข่าวจากช่อง yt : 3plusnews
ตร.ซ้อนแผนให้ผู้กองปลอมตัวสวมหน้ากากชุดนักมวยปล้ำ ล่อซื้อผู้ต้องหาชาวจีน เซ็กซ์ซาดิสม์ หลอกนิสิตสาวไปข่มขืน พบคลิปแอบถ่ายเพียบ
ตำรวจสืบนครบาล ซ้อนแผนเข้าจับกุม นายซูซิงเลย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ได้ที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนเพชรบุรี พญาไท
หลังมีผู้เสียหายซึ่งเป็นนิสิตสาวปี 1 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน อายุ 18 ปี แจ้งความว่าถูกหนุ่มชาวจีนข่มขืน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2567 โดยผู้เสียหายบอกว่า คนร้ายเข้ามาทักทายทำทีเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้เสียหายเป็นนิสิตที่กำลังฝึกพูดภาษาจีน จึงช่วยเหลือ ก่อนจะถูกลวงไปที่โรงแรม และลงมือข่มขืนอย่างซาดิสม์ พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอ หลังเกิดเหตุคนร้ายยังพยายามส่งข้อความมาเชิงให้กลับไปหาและขู่ว่าจะปล่อยคลิป เธอจึงบอกกับครอบครัวและแจ้งความ
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงสั่งการให้ตำรวจชุด สารวัตรแจ๊ะ ดำเนินการจับกุม โดยการใช้แผนล่อเสื้อออกจากถ้ำ ใช้นกต่อสาว แต่คนร้ายกลับขอให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี เพื่อมาร่วมสวิงกิ้ง
สืบนครบาลจึงส่ง รองตำรวจเอก พลวัต นาคถมยา รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวนสอบลสวน 1 ปลอมตัวเป็นชายหื่นสายซาดิสม์ ใส่หน้ากากนักมวยปล้ำ ชุดสวมแฟนตาซี แปะแทกทูลายสักให้เหมือนชาวต่างชาติ และส่งตำรวจเข้าไปแอบอยู่ภายในห้องพัก อีก 6 นาย แอบตามตู้เสื้อผ้า ระเบียงห้อง ซอกเตียง และเมื่อถึงเวลานัด ผู้กองที่ปลอมตัวก็ไปเปิดประตูและเมื่อแน่ชัดว่าเป็นคนร้าย ก็ส่งสัญญาณ “ฮี่ๆๆๆๆ” ตำรวจทั้งหมดก็ปรากฏตัวจับกุม
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า รู้สึกตกใจมาก เพราะก่อนมาได้โด้ปยาชูกำลังมาจนเต็มเครื่อง และยังสวมอุปกรณ์สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ไว้ที่คออีก ซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ขอให้การใดๆ บอกว่ามาเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้เป็นแสกมเมอร์
ส่วนของกลางที่ได้ เป็นข้อมูลในโทรศัพท์คนร้าย มีทั้งคลิปของเหยื่อผู้เสียหายและแล้วยังพบคลิปกับหญิงสาวรายอื่นๆ อีก รวมถึงคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และยังพบหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าคนร้ายมีรสนิยมทางเพศในลักษณะ NTR (ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์แบบหนึ่ง) จากนั้นตำรวจคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป
ตำรวจ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ใส่ชุดมวยปล้ำ รวบหนุ่มแดนมังกรขืนใจ นศ.ปี 1 ค้นมือถือเจอคลิปแอบถ่ายเพียบ
คลิปและข้อความข่าวจากช่อง yt : 3plusnews
ตร.ซ้อนแผนให้ผู้กองปลอมตัวสวมหน้ากากชุดนักมวยปล้ำ ล่อซื้อผู้ต้องหาชาวจีน เซ็กซ์ซาดิสม์ หลอกนิสิตสาวไปข่มขืน พบคลิปแอบถ่ายเพียบ
ตำรวจสืบนครบาล ซ้อนแผนเข้าจับกุม นายซูซิงเลย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ได้ที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนเพชรบุรี พญาไท
หลังมีผู้เสียหายซึ่งเป็นนิสิตสาวปี 1 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน อายุ 18 ปี แจ้งความว่าถูกหนุ่มชาวจีนข่มขืน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2567 โดยผู้เสียหายบอกว่า คนร้ายเข้ามาทักทายทำทีเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้เสียหายเป็นนิสิตที่กำลังฝึกพูดภาษาจีน จึงช่วยเหลือ ก่อนจะถูกลวงไปที่โรงแรม และลงมือข่มขืนอย่างซาดิสม์ พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอ หลังเกิดเหตุคนร้ายยังพยายามส่งข้อความมาเชิงให้กลับไปหาและขู่ว่าจะปล่อยคลิป เธอจึงบอกกับครอบครัวและแจ้งความ
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงสั่งการให้ตำรวจชุด สารวัตรแจ๊ะ ดำเนินการจับกุม โดยการใช้แผนล่อเสื้อออกจากถ้ำ ใช้นกต่อสาว แต่คนร้ายกลับขอให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี เพื่อมาร่วมสวิงกิ้ง
สืบนครบาลจึงส่ง รองตำรวจเอก พลวัต นาคถมยา รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวนสอบลสวน 1 ปลอมตัวเป็นชายหื่นสายซาดิสม์ ใส่หน้ากากนักมวยปล้ำ ชุดสวมแฟนตาซี แปะแทกทูลายสักให้เหมือนชาวต่างชาติ และส่งตำรวจเข้าไปแอบอยู่ภายในห้องพัก อีก 6 นาย แอบตามตู้เสื้อผ้า ระเบียงห้อง ซอกเตียง และเมื่อถึงเวลานัด ผู้กองที่ปลอมตัวก็ไปเปิดประตูและเมื่อแน่ชัดว่าเป็นคนร้าย ก็ส่งสัญญาณ “ฮี่ๆๆๆๆ” ตำรวจทั้งหมดก็ปรากฏตัวจับกุม
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า รู้สึกตกใจมาก เพราะก่อนมาได้โด้ปยาชูกำลังมาจนเต็มเครื่อง และยังสวมอุปกรณ์สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ไว้ที่คออีก ซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ขอให้การใดๆ บอกว่ามาเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้เป็นแสกมเมอร์
ส่วนของกลางที่ได้ เป็นข้อมูลในโทรศัพท์คนร้าย มีทั้งคลิปของเหยื่อผู้เสียหายและแล้วยังพบคลิปกับหญิงสาวรายอื่นๆ อีก รวมถึงคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และยังพบหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าคนร้ายมีรสนิยมทางเพศในลักษณะ NTR (ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์แบบหนึ่ง) จากนั้นตำรวจคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป