Toy Story 4 (Josh Cooley, 2019) คะแนน B+ (8.5/10)
"หนังเติบโตไปอีกหนึ่งขั้น" ไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังจากจบภาค 3 ที่ดูจะครบสมบูรณ์แบบได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไม่มีอะไรให้ตั้งคำถามต่อ Toy Story 4 ยังมีบทภาพยนตร์ที่ต่อยอดและทำออกมาได้อย่างดี โดยไม่ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย เรื่องราวในภาคนี้กลับดูโตขึ้นและมีประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งความเป็นของเล่นผู้ซื่อสัตย์ การท่องโลกกว้างและไม่ได้เป็นของเล่นของใคร ของเล่นที่ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นของเล่นได้ หนังตั้งคำถามได้น่าสนใจมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เราร่วมอินและคล้อยตามไปกับคำอธิบายของ 'วู้ดดี้' ว่าของเล่นคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อช่วงชีวิตเด็กคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น หนังยังพาเราไปพบกับจุดจบที่โตขึ้นและให้ตัวละครได้เรียนรู้ก้าวผ่านวันเวลาที่โตขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น
คำถามที่น่าสนใจมาก ๆ ในสิ่งที่หนังเลือกนำเสนอสำหรับเราคือ ของเล่นที่ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของเด็ก ของเล่นที่เป็นงานฝีมือ และเป็นชิ้นเดียวในโลกเพราะเกิดจากการทำ DIY ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ และดูเป็นคำถามลึกซึ้งให้เราได้ครุ่นคิด ซึ่งหนังก็ทำได้ซาบซึ้งกินใจมาก ๆ ตัวละครในเรื่องทั้งหมดจึงไม่เพียงแค่มอบความสนุกสนานสไตล์เด็กน้อยเท่านั้น แต่ยังสื่อสารมาถึงผู้ใหญ่ที่เติบโตขึ้นมามากแล้วหลังจาก Toy Story (1995) อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคนี้เรามีความเสียดายที่เราไม่ได้รู้สึกอินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครมากเท่าภาคก่อน อาจจะเป็นเพราะหนังมีประเด็นแยกย่อยทำให้เราไม่ได้โฟกัสไปกับตัวละครในเรื่องก็เป็นไปได้
ท้ายสุด Toy Story 4 ยังคงเป็นแอนิเมชั่นผลงานคุณภาพจากค่ายพิกซาร์และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ได้อยู่เสมอ มีความสนุกสนานทำให้เราได้ยิ้มหัวเราะ มีความซาบซึ้งกินใจ และสำคัญคือประเด็นที่หนังเลือกมานำเสนอดูโตขึ้นและก้าวจากสิ่งที่ตัวเองเคยเป็นได้อย่างดีงาม ตัวละคร 'วู้ดดี้' ได้เรียนรู้และก้าวโตขึ้นไปอีกขั้น จะมองว่าภาคสามเป็นการโตขึ้นของแอนดี้กับโลกใบใหม่ สำหรับภาคนี้ก็คงเป็นการโตขึ้นของวู้ดดี้ในโลกใบใหม่เช่นกัน ซึ่งเป็นการสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: Toy Story 4 (Josh Cooley, 2019) รีวิวโดย Form Corleone
"หนังเติบโตไปอีกหนึ่งขั้น" ไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังจากจบภาค 3 ที่ดูจะครบสมบูรณ์แบบได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไม่มีอะไรให้ตั้งคำถามต่อ Toy Story 4 ยังมีบทภาพยนตร์ที่ต่อยอดและทำออกมาได้อย่างดี โดยไม่ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย เรื่องราวในภาคนี้กลับดูโตขึ้นและมีประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งความเป็นของเล่นผู้ซื่อสัตย์ การท่องโลกกว้างและไม่ได้เป็นของเล่นของใคร ของเล่นที่ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นของเล่นได้ หนังตั้งคำถามได้น่าสนใจมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เราร่วมอินและคล้อยตามไปกับคำอธิบายของ 'วู้ดดี้' ว่าของเล่นคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อช่วงชีวิตเด็กคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น หนังยังพาเราไปพบกับจุดจบที่โตขึ้นและให้ตัวละครได้เรียนรู้ก้าวผ่านวันเวลาที่โตขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น
คำถามที่น่าสนใจมาก ๆ ในสิ่งที่หนังเลือกนำเสนอสำหรับเราคือ ของเล่นที่ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของเด็ก ของเล่นที่เป็นงานฝีมือ และเป็นชิ้นเดียวในโลกเพราะเกิดจากการทำ DIY ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ และดูเป็นคำถามลึกซึ้งให้เราได้ครุ่นคิด ซึ่งหนังก็ทำได้ซาบซึ้งกินใจมาก ๆ ตัวละครในเรื่องทั้งหมดจึงไม่เพียงแค่มอบความสนุกสนานสไตล์เด็กน้อยเท่านั้น แต่ยังสื่อสารมาถึงผู้ใหญ่ที่เติบโตขึ้นมามากแล้วหลังจาก Toy Story (1995) อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคนี้เรามีความเสียดายที่เราไม่ได้รู้สึกอินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครมากเท่าภาคก่อน อาจจะเป็นเพราะหนังมีประเด็นแยกย่อยทำให้เราไม่ได้โฟกัสไปกับตัวละครในเรื่องก็เป็นไปได้
ท้ายสุด Toy Story 4 ยังคงเป็นแอนิเมชั่นผลงานคุณภาพจากค่ายพิกซาร์และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ได้อยู่เสมอ มีความสนุกสนานทำให้เราได้ยิ้มหัวเราะ มีความซาบซึ้งกินใจ และสำคัญคือประเด็นที่หนังเลือกมานำเสนอดูโตขึ้นและก้าวจากสิ่งที่ตัวเองเคยเป็นได้อย่างดีงาม ตัวละคร 'วู้ดดี้' ได้เรียนรู้และก้าวโตขึ้นไปอีกขั้น จะมองว่าภาคสามเป็นการโตขึ้นของแอนดี้กับโลกใบใหม่ สำหรับภาคนี้ก็คงเป็นการโตขึ้นของวู้ดดี้ในโลกใบใหม่เช่นกัน ซึ่งเป็นการสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/