รีวิว/ระบายเล็กๆน้อยและสปอยกับ Toy Story 4 อนิเมชั่นในความทรงจำของพวกเราทุกคน


หลังจากที่พึ่งออกจากโรงมาสดๆร้อนๆ มีหลายอย่างที่อัดอั้นอยู่ในใจและอยากจะระบายออกมา ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นแฟน Toy Story คือเป็นอนิเมชั่นที่ตราตรึงใจเรามาตั้งแต่เด็กๆเพราะว่ามันสนุกมาก พอเราโตขึ้นเราก็จะหยิบไตรภาคเรื่องนี้มาดูตลอดเเละตามเก็บรายละเอียดทุกอย่าง แก่นของเรื่อง เนื้อหา ข้อคิดหรือแนวคิด เอาเป็นว่าเรารู้สึกผูกพันกับมันเอามากๆ Toy Story 4 เป็นหนังอนิเมชั่นที่พูดได้เต็มปากเลยว่ามันดี ดีสมกับที่เป็น Pixar ที่สำคัญคือภาพสวยมาก นี่คืออนิเมชั่น 3D ที่ภาพสวยที่สุดในชีวิตที่เราเคยดูมาเลยก็ว่าได้ หนังเก็บรายละเอียดดีมาก หนังตลก สนุก ฮา เศร้า ไปพร้อมกันและสิ่งสำคัญที่หนังชุดนี้ขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร เราให้เรื่องความสำคัญเป็นแกนหลักในการเดินเรื่องของ Toy Story เลยก็ได้ คือมันดีจริงๆ ขอชื่นชมผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง Josh Cooley เลย เพราะว่านี่เป็นหนังเรื่องเเรกที่เขากำกับและทำออกมาได้ดีมากๆ และอยากแนะนำให้ทุกคนไปดูเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยจริงๆ คือมันดีกว่าที่เราคิด เราพยายามติดตามข่าวตลอดว่ากระแสของหนังเรื่องนี้มันจะออกมาเป็นยังไง มันจะดีมั้ย? หรือว่าจะแย่? แต่พอได้เห็นคะแนนบน Rotten Tomatoes คะแนนของนักวิจารณ์เปิดตัวที่ 100% ก็รู้สึกโล่งอก แต่ตอนนี้ตกลงที่ 97% แล้วแต่ก็ยังดีอยู่ดีอะ55555 คือไม่ได้อยากจะเดือดร้อนแทนหรืออะไร แต่เราเป็นห่วงในฐานะแฟนของ Pixar และเเฟนของ Toy Story และยินดีมากๆที่หนังเรื่องนี้ออกมาดี ส่วนในภาคนี้เราชอบตัวคาเเลคเตอร์ของ Bunny กับ Ducky คือมันฮามาก5555555555 ยิ่งฉากที่มันคิดกันนี่แบบ ยกให้ไอคู่นี้ที่สุดละ555555 ตัวหนังหรือการดำเนินเรื่องนี่คือไม่ทำให้เราเบื่อเลย ระหว่างที่ตัวหนังกำลังดำเนินเรื่องเราจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้เห็นตัวละครหรือของเล่นใหม่ๆโผล่มาตลอดเวลา เเบบเฮ้ยมีแบบนี้ด้วยหรอ ไอตัวนี้ทำไมมันน่ารักขนาดนี้ รู้สึกเหมือนอวยๆหนังเนอะ แต่ก็อวยเเหละเพราะมันดีจริงๆ5555 ส่วนตัวละครเก่าๆที่หลายๆคนหลงรักอย่างแก๊งค์ของเล่นของแอนดี้ในภาคนี้ก็จะไม่ได้มีบทที่โดดเด่นมากนัก คือไม่ได้ไม่มีบทเลยแต่ออกมามีบทแค่พอหอมปากหอมคอให้พวกเราหายคิดถึงเพราะว่าหนังภาคนี้หนังจะโฟกัสไปที่วู้ดดี้,บัส,โบพีพและตัวละครใหม่ๆเป็นหลักนั่นเอง
 
และนี่คือสิ่งที่เราอยากจะพูด นี่คือส่วนตัวเลยนะ ส่วนตัวจริงๆ ถ้าหากไม่พอใจใครก็ต้องขออภัยเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย หนังภาคนี้เรารู้สึกเหมือนมันมาลบความสมบูรณ์ของหนังชุดนี้ออกไปนิดหน่อย คือตอนที่เขาประกาศจะทำภาคต่อเราก็รู้สึกเฉยๆและในใจค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยนักเพราะ Toy Story 3 ที่ผู้กำกับ Lee Unkrich ทำไว้คือปิดไตรภาค Toy Story ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ และเป็น 1 ในหนังไตรภาคที่ขึ้นหิ้งอยู่ในใจเราตลอดไปพูดแบบนี้เลย อะพูดตรงๆคือไม่อยากให้ทำละกัน แต่พอได้มาดูแล้ว หืมทุกคำสบประมาทที่เคยว่าไว้ก็ขอทวงคืนละกัน5555 แต่สิ่งที่เราขัดใจนิดหน่อยก็คือเรื่องของบอนนี่


หลังจากที่ภาคที่แล้ว แอนดี้ได้ส่งต่อวู้ดดี้มาให้กับบอนนี่ ประโยคที่แอนดี้พูดก่อนไปมหาลัยพูดไว้ประมาณนี้ "เขาจะอยู่เคียงข้างเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดูแลเขาแทนพี่ได้ไหม?"ฉากนี้เป็นฉากทำให้เราประทับใจและซึ้งใจมากๆ พูดเลยว่าร้องไห้ เมื่อจบภาค ภาพในหัวเราตอนนั้นคือ ตุ๊กตาของแอนดี้และของบอนนี่อยู่ร่วมกันในบ้านหลังนี้อย่างมีความสุข เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตของตุ๊กตาในหนังสั้นที่ทาง Pixar ปล่อยออกมาเรื่อยๆอย่าง Toy Story of Horror,Partysaurus Rex,Small Fry,Hawaiian Vacation แต่พอเราได้มาเห็นภาคนี้ เรารู้สึกขัดใจกับมันแปลกๆ เหมือนทำลายสิ่งที่ภาค 3 เคยปูเอาไว้อย่างดี เมื่อมาในภาคนี้บอนนี่ปล่อยปะละเลยวู้ดดี้คือไม่สนใจเลยเเหละ55555 อ่าวเฮ้ย เดี๋ยวก่อน!!! แล้วสิ่งที่แอนดี้บอกไว้ในภาคก่อนไม่มีความหมายเลยเหรอ!!555555 คำว่า “ดูแลเขาเเทนพี่ได้ไหม”นี่ผุดขึ้นมาทันที แต่ก็เข้าใจบอนนี่นะด้วยความที่เป็นเด็กเเหละเนอะก็ต้องมีเบื่อของเล่นบ้างไรบ้าง ไอเรานี่ก็พยายามจะหาข้อเสียจากหนังดีๆ5555 แต่ให้พูดตรงๆก็นะ มีความแอบทำลายนิดนึง

ด้วยความที่ว่าในภาค 3 นั้นมันมีหลายอย่างที่ทำให้คนดูอย่างเราๆสงสัย ว่า ตุ๊กตาในภาคแรกหลายๆตัวนั้นหายไปไหน โบพีพหายไปไหนเรารู้แค่ว่าเธอหายไปแต่ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนในภาค 4 นี้ก็จะเป็นการคลายความสงสัยว่าทำไมโบพีพถึงหายไปและของเล่นอื่นๆถึงได้หายไปหมด และภาคนี้ก็ได้เติมเต็บสิ่งที่เราทุกคนเฝ้ารอนั่นคือคือความรักของพระเอกและนางเอกนั่นก็คือวู้ดดี้กับโบพีพนั่นเอง และขอบคุณผู้กำกับมาก ดีใจมากที่ได้เห็น เจ้า Rc racing คือเราไม่ได้เห็นเจ้ารถบังคับคันนี้ตั้งแต่ภาคแรกอะ คิดถึงมากกกก ตื้นตันเป็นพิเศษเลยกับฉากนี้

พูดจริงๆเลยคือเราไม่ค่อยอยากให้จบออกมาเป็นแบบนี้เท่าไหร่ คือแบบ สำหรับเราเเก๊งค์ของเล่นของแอนดี้คือครอบครัวๆหนึ่ง เราไม่ค่อยจอยกับการที่วู้ดดี้แยกออกมาสักเท่าไหร่นัก คงเพราะเราเห็นกลุ่มนี้พจญภัยมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆอยู่ด้วยกันมาตลอด แต่ภาคนี้กลับต้องมาแยกจากกัน ยิ่งเห็นตอน บัสกับวู้ดดี้มองหน้ากันและพูดคำว่า To Infinity And Beyond ภาพในหัวตอนวู้ดดี้กับบัสและชาวเเก๊งค์พจญภัยกันใน 3 ภาคแรกก็ผุดขึ้นมาเลย สุดท้ายก็ร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเอง แบบต้องทำให้เราร้องไห้ทุกภาคเลยหรอ5555 มันซึ้งและกินใจนะสงสัยคงร้องเพราะไม่อยากเห็น 2 คนนี้ต้องแยกทางกันละมั้งเสียดายที่ตัวละครหลักใน 3 ภาคก่อนไม่มีบทในหนังภาคนี้เลย แค่ออกมาให้หายคิดถึง บทพูดก็น้อยนิด5555 รู้สึกว่ามันเหมือนเป็นหนังภาคแยกเกี่ยวกับการพจญภัยของวู้ดดี้มากกว่าจะเป็นภาค 4 ก็มีเเค่นี้เเหละเนอะ  เราก็เป็นนักวิจารณ์มือใหม่คนนึง แต่เราก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เป็นแฟนคิดแบบเดียวกับเรา เอาเป็นว่าเราไม่ได้พยายามจะหาข้อเสียมัน เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในหนังที่เรารักมากเรื่องนึง อาจจะมีขัดใจบ้างบางจุด แต่หนังภาคนี้ก็ยังคงเป็นหนังครอบครัวแบบที่ Toy Story ควรจะเป็น ดีบ้างไม่ดีบ้างก็คงแล้วแต่คนแหละเนอะ หนังภาคนี้ถึงแม้มันอาจจะไม่สมบูรณ์แบบมากสำหรับเรา อาจจะแค่เรานะ แต่มันก็เป็นหนังดีที่โคตรเพอเฟคแห่งปี 2019 เรื่องนึงเลยก็ว่าได้ แนะนำให้ทุกท่านพาคนรักพาลูกพาหลานไปดู รับรองว่าท่านจะรักหนังเรื่องนี้แน่ๆ เอาไปเลย 8.5/10
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่