วันนี้ได้ไปดูทอยสตอรี่ ภาค 4 มาครับ เลยมารีวิวและบ่นตามความรู้สึกที่ได้ดูครับ
ภาคนี้ความรู้สึกหลังดูจบมันอึนๆหน่วงๆนะ มันอารมณ์แบบ Bittersweet หวานอมขมกลืน จะสุขก็ไม่สุด จะทุกข์ก็ไม่สุด แต่รู้สึกว่ามันเรียลมากๆแค่นั้นครับ
ภาคนี้เปิดมาย้อนกลับไป 9 ปี ว่าเกิดเรื่องกับโบ เพราะโบถูกเอาเข้ากล่องไปบริจาค เอาเข้าจริงก็ลืมโบไปเลยตั้งแต่ภาค 2 (ออกตอนต้นนิดเดียวหรือเปล่าหว่า?) พอหนังปูไว้สักพักกลับมาที่บอนนี่ เล่นของเล่น แต่ไม่ได้ชอบเล่นวู้ดดี้แล้ว และวู้ดดี้ไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมแล้วด้วย วู้ดดี้ได้มีโอกาสแอบเข้ากระเป๋าบอนนี่ไปปฐมนิเทศชั้นอนุบาล ช่วยบอนนี่จากการโดนเอาเปรียบ แล้วดันได้เพื่อนใหม่กลับมาคือฟ็อกกี้
ฟ็อกกี้คือของเล่นที่ถูกสร้างมาจากงานฝืมือในวิชาสร้างกล่องใส่ดินสอของบอนนี่ ฟ็อกกี้ทำมาจากส้อมเน่าๆ+ของอื่นๆในถังขยะ พอบอนนี่มีชีวิตขึ้นมาได้กลายเป็นของเล่น ก็ยังเข้าใจว่าตัวเองยังเป็นขยะ พยายามกระโดดเข้าถังขยะอยู่บ่อยๆ
วู้ดดี้ต้องคอยลากฟ็อกกี้ออกมาจากถังขยะไม่เว้นแต่ละวัน จนวันนึง พ่อแม่พาบอนนี่ไปเที่ยว แต่ฟ็อกกี้กระโดดออกหน้าต่างรถ จนวู้ดดี้ต้องกระโดดออกไปช่วย จนวู้ดดี้ปรับความเข้าใจกับฟ็อกกี้ได้ ว่าทุกคนเป็นของบอนนี่ และบอนนี่มีความสุขที่สุด ที่ได้เล่นฟ็อกกี้
รถบ้านของครอบครัวบอนนี่ มาจอดที่สวนสนุกเคลื่อนที่จุดนึง วู้ดดี้และฟ็อกกี้วิ่งตามมาจนถึงสวนสนุก แต่วู้ดดี้พบกับโคมไฟที่เหมือนของโบในร้านขายของเก่าระแวกนั้น จึงลากฟ็อกกี้เข้าไปตามหาโบ และได้พบกับแก็บบี้
แก๊บบี้เป็นตุ๊กตาของเล่นเด็กรุ่นเก่าเหมือนวู้ดดี้ที่สามารถดึงสายข้างหลังให้มีเสียงพูดออกมาได้ แต่ แก็บบี้เป็นตุ๊กตาที่กล่องเสียงพังตั้งแต่แรก จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้เล่นกับเด็ก นางพอรู้ว่าวู้ดดี้มีกล่องเสียง ก็พยายามจะจับวู้ดดี้เพื่อเอากล่องเสียงมา สุดท้ายวู้ดดี้หนีออกมาได้คนเดียว และได้เจอกับโบ คุยกันไปมา วู้ดดี้ขอร้องโบและเพื่อนของเธอให้ไปช่วยพาฟ็อกกี้ออกมา จนบังเอิญมาเจอกับบัสที่ออกมาตามหาวู้ดดี้ จึงรวมทีมกันไป แต่แผนการล้มเหลว จึงหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากลูกน้องแก๊บบี้ที่เป็นทีมหุ่นน้อยสยองขวัญโดยไม่ได้ตัวฟ็อกกี้มาด้วย มีเพียงวู้ดดี้เท่านั้นที่จะกลับเข้าไปช่วยอีกครั้ง พอเข้าไป ได้เจอแก๊บบี้อีกครั้ง เธอได้หว่านล้อมวู้ดดี้ ด้วยความจริงที่ว่าตัวเธอเองขาดความรักจากเด็กๆ เพราะเป็นของชำรุด ไม่มีใครต้องการเธอ และมีเพียงวู้ดดี้เท่านั้นที่สามารถช่วยเธอให้พบความสุขนี้เหมือนที่วู้ดดี้เคยได้รับจากแอนดี้ได้ วู้ดดี้จึงยอมให้กล่องเสียงไป โดยแลกกับให้คืนฟ็อกกี้
เมื่อแลกเปลี่ยนกันเสร็จ แก๊บบี้ได้กล่องเสียงไป เธอจึงคืนฟ็อกกี้ให้วู้ดดี้ ประจวบเหมาะที่บอนนี่เข้ามาในร้านขายของเก่าพอดี ทั้งสองพยายามจะเข้าไปในกระเป๋าของบอนนี่เพื่อกลับบ้าน ในขณะที่แก๊บบี้ ได้ดึงเสียงข้างหลังของเธอ พยายามใช้เสียงใหม่ของเธอ เพื่อเรียกให้เด็กผู้หญิงขาประจำร้านขายของเก่า และเป็นเด็กที่เธอเฝ้ามองอยู่เนิ่นนานให้มาเล่น แต่เด็กคนนั้นกลับไม่ชอบแก๊บบี้ และทิ้งเธอลงกล่องไปอย่างไม่ใยดี เมื่อวู้ดดี้เห็นจึงส่งฟ็อกกี้เข้ากระเป๋าบอนนี่ แล้ววิ่งไปหาแก๊บบี้ แก๊บบี้สะเทือนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงให้วู้ดดี้เอากล่องเสียงกลับคืนไป วู้ดดี้จึงปลอบแก๊บบี้ และบอกแก๊บบี้ตามที่เคยได้ยินคำพูดจากโบว่า ไม่ได้มีเด็กคนเดียวที่เราจะสามารถมอบความสุขให้เขาได้ โลกใบนี้ยังกว้างใหญ่พอที่จะหาเด็กคนอื่น ไม่ควรยึดติดอยู่กับใครแค่คนเดียว และวู้ดดี้จึงหว่านล้อมโดยบอกว่าจะพาไปเป็นของเล่นใหม่ของบอนนี่ พอดีกับที่โบตามมาช่วย ทั้งหมดจึงได้ออกไปจากร้านขายของเก่าไปขึ้นรถของบอนนี่ที่ทุกคนพยายามช่วยให้วิ่งวนกลับเข้ามาอยู่ในสวนสนุกเพื่อรอพวกวู้ดดี้ แต่ระหว่างทาง แก๊บบี้เจอเด็กผู้หญิงหลงทาง ร้องไห้อยู่มุมมืดในสวนสนุก ด้วยความสงสาร และยังความกลัวที่ไม่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะชอบเธอไหม เธอจะสามารถปลอบเด็กได้ไหม แต่วู้ดดี้และโบให้กำลังใจเธอ ให้ลองดูอีกสักครั้ง และพบว่า เด็กผู้หญิงเมื่อได้กอดแก๊บบี้ เธอมีความกล้ามากขึ้น จึงได้ออกไปตามหาพ่อแม่จนเจอ แล้วยังพาแก๊บบี้กลับบ้านไปด้วย
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว วู้ดดี้ โบ และเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือวู้ดดี้ ได้วิ่งพาวู้ดดีไปจนถึงรถของบอนนี่ เมื่อมาถึง วู้ดดี้ต้องแยกจากกับโบอีกครั้ง ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกันอีก เพราะโบยืนยันว่า ตัวเองมีความสุขที่จะเป็นของเล่นหลงทาง และจะไปดูโลกกว้างพร้อมๆกับสวนสนุกเคลื่อนที่นี้ วู้ดดี้ด้วยความที่ตัวเองเป็นของเล่นบอนนี่ จึงบอกลาโบด้วยความเศร้าและกำลังจะเดินกลับขึ้นรถ บัสก็ได้เดินมาบอกวู้ดดี้ว่า "ไม่เป็นไร บอนนี่ไม่เป็นไรหรอก" บัสรู้ถึงความรู้สึกในใจวู้ดดี้ เมื่อบัสพูดออกมาอย่างนี้แล้ว วู้ดดี้จึงกอดลาเพื่อนๆทุกคน และตัดสินใจอยู่กับโบ ซึ่งเป็นเหมือนความสุขและเป้าหมายชีวิตสุดท้ายของวู้ดดี้
................จบ.................
ความคิดเห็น
เรารู้สึกว่า ภาคนี้มันเศร้า แต่ไม่ได้เศร้าแบบอบอุ่นใจแบบภาค 3 นะ มันเศร้าในแบบที่การถูกไม่เห็นความสำคัญ ถึงการ์ตูนจะพยายามใช้ความตลกเข้ามาฉาบหน้าไว้ แต่มันปวดใจมากกับการที่เราได้เห็นวู้ดดี้ถูกย่ำยี จะว่ามันเป็นจุดตกต่ำที่สุดของวู้ดดี้ก็ว่าได้ แต่เราไม่แน่ใจว่าจุดต่างๆในเรื่อง เรามโนไปเองหรือเปล่า แต่จุดที่เราเห็นคือ
ตั้งแต่ภาค 1 วู้ดดี้คือคนโปรดของแอนดี้ และเป็นของเล่นชิ้นสำคัญ แต่มาภาคนี้ตั้งแต่เริ่ม หนังพยายามแสดงให้เห็นว่า ของเล่นถูกลืมหายไปทุกวันๆ เหมือนปูทางไว้แต่เริ่มว่าสุดท้ายวู้ดดี้ต้องเผชิญชะตากรรมนี้ เริ่มเรื่องมาคือทุกคนอยู่ในตู้ของบอนนี่ พอบอนนี่กลับเข้ามา ก็เล่นกับของเล่นทุกชิ้นที่เป็นตัวละคร เหลือไว้แต่ของเล่นแปลกๆ และวู้ดดี้ หลายต่อหลายครั้ง จนเพื่อนๆต้องปลอบใจ และวู้ดดี้น่าจะรู้ตัวดีว่า เขาไม่ได้เป็นคนโปรดอีกแล้ว ซ้ำร้ายยังไม่ถูกนำไปเล่นอีกด้วย ตอนแรกเราคิดว่าเราคิดมากไปหรือเปล่า แต่ฉากที่วู้ดดี้พยายามดันให้ฟ็อกกี้ขึ้นไปอยู่กับบอนนี่จนทั้ง 2 ตกอยู่ข้างเตียง แล้วพ่อเดินเข้ามา แล้วเหยียบหัววู้ดดี้จนหัวเบี้ยว บุ๋มเข้าไป ฉากนี้ช็อคคนทั้งโรงมากจริงๆ ตั้งแต่ภาคแรก วู้ดดี้ไม่เคยโดนกระทำแบบนี้ ไม่ว่าจากทั้งคนเอง ตัวร้ายเอง มาภาคนี้เลยแสดงให้เห็นว่า การเป็นวู้ดดี้ที่นี่มันตกต่ำและน่าเศร้าใจขนาดไหน
ฉากอื่นๆ วู้ดดี้ก็เอาแต่พูดถึงแอนดี้ โดยเปรียบบอนนี่กับแอนดี้ว่า ตัวเขาเคยผ่านมา มันจะต้องเป็นยังโน้นอย่างนี้ จนถูกโบแหกว่า ใครกันแน่ที่เป็นของเล่นหลงทาง เรามีความรู้สึกว่า วู้ดดี้ต้องรู้สึกตัวแหละ ว่าตัวเองรักบอนนี่นะ แต่ไม่ได้รักขนาดนั้น เรามองว่าเป็นเรื่องความซื่อสัตย์ และความรักที่มีให้แอนดี้เองมันเกินจากคำว่าของเล่น อาจเกินเลยไปว่าวู้ดดี้มองแอนดี้เป็นครอบครัวคนสำคัญคนนึง และต่อให้วู้ดดี้รักบอนนี่เป็นเหมือนคนในครอบครัว แต่ยังไงแล้ว ไม่มีทางที่จะรักบอนนี่ได้เท่ากับที่รักแอนดี้หรอก
พูดไปถึงฉากสำคัญ ที่วู้ดดี้ยอมให้กล่องเสียงแก๊บบี้ไป เสียงของวู้ดดี้ตั้งแต่ภาคแรกจนภาค 3 มันคือของสำคัญมากๆ และเป็นจุดเด่นของตัววู้ดดี้เอง มีงูอยู่ในรองเท้าบู้ทชั้น! เธอเป็นคนโปรดของชั้นเลย! แต่มาภาคนี้ เสียงที่ออกมาแต่ละครั้ง คือวู้ดดี้ต้องดึงเอง ไม่มีคนอื่นมาดึงเพื่อฟังเสียงของวู้ดดี้อีกแล้ว เรามานั่งถกกับแฟนว่า ฉากนี้ช้ำใจมาก เบื้องหน้าอาจจะดูว่าวู้ดดี้ใจดีที่ยอมให้เสียงแก๊บบี้เพื่อแลกกับฟ็อกกี้ แต่เราเศร้านะ คือมันเป็นการตอกย้ำว่า จะเอาก็เอาไปเถอะ ถึงมันจะมีคุณค่ากับจิตใจของวู้ดดี้ แต่ตอนนี้ยังไงก็ไม่มีใครเล่นมันอยู่แล้ว
จนฉากสุดท้ายที่บัสออกมา แล้วพูดกับวู้ดดี้ "เธอไม่เป็นไรหรอก บอนนี่ไม่เป็นไรหรอก" ฉากนี้ช็อคมากกกกกก เราไม่ได้รู้สึกถึงความหมายที่ว่า "บอนนี่เสียใจที่วู้ดดี้หายแต่สุดท้ายเธอจะไม่เป็นไร" แต่เรารู้สึกถึงความหมายที่ว่า
"ไม่เป็นไรหรอก ต่อให้จะมีวู้ดดี้ หรือไม่มีวู้ดดี้ บอนนี่ก็ไม่เป็นไร"
สำหรับเราภาคนี้ทำออกมาได้สะเทือนใจมาก ตอนจบที่สุดท้ายวู้ดดี้ทำตามใจตัวเองไม่ทำตามชื่อที่อยู่ใต้รองเท้าตัวเองคือจบดีตามครรลองหนัง แต่เรามีความรู้สึกว่า มันสามารถดราม่าได้มากกว่านี้ เหมือนมันไม่สุด มันได้มากกว่านี้อีก พอจบไป มันไม่ได้รู้สึกถึงความอิ่มเหมือนภาค 3 เหมือนทำภาค 4 มาเพื่อหาบทสรุปให้วู้ดดี้มากกว่า ว่าวู้ดดี้จะเอายังไงกับชีวิตต่อไป ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้รักบอนนี่ ความสำคัญก็ไม่มี เป้าหมายชีวิตก็ไม่มี
เราว่าสุดท้ายจริงๆแล้ว ตัวละครทุกตัวก็เหมือนที่ฟ็อกกี้บอกแหละ ทุกคนคือขยะ ท้ายสุดของทุกคนจะกลายเป็นขยะ ถ้าหาเป้าหมายชีวิตตัวเองไม่เจอ ก็จะวนลูปอยู่อย่างนี้ตลอดไป
มีเจ้าของกลายเป็นของเล่น》ถูกทิ้งเป็นขยะ》หาเจ้าของใหม่
แต่โชคดีที่วู้ดดี้หลุดพ้นจากจุดนี้มาได้แล้ว 💋
สรุปคะแนน
7/10
ข้อดี
- หนังเล่าเรื่องราวได้ดี แปลกใหม่ ลงเล่นดีเทลความรู้สึกตัวละครแตกต่างจากภาคเก่าๆโดยสิ้นเชิง
- ทำให้หวนคิดถึงภาคเก่าๆได้เป็นอย่างดี
- ฉากบู๊ ไล่ล่า ตื่นเต้นสนุก
- ภาพสวย ฉากฝนเอย ฉากโคมไฟเอย วาดหุ่นสยองขวัญน่ากลัวดีมาก
ข้อเสีย
- ดราม่าไม่สุด ทำออกมาได้มวนๆบอกไม่ถูก
- ไม่แสดงประวัติของแก๊บบี้เท่าไหร่ บทสรุปแก๊บบี้เลยซึ้งแบบไม่สุด อินนะแต่ไม่สุด
- ที่มาที่ไปหุ่นสยองขวัญกับแก๊บบี้ไม่มี คือมาแบบงงๆ เหมือนใส่มาให้ดูน่ากลัว ทั้งๆที่ความเชื่อมโยง 2 ตัวละครนี้ไม่มีเลย แล้วหุ่นสยองขวัญดันมี 4 5ตัวได้ เหมือนอยากให้คาแรกเตอร์แก๊บบี้ดูเป็นเมียมาเฟียคุมบ่อนไปงั้นไม่มีเหตุผลอะไร
- ซีนเพื่อนๆแทบไม่มีเลย ขึ้นชื่อว่าทอยสตอรี่ ขอซีนเพื่อนๆเยอะหน่อยสิ่ ไม่ได้คิดถึงแต่วู้ดดี้นะ! เออถ้าหนังชื่อ Toy story : Woody เทือกๆนี้ยังว่าไป 🤣
ซีนที่ชอบ
ฉากประทับใจ - ฉากสุดท้ายที่วู้ดดี้ตัดสินใจอยู่กับโบ
ฉากซึ้ง - ฉากที่โบถูกทิ้งออกจากบ้านแอนดี้ / ฉากที่ทั้ง 2 ได้กลับมาเจอกันอีก
ฉากดราม่า - ฉากเปลี่ยนกล่องเสียงให้แก๊บบี้ / ฉากแก๊บบี้โดนปาทิ้ง / ฉากเพื่อนๆทุกคนกอดวู้ดดี้เป็นครั้งสุดท้าย
ฉากรำคาน - ซีนกระโดดเข้าถังขยะ เยอะไป๊!!!!
สปอยล์บ้านๆจัดเต็ม! + บ่น Toy story 4 สงสารวู้ดดี้มาก
ภาคนี้ความรู้สึกหลังดูจบมันอึนๆหน่วงๆนะ มันอารมณ์แบบ Bittersweet หวานอมขมกลืน จะสุขก็ไม่สุด จะทุกข์ก็ไม่สุด แต่รู้สึกว่ามันเรียลมากๆแค่นั้นครับ
ภาคนี้เปิดมาย้อนกลับไป 9 ปี ว่าเกิดเรื่องกับโบ เพราะโบถูกเอาเข้ากล่องไปบริจาค เอาเข้าจริงก็ลืมโบไปเลยตั้งแต่ภาค 2 (ออกตอนต้นนิดเดียวหรือเปล่าหว่า?) พอหนังปูไว้สักพักกลับมาที่บอนนี่ เล่นของเล่น แต่ไม่ได้ชอบเล่นวู้ดดี้แล้ว และวู้ดดี้ไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมแล้วด้วย วู้ดดี้ได้มีโอกาสแอบเข้ากระเป๋าบอนนี่ไปปฐมนิเทศชั้นอนุบาล ช่วยบอนนี่จากการโดนเอาเปรียบ แล้วดันได้เพื่อนใหม่กลับมาคือฟ็อกกี้
ฟ็อกกี้คือของเล่นที่ถูกสร้างมาจากงานฝืมือในวิชาสร้างกล่องใส่ดินสอของบอนนี่ ฟ็อกกี้ทำมาจากส้อมเน่าๆ+ของอื่นๆในถังขยะ พอบอนนี่มีชีวิตขึ้นมาได้กลายเป็นของเล่น ก็ยังเข้าใจว่าตัวเองยังเป็นขยะ พยายามกระโดดเข้าถังขยะอยู่บ่อยๆ
วู้ดดี้ต้องคอยลากฟ็อกกี้ออกมาจากถังขยะไม่เว้นแต่ละวัน จนวันนึง พ่อแม่พาบอนนี่ไปเที่ยว แต่ฟ็อกกี้กระโดดออกหน้าต่างรถ จนวู้ดดี้ต้องกระโดดออกไปช่วย จนวู้ดดี้ปรับความเข้าใจกับฟ็อกกี้ได้ ว่าทุกคนเป็นของบอนนี่ และบอนนี่มีความสุขที่สุด ที่ได้เล่นฟ็อกกี้
รถบ้านของครอบครัวบอนนี่ มาจอดที่สวนสนุกเคลื่อนที่จุดนึง วู้ดดี้และฟ็อกกี้วิ่งตามมาจนถึงสวนสนุก แต่วู้ดดี้พบกับโคมไฟที่เหมือนของโบในร้านขายของเก่าระแวกนั้น จึงลากฟ็อกกี้เข้าไปตามหาโบ และได้พบกับแก็บบี้
แก๊บบี้เป็นตุ๊กตาของเล่นเด็กรุ่นเก่าเหมือนวู้ดดี้ที่สามารถดึงสายข้างหลังให้มีเสียงพูดออกมาได้ แต่ แก็บบี้เป็นตุ๊กตาที่กล่องเสียงพังตั้งแต่แรก จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้เล่นกับเด็ก นางพอรู้ว่าวู้ดดี้มีกล่องเสียง ก็พยายามจะจับวู้ดดี้เพื่อเอากล่องเสียงมา สุดท้ายวู้ดดี้หนีออกมาได้คนเดียว และได้เจอกับโบ คุยกันไปมา วู้ดดี้ขอร้องโบและเพื่อนของเธอให้ไปช่วยพาฟ็อกกี้ออกมา จนบังเอิญมาเจอกับบัสที่ออกมาตามหาวู้ดดี้ จึงรวมทีมกันไป แต่แผนการล้มเหลว จึงหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากลูกน้องแก๊บบี้ที่เป็นทีมหุ่นน้อยสยองขวัญโดยไม่ได้ตัวฟ็อกกี้มาด้วย มีเพียงวู้ดดี้เท่านั้นที่จะกลับเข้าไปช่วยอีกครั้ง พอเข้าไป ได้เจอแก๊บบี้อีกครั้ง เธอได้หว่านล้อมวู้ดดี้ ด้วยความจริงที่ว่าตัวเธอเองขาดความรักจากเด็กๆ เพราะเป็นของชำรุด ไม่มีใครต้องการเธอ และมีเพียงวู้ดดี้เท่านั้นที่สามารถช่วยเธอให้พบความสุขนี้เหมือนที่วู้ดดี้เคยได้รับจากแอนดี้ได้ วู้ดดี้จึงยอมให้กล่องเสียงไป โดยแลกกับให้คืนฟ็อกกี้
เมื่อแลกเปลี่ยนกันเสร็จ แก๊บบี้ได้กล่องเสียงไป เธอจึงคืนฟ็อกกี้ให้วู้ดดี้ ประจวบเหมาะที่บอนนี่เข้ามาในร้านขายของเก่าพอดี ทั้งสองพยายามจะเข้าไปในกระเป๋าของบอนนี่เพื่อกลับบ้าน ในขณะที่แก๊บบี้ ได้ดึงเสียงข้างหลังของเธอ พยายามใช้เสียงใหม่ของเธอ เพื่อเรียกให้เด็กผู้หญิงขาประจำร้านขายของเก่า และเป็นเด็กที่เธอเฝ้ามองอยู่เนิ่นนานให้มาเล่น แต่เด็กคนนั้นกลับไม่ชอบแก๊บบี้ และทิ้งเธอลงกล่องไปอย่างไม่ใยดี เมื่อวู้ดดี้เห็นจึงส่งฟ็อกกี้เข้ากระเป๋าบอนนี่ แล้ววิ่งไปหาแก๊บบี้ แก๊บบี้สะเทือนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงให้วู้ดดี้เอากล่องเสียงกลับคืนไป วู้ดดี้จึงปลอบแก๊บบี้ และบอกแก๊บบี้ตามที่เคยได้ยินคำพูดจากโบว่า ไม่ได้มีเด็กคนเดียวที่เราจะสามารถมอบความสุขให้เขาได้ โลกใบนี้ยังกว้างใหญ่พอที่จะหาเด็กคนอื่น ไม่ควรยึดติดอยู่กับใครแค่คนเดียว และวู้ดดี้จึงหว่านล้อมโดยบอกว่าจะพาไปเป็นของเล่นใหม่ของบอนนี่ พอดีกับที่โบตามมาช่วย ทั้งหมดจึงได้ออกไปจากร้านขายของเก่าไปขึ้นรถของบอนนี่ที่ทุกคนพยายามช่วยให้วิ่งวนกลับเข้ามาอยู่ในสวนสนุกเพื่อรอพวกวู้ดดี้ แต่ระหว่างทาง แก๊บบี้เจอเด็กผู้หญิงหลงทาง ร้องไห้อยู่มุมมืดในสวนสนุก ด้วยความสงสาร และยังความกลัวที่ไม่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะชอบเธอไหม เธอจะสามารถปลอบเด็กได้ไหม แต่วู้ดดี้และโบให้กำลังใจเธอ ให้ลองดูอีกสักครั้ง และพบว่า เด็กผู้หญิงเมื่อได้กอดแก๊บบี้ เธอมีความกล้ามากขึ้น จึงได้ออกไปตามหาพ่อแม่จนเจอ แล้วยังพาแก๊บบี้กลับบ้านไปด้วย
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว วู้ดดี้ โบ และเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือวู้ดดี้ ได้วิ่งพาวู้ดดีไปจนถึงรถของบอนนี่ เมื่อมาถึง วู้ดดี้ต้องแยกจากกับโบอีกครั้ง ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกันอีก เพราะโบยืนยันว่า ตัวเองมีความสุขที่จะเป็นของเล่นหลงทาง และจะไปดูโลกกว้างพร้อมๆกับสวนสนุกเคลื่อนที่นี้ วู้ดดี้ด้วยความที่ตัวเองเป็นของเล่นบอนนี่ จึงบอกลาโบด้วยความเศร้าและกำลังจะเดินกลับขึ้นรถ บัสก็ได้เดินมาบอกวู้ดดี้ว่า "ไม่เป็นไร บอนนี่ไม่เป็นไรหรอก" บัสรู้ถึงความรู้สึกในใจวู้ดดี้ เมื่อบัสพูดออกมาอย่างนี้แล้ว วู้ดดี้จึงกอดลาเพื่อนๆทุกคน และตัดสินใจอยู่กับโบ ซึ่งเป็นเหมือนความสุขและเป้าหมายชีวิตสุดท้ายของวู้ดดี้
................จบ.................
ความคิดเห็น
เรารู้สึกว่า ภาคนี้มันเศร้า แต่ไม่ได้เศร้าแบบอบอุ่นใจแบบภาค 3 นะ มันเศร้าในแบบที่การถูกไม่เห็นความสำคัญ ถึงการ์ตูนจะพยายามใช้ความตลกเข้ามาฉาบหน้าไว้ แต่มันปวดใจมากกับการที่เราได้เห็นวู้ดดี้ถูกย่ำยี จะว่ามันเป็นจุดตกต่ำที่สุดของวู้ดดี้ก็ว่าได้ แต่เราไม่แน่ใจว่าจุดต่างๆในเรื่อง เรามโนไปเองหรือเปล่า แต่จุดที่เราเห็นคือ
ตั้งแต่ภาค 1 วู้ดดี้คือคนโปรดของแอนดี้ และเป็นของเล่นชิ้นสำคัญ แต่มาภาคนี้ตั้งแต่เริ่ม หนังพยายามแสดงให้เห็นว่า ของเล่นถูกลืมหายไปทุกวันๆ เหมือนปูทางไว้แต่เริ่มว่าสุดท้ายวู้ดดี้ต้องเผชิญชะตากรรมนี้ เริ่มเรื่องมาคือทุกคนอยู่ในตู้ของบอนนี่ พอบอนนี่กลับเข้ามา ก็เล่นกับของเล่นทุกชิ้นที่เป็นตัวละคร เหลือไว้แต่ของเล่นแปลกๆ และวู้ดดี้ หลายต่อหลายครั้ง จนเพื่อนๆต้องปลอบใจ และวู้ดดี้น่าจะรู้ตัวดีว่า เขาไม่ได้เป็นคนโปรดอีกแล้ว ซ้ำร้ายยังไม่ถูกนำไปเล่นอีกด้วย ตอนแรกเราคิดว่าเราคิดมากไปหรือเปล่า แต่ฉากที่วู้ดดี้พยายามดันให้ฟ็อกกี้ขึ้นไปอยู่กับบอนนี่จนทั้ง 2 ตกอยู่ข้างเตียง แล้วพ่อเดินเข้ามา แล้วเหยียบหัววู้ดดี้จนหัวเบี้ยว บุ๋มเข้าไป ฉากนี้ช็อคคนทั้งโรงมากจริงๆ ตั้งแต่ภาคแรก วู้ดดี้ไม่เคยโดนกระทำแบบนี้ ไม่ว่าจากทั้งคนเอง ตัวร้ายเอง มาภาคนี้เลยแสดงให้เห็นว่า การเป็นวู้ดดี้ที่นี่มันตกต่ำและน่าเศร้าใจขนาดไหน
ฉากอื่นๆ วู้ดดี้ก็เอาแต่พูดถึงแอนดี้ โดยเปรียบบอนนี่กับแอนดี้ว่า ตัวเขาเคยผ่านมา มันจะต้องเป็นยังโน้นอย่างนี้ จนถูกโบแหกว่า ใครกันแน่ที่เป็นของเล่นหลงทาง เรามีความรู้สึกว่า วู้ดดี้ต้องรู้สึกตัวแหละ ว่าตัวเองรักบอนนี่นะ แต่ไม่ได้รักขนาดนั้น เรามองว่าเป็นเรื่องความซื่อสัตย์ และความรักที่มีให้แอนดี้เองมันเกินจากคำว่าของเล่น อาจเกินเลยไปว่าวู้ดดี้มองแอนดี้เป็นครอบครัวคนสำคัญคนนึง และต่อให้วู้ดดี้รักบอนนี่เป็นเหมือนคนในครอบครัว แต่ยังไงแล้ว ไม่มีทางที่จะรักบอนนี่ได้เท่ากับที่รักแอนดี้หรอก
พูดไปถึงฉากสำคัญ ที่วู้ดดี้ยอมให้กล่องเสียงแก๊บบี้ไป เสียงของวู้ดดี้ตั้งแต่ภาคแรกจนภาค 3 มันคือของสำคัญมากๆ และเป็นจุดเด่นของตัววู้ดดี้เอง มีงูอยู่ในรองเท้าบู้ทชั้น! เธอเป็นคนโปรดของชั้นเลย! แต่มาภาคนี้ เสียงที่ออกมาแต่ละครั้ง คือวู้ดดี้ต้องดึงเอง ไม่มีคนอื่นมาดึงเพื่อฟังเสียงของวู้ดดี้อีกแล้ว เรามานั่งถกกับแฟนว่า ฉากนี้ช้ำใจมาก เบื้องหน้าอาจจะดูว่าวู้ดดี้ใจดีที่ยอมให้เสียงแก๊บบี้เพื่อแลกกับฟ็อกกี้ แต่เราเศร้านะ คือมันเป็นการตอกย้ำว่า จะเอาก็เอาไปเถอะ ถึงมันจะมีคุณค่ากับจิตใจของวู้ดดี้ แต่ตอนนี้ยังไงก็ไม่มีใครเล่นมันอยู่แล้ว
จนฉากสุดท้ายที่บัสออกมา แล้วพูดกับวู้ดดี้ "เธอไม่เป็นไรหรอก บอนนี่ไม่เป็นไรหรอก" ฉากนี้ช็อคมากกกกกก เราไม่ได้รู้สึกถึงความหมายที่ว่า "บอนนี่เสียใจที่วู้ดดี้หายแต่สุดท้ายเธอจะไม่เป็นไร" แต่เรารู้สึกถึงความหมายที่ว่า
"ไม่เป็นไรหรอก ต่อให้จะมีวู้ดดี้ หรือไม่มีวู้ดดี้ บอนนี่ก็ไม่เป็นไร"
สำหรับเราภาคนี้ทำออกมาได้สะเทือนใจมาก ตอนจบที่สุดท้ายวู้ดดี้ทำตามใจตัวเองไม่ทำตามชื่อที่อยู่ใต้รองเท้าตัวเองคือจบดีตามครรลองหนัง แต่เรามีความรู้สึกว่า มันสามารถดราม่าได้มากกว่านี้ เหมือนมันไม่สุด มันได้มากกว่านี้อีก พอจบไป มันไม่ได้รู้สึกถึงความอิ่มเหมือนภาค 3 เหมือนทำภาค 4 มาเพื่อหาบทสรุปให้วู้ดดี้มากกว่า ว่าวู้ดดี้จะเอายังไงกับชีวิตต่อไป ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้รักบอนนี่ ความสำคัญก็ไม่มี เป้าหมายชีวิตก็ไม่มี
เราว่าสุดท้ายจริงๆแล้ว ตัวละครทุกตัวก็เหมือนที่ฟ็อกกี้บอกแหละ ทุกคนคือขยะ ท้ายสุดของทุกคนจะกลายเป็นขยะ ถ้าหาเป้าหมายชีวิตตัวเองไม่เจอ ก็จะวนลูปอยู่อย่างนี้ตลอดไป
มีเจ้าของกลายเป็นของเล่น》ถูกทิ้งเป็นขยะ》หาเจ้าของใหม่
แต่โชคดีที่วู้ดดี้หลุดพ้นจากจุดนี้มาได้แล้ว 💋
สรุปคะแนน
7/10
ข้อดี
- หนังเล่าเรื่องราวได้ดี แปลกใหม่ ลงเล่นดีเทลความรู้สึกตัวละครแตกต่างจากภาคเก่าๆโดยสิ้นเชิง
- ทำให้หวนคิดถึงภาคเก่าๆได้เป็นอย่างดี
- ฉากบู๊ ไล่ล่า ตื่นเต้นสนุก
- ภาพสวย ฉากฝนเอย ฉากโคมไฟเอย วาดหุ่นสยองขวัญน่ากลัวดีมาก
ข้อเสีย
- ดราม่าไม่สุด ทำออกมาได้มวนๆบอกไม่ถูก
- ไม่แสดงประวัติของแก๊บบี้เท่าไหร่ บทสรุปแก๊บบี้เลยซึ้งแบบไม่สุด อินนะแต่ไม่สุด
- ที่มาที่ไปหุ่นสยองขวัญกับแก๊บบี้ไม่มี คือมาแบบงงๆ เหมือนใส่มาให้ดูน่ากลัว ทั้งๆที่ความเชื่อมโยง 2 ตัวละครนี้ไม่มีเลย แล้วหุ่นสยองขวัญดันมี 4 5ตัวได้ เหมือนอยากให้คาแรกเตอร์แก๊บบี้ดูเป็นเมียมาเฟียคุมบ่อนไปงั้นไม่มีเหตุผลอะไร
- ซีนเพื่อนๆแทบไม่มีเลย ขึ้นชื่อว่าทอยสตอรี่ ขอซีนเพื่อนๆเยอะหน่อยสิ่ ไม่ได้คิดถึงแต่วู้ดดี้นะ! เออถ้าหนังชื่อ Toy story : Woody เทือกๆนี้ยังว่าไป 🤣
ซีนที่ชอบ
ฉากประทับใจ - ฉากสุดท้ายที่วู้ดดี้ตัดสินใจอยู่กับโบ
ฉากซึ้ง - ฉากที่โบถูกทิ้งออกจากบ้านแอนดี้ / ฉากที่ทั้ง 2 ได้กลับมาเจอกันอีก
ฉากดราม่า - ฉากเปลี่ยนกล่องเสียงให้แก๊บบี้ / ฉากแก๊บบี้โดนปาทิ้ง / ฉากเพื่อนๆทุกคนกอดวู้ดดี้เป็นครั้งสุดท้าย
ฉากรำคาน - ซีนกระโดดเข้าถังขยะ เยอะไป๊!!!!