●● 'พ่อจอห์นวิญญู'มีเสียวหมิ่นศาล!...อดีตผู้พิพากษาชี้ช่องแจ้งความได้ทุกสถานีตำรวจทั่วไทย ●●

27 มิ.ย.62 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng
โดยมีเนื้อหาดังนี้
.....กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับเรื่อง ส.ส. 32 คนไว้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 98(3) หรือไม่ แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น
.....ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส.32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า
เนื่องจากไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ผู้ถูกร้องถือหุ้นอยู่ และไม่มี
แบบแสดงงบการเงินว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากกิจการใด
กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริง
ที่ฟังได้ยุติต่อไป
เมื่อไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้อง
ทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....ข้อความในข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นภาษาไทย คนไทยที่อ่านภาษาไทยเข้าใจและมีสติสัมปชัญญะ
บริบูรณ์ครบถ้วน อ่านแล้วน่าจะรู้เรื่องและเข้าใจถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส. 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....แต่ยังมีบุคคลซึ่งน่าจะเป็นคนไทยแต่ไม่อ่านเหตุผลดังกล่าวหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจหรือเข้าใจ แต่ต้องการด่า
ศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า
....." ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ น่าจะเกินคำว่าด้านเสียแล้ว "
.....ข้อความที่ว่า "น่าจะเกินคำว่าน่าด้านเสียแล้ว" เป็นการดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ในการพิจารณาคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....การกล่าวข้อความดังกล่าวในทวิตเตอร์ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วประเทศ
จึงเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทยและความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
ประชาชนทุกคนมีสิทธิไปแจ้งความกล่าวโทษได้
.....ดังนั้น
ประชาชนไทยคนหนึ่งคนใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษบุคคลนี้ที่ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งต่อ
พนักงานสอบสวนได้ทุกสถานีตำรวจในประเทศไทย ไม่ว่าภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง
หรือภาคใต้.
Cr.
https://www.thaipost.net/main/detail/39618
●● 'พ่อจอห์นวิญญู'มีเสียวหมิ่นศาล!...อดีตผู้พิพากษาชี้ช่องแจ้งความได้ทุกสถานีตำรวจทั่วไทย ●●
27 มิ.ย.62 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng
โดยมีเนื้อหาดังนี้
.....กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับเรื่อง ส.ส. 32 คนไว้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 98(3) หรือไม่ แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น
.....ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส.32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า
เนื่องจากไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ผู้ถูกร้องถือหุ้นอยู่ และไม่มี
แบบแสดงงบการเงินว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากกิจการใด
กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริง
ที่ฟังได้ยุติต่อไป
เมื่อไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้อง
ทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....ข้อความในข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นภาษาไทย คนไทยที่อ่านภาษาไทยเข้าใจและมีสติสัมปชัญญะ
บริบูรณ์ครบถ้วน อ่านแล้วน่าจะรู้เรื่องและเข้าใจถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส. 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....แต่ยังมีบุคคลซึ่งน่าจะเป็นคนไทยแต่ไม่อ่านเหตุผลดังกล่าวหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจหรือเข้าใจ แต่ต้องการด่า
ศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า
....." ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ น่าจะเกินคำว่าด้านเสียแล้ว "
.....ข้อความที่ว่า "น่าจะเกินคำว่าน่าด้านเสียแล้ว" เป็นการดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ในการพิจารณาคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....การกล่าวข้อความดังกล่าวในทวิตเตอร์ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วประเทศ
จึงเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทยและความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
ประชาชนทุกคนมีสิทธิไปแจ้งความกล่าวโทษได้
.....ดังนั้นประชาชนไทยคนหนึ่งคนใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษบุคคลนี้ที่ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งต่อ
พนักงานสอบสวนได้ทุกสถานีตำรวจในประเทศไทย ไม่ว่าภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง
หรือภาคใต้.
Cr. https://www.thaipost.net/main/detail/39618