JJNY : หุ้นสื่อต้องมีสื่ออยู่จริง ศาลปค.สูงสุดชี้ไว้เมื่อปี 56ฯ /สรรพสามิตเล็งเก็บภาษี 'เกม เพลง หนัง ออนไลน์' ฯ

หุ้นสื่อต้องมีสื่ออยู่จริง ศาลปค.สูงสุดชี้ไว้เมื่อปี 56 ระบุคล้ายคดี”ธนาธร”
https://www.matichon.co.th/politics/news_1555065

เฟซบุ๊ก Atukkit Sawangsuk หรือใบตองแห้ง พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง สรุปเนื้อหาจากรายการ “ใบตองแห้ง OnAir – หุ้นสื่อ ศาลปกครองชี้ไว้อย่างไร” เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ดังนี้

“หุ้นสื่อ” ที่ลามไปถึง ส.ว. ไม่ใช่เพิ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันในช่วงเลือกตั้ง

ปีที่แล้ว ในการสรรหาบอร์ด กสทช. ถ้ายังจำได้ มีข่าวคลิปลับ ผู้มีอำนาจไม่พอใจ แล้วสมชาย แสวงการ ก็เสนอให้ สนช.ลงมติคว่ำการสรรหา ด้วยมติ 118 ต่อ 25

โดยอ้างว่ามี 8 จาก 14 คน (ส่งมาให้ สนช.เลือก 7 คน) มีคุณสมบัติต้องห้าม ตามมาตรา 7 ข.(12) พรบ.กสทช. ที่กำหนดข้อห้ามไว้ว่า

“เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วน ในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน หรือนิติบุคคลอื่นใด บรรดาที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนได้รับการคัดเลือกตามมาตรา 15”

ซึ่งก็คล้ายกับหุ้นสื่อในรัฐธรรมนูญนั่นเอง แต่เป็นหุ้นวิทยุ โทรทัศน์ โทรคมนาคม

คณะกรรมการสรรหายัวะมาก เพราะล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นนักกฎหมาย จึงทำหนังสือร่ายยาว เป็นคำชี้แจงโต้ สนช.

สำนักข่าวอิศรานี่แหละลงไว้ แต่ไม่ค่อยมีคนอ่าน คนแบบศรีสุวรรณก็ดันไปด่ากรรมการสรรหาตาม สนช. ว่าคุณสมบัติต้องห้ามแล้วเลือกมาได้ไง

https://www.isranews.org/isranews-article/66168-is-66168.html

คณะกรรมการสรรหาอธิบายเหตุผลทางกฎหมายไว้ชัดเจน โดยเรียงลำดับดังนี้ว่า

ทีแรก สำนักเลขาธิการวุฒิสภา เอาคำพิพากษาศาลปกครองกลาง มาเสนอคณะกรรมการ คำพิพากษาที่ 670/2555 ระบุว่า

การที่จะถือว่าผู้สมัครมีลักษณะต้องห้าม เพราะเป็นกรรมการในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน หรือนิติบุคคลใดที่ประกอบกิจการเกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม
วิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์หรือไม่ ให้พิจารณาจากวัตถุประสงค์ของบริษัทตามที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ

คำพิพากษานี้ เข้าใจว่าเป็นหลักที่พวก สนช.เอามายึด เพราะตอนเลือก กกต.ก็อ้างข้อนี้เหมือนกัน จนสมชัยแฉว่า มี กกต.คนหนึ่งไม่ผ่านสรรหารอบแรก ต้องเข้ามาใหม่รอบสอง (ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ ที่ปรึกษานุรักษ์ มาประณีต ประธานศาล รธน.)

แต่กรรมการสรรหาแย้งว่า นั่นเป็นคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดียังไม่สิ้นสุด ตรงข้าม มีคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีที่ 114/2556 ระหว่างวุฒิพร เดี่ยวพานิช กับประธานวุฒิสภาและพวก เป็นเรื่องการสรรหาซูเปอร์บอร์ด กสทช. วุฒิพรถูกตัดชื่อออกเพราะเป็นกรรมการบริษัทไอทีวี ถูกระบุว่า “หุ้นโทรทัศน์” วุฒิพรร้องศาล จนมีคำสั่งคุ้มครอง โดยศาลเห็นพ้องว่า ในตอนนั้น ไอทีวีปิดไปแล้ว ไม่มีสื่ออยู่จริง เพียงแต่บริษัทยังอยู่ เพราะยังมีคดีฟ้องกับรัฐ

ศาลปกครองสูงสุดชี้ว่า การ “พิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ฟ้องคดีเฉพาะวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นกรรมการตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนของสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อย่างเดียวเท่านั้น น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

นี่คล้ายกันเปี๊ยบเลยครับ กับคดีธนาธร คือเป็นหุ้นสื่อ แต่สื่อนั้นไม่มีอยู่แล้ว เป็นนิตยสารแฟชั่นที่ปิดไปแล้ว

กรรมการสรรหา กสทช.ยกคำสั่งศาลปกครองสูงสุดอันนี้ มาโต้ สนช. และโต้คำพิพากษาศาลปกครองกลาง โดยฟังแล้วมีเหตุผลกว่า

ที่สำคัญ ต้องดูรายชื่อกรรมการสรรหา ว่ามีใครบ้างเอ่ย ที่เห็นว่า “หุ้นสื่อ” ต้องมีสื่ออยู่จริง

ปรากฏว่า ประธานกรรมการคือ อุดมศักดิ์ นิติมนตรี 1 ในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยคดีธนาธร คดี 41 ส.ส. 21 ส.ว. ฯลฯ นี่เอง

ตอนท้ายใบตองแห้งชี้ว่า คอยดูกันว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย
“หุ้นสื่อ” อย่างไร จะเห็นด้วยกับ สนช. ศาลปกครองกลาง หรือศาลปกครองสูงสุด

ขอบคุณเนื้อหาจากเฟซบุ๊ก Atukkit Sawangsuk และวอยซ์ทีวี

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/2358331674248648
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่