สปริงนิวส์แห้ว ศาลปกครองกลาง ไม่รับคำขอที่สั่งให้ กสทช.เลื่อนเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 3 ชี้ไม่มีเหตุสมควรพอที่จะคุ้มครองชั่วคราว
วันนี้ (25 พ.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ สปริงนิวส์ ที่ขอให้ศาลสั่งห้ามคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และพวกรวม 3 ราย เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่งวดที่ 3 วันที่ 23 พ.ค. 2559 และงวดถัดๆ ไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุด และให้ปรับลดค่าธรรมเนียมเพิ่มโดยไม่ให้ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไขใบอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไม่ให้ กสทช.ใช้มาตรการทางปกครองอื่นใดมาบังคับกับบริษัท หรือพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาตบริษัท โดยศาลเห็นว่าคำขอดังกล่าวเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสทช.และพวกกระทำหรืองดเว้นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งนอกเหนือแตกต่างไปจากหลักเกณฑ์และอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองที่บริษัท สปริงนิวส์ฯ ไม่อาจมีคำขอให้ศาลก้าวล่วงเข้าไปออกคำสั่งใดๆ เช่นว่านั้นแทน กสทช.ได้ คำขอดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับการกระทำที่ กสทช.ถูกฟ้องในคดีนี้ และเป็นประเด็นเรื่องนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรเพียงพอที่ศาลจะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษามาใช้ได้
ทั้งนี้ คดีกล่าวบริษัท สปริงนิวส์ฯ ยื่นฟ้อง กสทช.กรณีไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล จงใจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้บริษัทหลงเชื่อเข้าร่วมประมูล และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการจนประสบภาวะขาดทุนในปัจจุบัน โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช.ชดใช้ค่าเสียหาย 321,770,594.49 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และชดใช้ค่าเสียหายกรณีที่บริษัทต้องรับภาระเพิ่มเติมในการบริหารจัดการเช่าโครงข่ายเพื่อเชื่อมโยงสัญญาณ เป็นเงินวันละ 70,243 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยะล 7.5 ต่อปีของเงินต้น และสั่งให้ กสทช.ออกมาตรการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ซึ่งศาลได้รับคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000052452
ศาลปกครองไม่รับคำขอสปริงนิวส์ ที่ให้สั่ง กสทช.เลื่อนเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
วันนี้ (25 พ.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ สปริงนิวส์ ที่ขอให้ศาลสั่งห้ามคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และพวกรวม 3 ราย เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่งวดที่ 3 วันที่ 23 พ.ค. 2559 และงวดถัดๆ ไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุด และให้ปรับลดค่าธรรมเนียมเพิ่มโดยไม่ให้ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไขใบอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งไม่ให้ กสทช.ใช้มาตรการทางปกครองอื่นใดมาบังคับกับบริษัท หรือพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาตบริษัท โดยศาลเห็นว่าคำขอดังกล่าวเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสทช.และพวกกระทำหรืองดเว้นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งนอกเหนือแตกต่างไปจากหลักเกณฑ์และอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองที่บริษัท สปริงนิวส์ฯ ไม่อาจมีคำขอให้ศาลก้าวล่วงเข้าไปออกคำสั่งใดๆ เช่นว่านั้นแทน กสทช.ได้ คำขอดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับการกระทำที่ กสทช.ถูกฟ้องในคดีนี้ และเป็นประเด็นเรื่องนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรเพียงพอที่ศาลจะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษามาใช้ได้
ทั้งนี้ คดีกล่าวบริษัท สปริงนิวส์ฯ ยื่นฟ้อง กสทช.กรณีไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล จงใจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้บริษัทหลงเชื่อเข้าร่วมประมูล และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการจนประสบภาวะขาดทุนในปัจจุบัน โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช.ชดใช้ค่าเสียหาย 321,770,594.49 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และชดใช้ค่าเสียหายกรณีที่บริษัทต้องรับภาระเพิ่มเติมในการบริหารจัดการเช่าโครงข่ายเพื่อเชื่อมโยงสัญญาณ เป็นเงินวันละ 70,243 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยะล 7.5 ต่อปีของเงินต้น และสั่งให้ กสทช.ออกมาตรการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ซึ่งศาลได้รับคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000052452