ฤาภาษีเรา ๆ ท่าน จะต้องเสียกับงานนี้
21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 9,058,906,853.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 90 วัน ให้กับกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างรวม 6 บริษัท ที่ยื่นฟ้องคพ.ในคดีโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ หรือโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวยืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ (12 มกราคม 2554) ที่ให้บังคับตามคำให้คพ. ชำระเงิน ค่าจ้าง ค่าเสียหาย รวมดอกเบี้ยให้กับ 6 บริษัทเป็นเงินจำนวน 4,983,342,383 บาท และ 31,035,780 เหรียญสหรัฐ พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 - วันที่คดีถึงที่สุด รวมทั้งให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่บริษัททั้ง 6
สำหรับ 6 บริษัทดังกล่าว ประกอบด้วย วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ,บริษัทสี่แสงการโยธา(๑๙๗๙)จำกัด ,บริษัทประยูรวิศว์ จำกัด ,บริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด ,บริษัทเกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ,และบริษัทสมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้งจำกัด
กล่าวสำหรับ โครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ นั้น กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี ให้ออกแบบและก่อสร้าง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2540 มีมูลค่าการก่อสร้างทั้งสิ้น 22,949,984,020 บาท
อย่างไรก็ตาม “อภิชัย ชวเจริญพันธุ์” อธิบดีคพ.ในขณะนั้น ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 ให้กิจการร่วมค้ายุติการก่อสร้างใดๆ ในโครงการ เพราะสัญญาตกเป็นโมฆะ เนื่องจาก คพ.ได้ทำนิติกรรมโดยสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นสาระแห่งนิติกรรม ในขณะที่กิจการร่วมค้าได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 98 % ทำให้บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างจำกัด กับพวก ซึ่งเป็นผู้รับจ้างตามโครงการ จึงได้ยื่นข้อเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการเรียกค่าเสียหายต่อคพ.
จากการตรวจสอบพบว่า กรณีโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย มีคดีอยู่ในชั้นศาล 3 คดี โดยก่อนหน้านี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้ “วัฒนา อัศวเหม” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมีความผิด โทษจำคุก 10 ปี
อีกคดีคือ คพ.ยื่นฟ้อง “วัฒนา” และพวกอีก 18 คน ความผิดฐานฉ้อโกงขายที่ดินคลองด่าน 1,900 ล้านบาท ซึ่งศาญอาญา พิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษชนะคดี แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโดยศาลระบุว่า ไม่มีพยานโจทก์ยืนยันว่า “วัฒนา” เข้ามาเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอศาลฎีกาพิจารณาคดี
ล่าสุดคือ วานนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คพ. ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 9 พันล้านบาท
หลังคำพิพากษา “วิเชียร จุ่งรุ่งเรือง” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า รู้สึกเครียด ที่คพ.จะต้องจ่ายเงิน แต่ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากเงินตั้งต้นสำหรับการฟ้องร้องประมาณ 6 พันล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 เป็นเวลา 10 ปี
“คพ.คงต้องยอมรับในคำตัดสินของศาล และตามขั้นตอนของราชการแล้วคงต้องขอเงินจากงบประมาณกลาง ไม่เกี่ยวข้องกับงบประจำปีของ คพ. ซึ่งมีอยู่ที่ปีละ 500 ล้านบาทเท่านั้น” อธิบดีคพ.ระบุ
นี่คือ ความคืบหน้าล่าสุดในคดีคลองด่าน มหากาพย์แห่งการทุจริตคอร์รัปชั่น
ขอบคุณภาพจาก:thaipbs.or.th
คำพิพากษาศาลปกครอง"คดีคลองด่าน” สั่งกรมควบคุมมลพิษจ่ายค่าโง่ 9 พันล.
21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 9,058,906,853.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 90 วัน ให้กับกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างรวม 6 บริษัท ที่ยื่นฟ้องคพ.ในคดีโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ หรือโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวยืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ (12 มกราคม 2554) ที่ให้บังคับตามคำให้คพ. ชำระเงิน ค่าจ้าง ค่าเสียหาย รวมดอกเบี้ยให้กับ 6 บริษัทเป็นเงินจำนวน 4,983,342,383 บาท และ 31,035,780 เหรียญสหรัฐ พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 - วันที่คดีถึงที่สุด รวมทั้งให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่บริษัททั้ง 6
สำหรับ 6 บริษัทดังกล่าว ประกอบด้วย วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ,บริษัทสี่แสงการโยธา(๑๙๗๙)จำกัด ,บริษัทประยูรวิศว์ จำกัด ,บริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด ,บริษัทเกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ,และบริษัทสมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้งจำกัด
กล่าวสำหรับ โครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ นั้น กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี ให้ออกแบบและก่อสร้าง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2540 มีมูลค่าการก่อสร้างทั้งสิ้น 22,949,984,020 บาท
อย่างไรก็ตาม “อภิชัย ชวเจริญพันธุ์” อธิบดีคพ.ในขณะนั้น ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 ให้กิจการร่วมค้ายุติการก่อสร้างใดๆ ในโครงการ เพราะสัญญาตกเป็นโมฆะ เนื่องจาก คพ.ได้ทำนิติกรรมโดยสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นสาระแห่งนิติกรรม ในขณะที่กิจการร่วมค้าได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 98 % ทำให้บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างจำกัด กับพวก ซึ่งเป็นผู้รับจ้างตามโครงการ จึงได้ยื่นข้อเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการเรียกค่าเสียหายต่อคพ.
จากการตรวจสอบพบว่า กรณีโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย มีคดีอยู่ในชั้นศาล 3 คดี โดยก่อนหน้านี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้ “วัฒนา อัศวเหม” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมีความผิด โทษจำคุก 10 ปี
อีกคดีคือ คพ.ยื่นฟ้อง “วัฒนา” และพวกอีก 18 คน ความผิดฐานฉ้อโกงขายที่ดินคลองด่าน 1,900 ล้านบาท ซึ่งศาญอาญา พิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษชนะคดี แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโดยศาลระบุว่า ไม่มีพยานโจทก์ยืนยันว่า “วัฒนา” เข้ามาเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอศาลฎีกาพิจารณาคดี
ล่าสุดคือ วานนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คพ. ชำระเงินค่าจ้างและค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 9 พันล้านบาท
หลังคำพิพากษา “วิเชียร จุ่งรุ่งเรือง” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า รู้สึกเครียด ที่คพ.จะต้องจ่ายเงิน แต่ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากเงินตั้งต้นสำหรับการฟ้องร้องประมาณ 6 พันล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 เป็นเวลา 10 ปี
“คพ.คงต้องยอมรับในคำตัดสินของศาล และตามขั้นตอนของราชการแล้วคงต้องขอเงินจากงบประมาณกลาง ไม่เกี่ยวข้องกับงบประจำปีของ คพ. ซึ่งมีอยู่ที่ปีละ 500 ล้านบาทเท่านั้น” อธิบดีคพ.ระบุ
นี่คือ ความคืบหน้าล่าสุดในคดีคลองด่าน มหากาพย์แห่งการทุจริตคอร์รัปชั่น
ขอบคุณภาพจาก:thaipbs.or.th