เนื้องอกมดลูกสไตล์
เราอายุ 31 ปีค่ะ
ไม่เคยตรวจภายในมาก่อน
กลัวการตรวจภายในค่ะ
ชีวิตปกติก็มีไปดื่มสังสรรค์บ้างนานๆทีค่ะ
จู่ๆ ช่วงหลังๆมานี้
พอดื่มแล้วปวดฉี่บ่อยมาก ก็ไม่ได้อั้นอะไรมากนะคะ แต่ปรากฎว่าไปถึงห้องน้ำ ดันฉี่ไม่ออก (คือไม่ออกเลย แต่ปวดมากกกกก)
เป็นอย่างนี้มาหลายๆครั้ง เราก็คิดว่าคงเพราะกระเพาะปัสสาวะอาจจะอักเสบ
จนกระทั่งคืนนึงที่ดื่มเบียร์
ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ เราปวดฉี่ก็เดินไปห้องน้ำเลยนะ แต่ปรากฎ ฉี่ไม่ออก!!!!
น้ำเต็มท้อง ท้องเป่งมากกกกกก
เบ่งก็แล้ว ยืนก็แล้ว ทำทุกวิถีทาง ก็ไม่ออก อดทนอยู่ เกือบ4ชม.
สุดท้าย!!!! ไปรพ. ค่ะ ....
หมอ : ท้องใหญ่เหมือนคนท้องเลย
แน่ใจว่าไม่ได้ท้องใช่มั้ยคะ!!!! มีแต่น้ำ จะลองฉี่เองดูก่อนมั้ยคะ
เรา : ไม่ท้องค่ะ ฉี่เท่าไหร่ก็ไม่ออกค่ะ
หมอ : งั้นต้องสวนกระเพาะฉี่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ เดี๋ยวกระเพาะแตก !!!!
เรา : ก็งงๆ
จุดจบสายแข็ง.... 555555
และหมอก็ให้หิ้วถุงฉี่กลับมานอนกอดที่บ้านอยู่ 4 วัน
จากนั้นรักษา
กระเพาะปัสสาวะอยู่ 2 อาทิตย์
พอครบกำหนด หมอนัดหลังจาก 2 อาทิตย์
หมอ : อายุยังน้อย น่าจะหายแล้วนะ
ทำไมยังฉี่ไม่ปกติ
งั้นลองอัลตราซาวด์ดู.....
นั่นไง ไม่ใช่เพราะกระเพาะปัสสาวะแล้วละ
คนไข้เปลี่ยนไปหาหมอสูติเลยครับ
หมอวางมือจากที่คลึงๆอัลตร้าซาวส์
แล้วไปจ้องจอ..... และวัดขนาด....
อ่อ !! เป็นเพราะเนื้องอก ที่มดลูก !!!
ขนาดประมาณ เกือบๆ 9 cm.
OMG พีคในพีค !!!!
ว่าแล้วทำไมลดนน. ส่วนอื่นๆลงหมด
เหลือพุงล่างเนี่ย ไม่ลง...
_____________________________________
เนื้องอกมดลูก คือ เนื้องอกชนิดหนึ่งที่ไม่เป็นอันตรายและมีโอกาสน้อยมากที่จะกลายเป็นมะเร็งมดลูก
เนื้องอกชนิดนี้มักเกิดในผู้หญิงวัย 30-40 ปีไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งผู้หญิงที่มีเนื้องอกบริเวณมดลูกอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรหากไม่รับการรักษา
ใครมีอาการดังต่อไปนี้
ควรไปตรวจบ้างนะคะ
-อ้วนลงพุง
-ปัสสาวะบ่อย
-มีประจำเดือนมากเกิน 1 สัปดาห์
-กดเจอก้อนเเข็งๆ
-ปวดหลัง ปวดขา
-ขับถ่ายยาก ท้องผูก
-เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
_____________________________________
ต่อไปเป็นลำดับขั้นการรักษาในเคสของเรา
(แต่ละคนการรักษาอาจจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งเนื้องอกที่เกิดขึ้นจ้า)
เนื้องอกเรา อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับมดลูก ซึ่งพอเนื้องอกใหญ่ขึ้น จึงทำให้ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ เลยทำให้กระเพาะปัสสาวะเก็บน้ำได้น้อย เลยทำให้ฉี่บ่อยๆ
เบื้องต้นหมอแนะนำ
( เรามีสิทธิ์ประกันสังคมและเข้ารักษารพ. รัฐค่ะ ) ( เราเลือกแบบที่ 1 ค่ะ )
1.ฉีดยาลดขนาดเนื้องอก เข้าที่สะโพกค่ะ
ยาตัวนี้ประกันสังคมไม่จ่ายค่ะ
ควักออกเองไป 8202 บาท
เมื่อลดขนาดแล้วก็มีสิทธิ์จะได้ผ่าตัดแบบส่องกล้อง
ข้อดี: คนไข้พักฟื้นเร็ว
ยาตัวนี้มีฤทธิ์ยาวนาน 3 เดือน
พอครบ 3 เดือน มาอัลตราซาวด์ พบขนาดลดลงไปจาก เกือบ 9 cm. เหลือ 5 cm.กว่า
ผลข้างเคียงยาฉีดลดขนาด
-อารมณ์แปรปรวนคล้ายๆวัยทอง
-เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว วูบๆวาบๆ
-ช่องคลอดก็จะแห้งๆ หน่อย 55555
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้แลกกับการให้เนื้องอกมันฝ่อลงก็คุ้ม!!!
2.ผ่าตัดเลย แต่การผ่า ณ ตอนที่ขนาดใหญ่ หมอจะต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้องและยกออกมาทั้งยวงเลย
ข้อดี : ง่ายสำหรับหมอ และไม่เปลืองตังกับยาฉีดอีก 8พันกว่าบาท
ข้อเสีย : คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นนาน
เรา: หมอคะ สุดท้ายแล้ว ต้องผ่าใช่มั้ย
หมอ : ใช่ค่ะ เราฉีดยาเพื่อให้ลดขนาดลงไป
จากนั้นก็วางแผนเพื่อผ่าตัดต่อไป ก่อนที่ยาหมดฤทธิ์และต้องมาฉีดยาต่อกันอีก
และการฉีดยาลดขนาดเยอะก็ไม่ดีต่อกระดูกค่ะ .....
_______________________________________
ณ วันนัดผ่า (หมอนัดเข้าห้องผ่าวันศุกร์)
แต่เราต้องมาเตรียมตัวก่อน 1 วัน
ก่อนเดินทางมารพ. ก็จัดห้องนอนสำหรับคนป่วยรอเลยค่ะ 5555 กวาดถูเช็ดฝุ่น ซักผ้า ได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน 55555
>3 ทุ่ม ก่อนวันผ่า ...
พยาบาลเข้ามาสั่งงดน้ำ-อาหาร
>4 ทุ่ม
สวนก้น ทำลำไส้ให้สะอาด
>7โมงเช้า
สวนก้น และสวนทำความสะอาดช่องคลอด
จากนั้น จะพาเราไปห้องผ่าตัด
ณ ห้องผ่าตัด
นอนรอ ใส่หมวกเขียวๆ
จะมีพยาบาลมาถามหลายคนมากกกก
ซักประวัติตัวเราเอง
แพ้ยามั้ย เคยมีลูกยัง เคยผ่าตัดไรมั้ย
มีฟันโยก มีฟันครอบมั้ย ดัดฟันมั้ย บลาๆ
จุดนี้ทำให้เราคลายเครียดไปได้เยอะเลยค่ะ
ระหว่างนอนรอนั้น....
มีเสียงตามสายสวดมนต์ตอนเช้าของภายในรพ. บอกเลย โคตรปลงอะ
กลัวสุด 5555
นโม ตัสสะ ยาวๆไปถึง สัพเพสัตตา
จากนั้นตามด้วย
บทความปลงจากเสียงเเม่ชี...
เอิ่ม !!!เราก็หลับตาฟัง ปล่อยจิตใจให้สบาย.....
ห้องผ่าตัดในคนเยอะแยะไปหมด จากนั้นก็ฉีดไรซักอย่างเข้าที่เส้น ความรู้สึกมันเย็นวาบจากมือเลื่อนมาจนถึงครึ่งแขน
และก็ใส่ที่ครอบจมูก
จากนั้น....ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยค่ะ....
______________________________________
เราหลับไป 7 ชม.
รู้สึกตัวอีกที มีพยาบาลมาเรียก หันไปมองนาฬิกา ประมาน4โมงเย็นได้
นอนโรงพยาบาลอยู่ เบ็ดเสร็จ 5 คืน
จ่ายเงินแค่ค่าห้องพิเศษไปคืนละ 1100
รวมเป็นเงิน 5500 บาท
แผลไม่ใหญ่ค่ะ แอบอยุ่ในรูสะดือ และมีอีก2จุด จุดละประมาน1เซน
หมอบอกว่า เอาเนื้องอกปั่นออกมาเป็นเกลียวคล้ายขนมโปเต้ แล้วออกทางสะดือค่ะ
_______________________________________
สุดท้ายนี้ ใครที่ไม่เคยตรวจภายใน
ไปตรวจเถอะค่า รู้ก่อนได้รักษาเร็ว
นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่า
ไม่เจ็บ....
ไม่ป่วย....
เป็นลาภอันประเสริฐ .......
เนื้องอกมดลูกสไตล์
เราอายุ 31 ปีค่ะ
ไม่เคยตรวจภายในมาก่อน
กลัวการตรวจภายในค่ะ
ชีวิตปกติก็มีไปดื่มสังสรรค์บ้างนานๆทีค่ะ
จู่ๆ ช่วงหลังๆมานี้
พอดื่มแล้วปวดฉี่บ่อยมาก ก็ไม่ได้อั้นอะไรมากนะคะ แต่ปรากฎว่าไปถึงห้องน้ำ ดันฉี่ไม่ออก (คือไม่ออกเลย แต่ปวดมากกกกก)
เป็นอย่างนี้มาหลายๆครั้ง เราก็คิดว่าคงเพราะกระเพาะปัสสาวะอาจจะอักเสบ
จนกระทั่งคืนนึงที่ดื่มเบียร์
ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ เราปวดฉี่ก็เดินไปห้องน้ำเลยนะ แต่ปรากฎ ฉี่ไม่ออก!!!!
น้ำเต็มท้อง ท้องเป่งมากกกกกก
เบ่งก็แล้ว ยืนก็แล้ว ทำทุกวิถีทาง ก็ไม่ออก อดทนอยู่ เกือบ4ชม.
สุดท้าย!!!! ไปรพ. ค่ะ ....
หมอ : ท้องใหญ่เหมือนคนท้องเลย
แน่ใจว่าไม่ได้ท้องใช่มั้ยคะ!!!! มีแต่น้ำ จะลองฉี่เองดูก่อนมั้ยคะ
เรา : ไม่ท้องค่ะ ฉี่เท่าไหร่ก็ไม่ออกค่ะ
หมอ : งั้นต้องสวนกระเพาะฉี่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ เดี๋ยวกระเพาะแตก !!!!
เรา : ก็งงๆ
จุดจบสายแข็ง.... 555555
และหมอก็ให้หิ้วถุงฉี่กลับมานอนกอดที่บ้านอยู่ 4 วัน
จากนั้นรักษา
กระเพาะปัสสาวะอยู่ 2 อาทิตย์
พอครบกำหนด หมอนัดหลังจาก 2 อาทิตย์
หมอ : อายุยังน้อย น่าจะหายแล้วนะ
ทำไมยังฉี่ไม่ปกติ
งั้นลองอัลตราซาวด์ดู.....
นั่นไง ไม่ใช่เพราะกระเพาะปัสสาวะแล้วละ
คนไข้เปลี่ยนไปหาหมอสูติเลยครับ
หมอวางมือจากที่คลึงๆอัลตร้าซาวส์
แล้วไปจ้องจอ..... และวัดขนาด....
อ่อ !! เป็นเพราะเนื้องอก ที่มดลูก !!!
ขนาดประมาณ เกือบๆ 9 cm.
OMG พีคในพีค !!!!
ว่าแล้วทำไมลดนน. ส่วนอื่นๆลงหมด
เหลือพุงล่างเนี่ย ไม่ลง...
_____________________________________
เนื้องอกมดลูก คือ เนื้องอกชนิดหนึ่งที่ไม่เป็นอันตรายและมีโอกาสน้อยมากที่จะกลายเป็นมะเร็งมดลูก
เนื้องอกชนิดนี้มักเกิดในผู้หญิงวัย 30-40 ปีไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งผู้หญิงที่มีเนื้องอกบริเวณมดลูกอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรหากไม่รับการรักษา
ใครมีอาการดังต่อไปนี้
ควรไปตรวจบ้างนะคะ
-อ้วนลงพุง
-ปัสสาวะบ่อย
-มีประจำเดือนมากเกิน 1 สัปดาห์
-กดเจอก้อนเเข็งๆ
-ปวดหลัง ปวดขา
-ขับถ่ายยาก ท้องผูก
-เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
_____________________________________
ต่อไปเป็นลำดับขั้นการรักษาในเคสของเรา
(แต่ละคนการรักษาอาจจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งเนื้องอกที่เกิดขึ้นจ้า)
เนื้องอกเรา อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับมดลูก ซึ่งพอเนื้องอกใหญ่ขึ้น จึงทำให้ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ เลยทำให้กระเพาะปัสสาวะเก็บน้ำได้น้อย เลยทำให้ฉี่บ่อยๆ
เบื้องต้นหมอแนะนำ
( เรามีสิทธิ์ประกันสังคมและเข้ารักษารพ. รัฐค่ะ ) ( เราเลือกแบบที่ 1 ค่ะ )
1.ฉีดยาลดขนาดเนื้องอก เข้าที่สะโพกค่ะ
ยาตัวนี้ประกันสังคมไม่จ่ายค่ะ
ควักออกเองไป 8202 บาท
เมื่อลดขนาดแล้วก็มีสิทธิ์จะได้ผ่าตัดแบบส่องกล้อง
ข้อดี: คนไข้พักฟื้นเร็ว
ยาตัวนี้มีฤทธิ์ยาวนาน 3 เดือน
พอครบ 3 เดือน มาอัลตราซาวด์ พบขนาดลดลงไปจาก เกือบ 9 cm. เหลือ 5 cm.กว่า
ผลข้างเคียงยาฉีดลดขนาด
-อารมณ์แปรปรวนคล้ายๆวัยทอง
-เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว วูบๆวาบๆ
-ช่องคลอดก็จะแห้งๆ หน่อย 55555
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้แลกกับการให้เนื้องอกมันฝ่อลงก็คุ้ม!!!
2.ผ่าตัดเลย แต่การผ่า ณ ตอนที่ขนาดใหญ่ หมอจะต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้องและยกออกมาทั้งยวงเลย
ข้อดี : ง่ายสำหรับหมอ และไม่เปลืองตังกับยาฉีดอีก 8พันกว่าบาท
ข้อเสีย : คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นนาน
เรา: หมอคะ สุดท้ายแล้ว ต้องผ่าใช่มั้ย
หมอ : ใช่ค่ะ เราฉีดยาเพื่อให้ลดขนาดลงไป
จากนั้นก็วางแผนเพื่อผ่าตัดต่อไป ก่อนที่ยาหมดฤทธิ์และต้องมาฉีดยาต่อกันอีก
และการฉีดยาลดขนาดเยอะก็ไม่ดีต่อกระดูกค่ะ .....
_______________________________________
ณ วันนัดผ่า (หมอนัดเข้าห้องผ่าวันศุกร์)
แต่เราต้องมาเตรียมตัวก่อน 1 วัน
ก่อนเดินทางมารพ. ก็จัดห้องนอนสำหรับคนป่วยรอเลยค่ะ 5555 กวาดถูเช็ดฝุ่น ซักผ้า ได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน 55555
>3 ทุ่ม ก่อนวันผ่า ...
พยาบาลเข้ามาสั่งงดน้ำ-อาหาร
>4 ทุ่ม
สวนก้น ทำลำไส้ให้สะอาด
>7โมงเช้า
สวนก้น และสวนทำความสะอาดช่องคลอด
จากนั้น จะพาเราไปห้องผ่าตัด
ณ ห้องผ่าตัด
นอนรอ ใส่หมวกเขียวๆ
จะมีพยาบาลมาถามหลายคนมากกกก
ซักประวัติตัวเราเอง
แพ้ยามั้ย เคยมีลูกยัง เคยผ่าตัดไรมั้ย
มีฟันโยก มีฟันครอบมั้ย ดัดฟันมั้ย บลาๆ
จุดนี้ทำให้เราคลายเครียดไปได้เยอะเลยค่ะ
ระหว่างนอนรอนั้น....
มีเสียงตามสายสวดมนต์ตอนเช้าของภายในรพ. บอกเลย โคตรปลงอะ
กลัวสุด 5555
นโม ตัสสะ ยาวๆไปถึง สัพเพสัตตา
จากนั้นตามด้วย
บทความปลงจากเสียงเเม่ชี...
เอิ่ม !!!เราก็หลับตาฟัง ปล่อยจิตใจให้สบาย.....
ห้องผ่าตัดในคนเยอะแยะไปหมด จากนั้นก็ฉีดไรซักอย่างเข้าที่เส้น ความรู้สึกมันเย็นวาบจากมือเลื่อนมาจนถึงครึ่งแขน
และก็ใส่ที่ครอบจมูก
จากนั้น....ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยค่ะ....
______________________________________
เราหลับไป 7 ชม.
รู้สึกตัวอีกที มีพยาบาลมาเรียก หันไปมองนาฬิกา ประมาน4โมงเย็นได้
นอนโรงพยาบาลอยู่ เบ็ดเสร็จ 5 คืน
จ่ายเงินแค่ค่าห้องพิเศษไปคืนละ 1100
รวมเป็นเงิน 5500 บาท
แผลไม่ใหญ่ค่ะ แอบอยุ่ในรูสะดือ และมีอีก2จุด จุดละประมาน1เซน
หมอบอกว่า เอาเนื้องอกปั่นออกมาเป็นเกลียวคล้ายขนมโปเต้ แล้วออกทางสะดือค่ะ
_______________________________________
สุดท้ายนี้ ใครที่ไม่เคยตรวจภายใน
ไปตรวจเถอะค่า รู้ก่อนได้รักษาเร็ว
นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่า
ไม่เจ็บ....
ไม่ป่วย....
เป็นลาภอันประเสริฐ .......