สติที่เป็นกุศลมีเฉพาะในตำรา
เป็นสติโลกียะที่เป็นกุศล และโลกุตร
เพราะต้องการสอนให้คนทำความดี
แต่ความเป็นจริงในโลกนี้
มีทั้งขาวและดำ
มีทั้งมิจฉาสติ และสัมมาสติ
แต่ตำราไม่พูดถึงมิจฉาสติ
เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์
เปลืองเวลามาสอน
เพราะในทางชั่ว
ไม่ต้องสอนทุกคนก็ทำชั่วอยู่แล้ว
ความดีทำยากความชั่วทำง่าย
แต่พวกอ่านตำราแบบไม่มีวิจารณญาณ
จะคิดว่าสติมีแต่กุศล
ในโลกนี้ไม่มีสติที่เป็นอกุศล
มรรคย่อมมีมิจฉามรรค และสัมมามรรค
ฑิฏฐิก็มีมิจฉาฑิฏฐิและสัมมาฑิฏฐิ
เมื่อเห็นผิด ย่อมคิดผิด มีความเพียรผิด
ปฏิบัติผิด วาจาผิด เลี้ยงชีพผิด สติผิด สมาธิผิด
เกิดปัญญาไปในทางที่ผิดคือมีปัญญาทราม
คนที่มีมิจฉาฑิฏฐิ จะไม่มี
ศีล สมาธิ ปัญญา
สติฝ่ายดีมีเฉพาะในตำรา
เป็นสติโลกียะที่เป็นกุศล และโลกุตร
เพราะต้องการสอนให้คนทำความดี
แต่ความเป็นจริงในโลกนี้
มีทั้งขาวและดำ
มีทั้งมิจฉาสติ และสัมมาสติ
แต่ตำราไม่พูดถึงมิจฉาสติ
เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์
เปลืองเวลามาสอน
เพราะในทางชั่ว
ไม่ต้องสอนทุกคนก็ทำชั่วอยู่แล้ว
ความดีทำยากความชั่วทำง่าย
แต่พวกอ่านตำราแบบไม่มีวิจารณญาณ
จะคิดว่าสติมีแต่กุศล
ในโลกนี้ไม่มีสติที่เป็นอกุศล
มรรคย่อมมีมิจฉามรรค และสัมมามรรค
ฑิฏฐิก็มีมิจฉาฑิฏฐิและสัมมาฑิฏฐิ
เมื่อเห็นผิด ย่อมคิดผิด มีความเพียรผิด
ปฏิบัติผิด วาจาผิด เลี้ยงชีพผิด สติผิด สมาธิผิด
เกิดปัญญาไปในทางที่ผิดคือมีปัญญาทราม
คนที่มีมิจฉาฑิฏฐิ จะไม่มี
ศีล สมาธิ ปัญญา