กระทู้นี้ยาวหน่อยนะคะ ขอเกริ่นหน่อยละกัน
เราพึ่งจบใหม่ไม่นานมานี้เอง จบเอกการโรงแรมเลย และเราก็ได้ทำงานจริงจังที่แรกที่ โรงแรม 3 ดาวที่นึง ตำแหน่ง gsa (guest service agent) ค่ะ ตอนเราได้ทำงานที่นี้เราก็ดีใจมากเลย เพราะเราอยากทำตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ฝึกงานครั้งแรกแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ฝึกตำแหน่งนี้เลยเพราะเราไม่เก่งอังกฤษ ไม่เก่งมากๆ HR เลยไม่ให้เราฝึกเป็น gsa ซึ่งเราก็จบมาได้ไงไม่รู้5555555555 แต่ที่อยากทำตำแหน่งนี้เพราะอยากฝึกภาษาอังกฤษค่ะ เลยเลือกที่จะเก็บประสบการณ์จากโรงแรมเล็กๆก่อน และคิดว่าตำแหน่งนี้คงยืนสวยๆ มีชุดยูนิฟอร์มสวยๆให้ใส่ (แต่รู้ละค่ะ ว่ามันไม่ใช่เลย5555555) เราก็ภาวนาเสมอว่าขอให้เจอรุ่นพี่ใจดี และพร้อมที่จะสอนเราเสมอ เพราะเราเป็นคนหัวช้ามากบวกกับเราไม่เคยมีประสบการณ์เป็น gsa มาก่อนเลย พอเราได้มาทำงานจริงๆ ก็เป็นไปตามคาดเลยค่ะ พี่ๆที่นั้นใจดีเป็นกันเองมากๆค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ555555555 ด้วยความที่เราก็คิดว่าโรงแรม 3 ดาวคงไม่มีอะไรมากมั้ง (หมายถึงภาษาอังกฤษไม่ต้องเพอเฟคขนาดนั้นมั้ง) แต่ไม่จริงค่ะ พี่ๆที่ทำงานที่นี้ เก่งทุกคน จบนอกมาทั้งนั้น มันทำให้เรารู้สึกว่าโหหห อยากเป็นเหมือนพี่ๆเขาจัง เวลาพี่ๆเขาทำงาน พี่ๆเก่งมากกก เท่สุดๆๆ คิดเสมอว่าเราจะเป็นแบบเขาได้ไหมนะ คิดไปคิดมา แล้วถ้าเราทำไม่ได้ละ อังกฤษก็ห่วยแตกมาก ฟังไม่รู้เรื่อง พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง โปรแกรมก็ทำไม่เป็น ไปๆมาๆ กลับกลายเป็นตัวเราที่กดดันตัวเองไปซะแล้ว จากความคิดที่ว่า เป็น gsa นี่มันเท่จริงๆ กลับกลายเป็น มันใช่อาชีพที่เราอยากทำจริงๆหรอวะ ทำงานไปสัก 1 สัปดาห์ เราก็เริ่มเข้าใจการทำงานได้นิดหน่อย พอ check-in check-out ได้ แต่ส่วนใหญ่พี่ๆจะเป็นคนทำให้ ส่วนเราก็ support พี่ๆเขาอย่างเดียว อยู่มาวันนึง เราเข้ากะทำงานกับพี่อีกคนนึง พี่คนนี้แกทำงานที่นี่มานานค่ะ พี่แกเก่งมาก จบนอกมาด้วย วันนั้นเราก็ได้ยืนเคาน์เตอร์คนเดียว ส่วนพี่อีกคนแกยุ่งๆกับเอกสารเล็กน้อย เราจึงเหมือนทำงานคนเดียว ณ ตอนนั้นด้วยความที่เรา โคตรตื่นเต้นเลยค่ะและก็ประหม่าสุดๆ อยู่ๆแขกฝรั่งเขามาถาม ตอนนั้นคือแบบ
แล้วแปลไม่ออก ทำไงดี เพราะด้วยความที่เราตื่นเต้น เหมือนเราหูหนวกไปชั่วขณะนึงเลย แล้วก็ไม่เข้าใจ เราคิดว่า กูจะทำไงดีๆ เราเลยไปเรียกพี่ให้มาช่วยฟัง พี่แกก็ช่วย เราก็แบบขอบคุณมากค่ะพี่ ในใจเราตอนนั้น พี่แกก็ยุ่งอยู่ละ ยังจะให้มาช่วยอีก เราต้องแบ่งเบาภาระพี่เขาให้ได้ แต่มันไม่ใช่เลยค่ะ... รู้ไหมคะ วันนั้นทั้งวัน เราทำผิดพลาดทั้งวันเลย คีย์นู่นนี่ผิด รับโทรศัพท์ฟังแขกไม่รู้เรื่อง รูดเครดิตการด์ก็ทำไม่ได้ มีพี่คนนี้แก แก้ไขปัญหาให้เราตลอด แล้วหน้าพี่แกคือจิกมากค่ะ คือแบบถ้าด่าอิดอกได้คงด่าไปแล้ว55555555 แกก็บอกเราว่า อย่าทำผิดบ่อยนะคะ เพราะเรามีกันแค่สองคน น้ำเสียงนิ่งๆแต่สายตาฆ่าเราไปแล้วค่ะ เราก็ขอโทษค่ะพี่ เราเฟลทั้งวันเลย จนเราเบรค เราก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยค่ะ คือจากที่เราอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระพี่เขา กลับกลายเป็นตัวถ่วงพี่เขาไปซะได้ เรา down เลยค่ะทั้งวัน พี่เขาก็บอกกับพี่ๆคนอื่นว่าเออ น้องดูลนๆเหนื่อยๆ (เราแอบได้ยินมา) ซึ่งเราก็คิดว่าพี่เขาจะด่าเราลับหลังแต่ไม่ใช่ เรายอมรับผิดค่ะ เราพลาดเอง เรามองหน้าพี่เขาไม่ติดเลยค่ะ เรารู้สึกเรากดดันตัวเองมาก เราคิดเสมอว่าเออเราไม่ใช่เด็กฝึกงานละนะ เรากินเงินเดือนเขาแล้วนะ ทำไมทำตัวให้เป็นภาระแบบนี้ เราร้องไห้หนักมากค่ะ เดินกลับบ้านทั้งๆที่น้ำตาไหลเลย โคตรเจ็บปวด จากวันนั้นเรา down เลยค่ะจากที่ร่าเริง กลับกลายเป็นคนหม่นหมอง ตื่นเช้าในแต่ละวัน เราก็ไม่อยากไปทำงานเลยค่ะ คิดทุกเช้าว่า วันนี้กูจะทำไรผิดอีกหรือเปล่า เศร้ามากค่ะ จนถึงทุกวันนี้เวลาเขากะกับพี่เขาคนนั้นคือ ไม่ค่อยคุยกันเลย และแบบเกร็งเลยค่ะ กลัวว่าเราจะทำไรผิดบ้าง เราจะโดนอะไรอีก เราจะทำไหวหรือเปล่า ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยค่ะ เราเริ่มไม่เห็นอนาคตตัวเองว่าจะทำงานที่นี้เหมือนพวกพี่ๆเขาได้หรือเปล่า เราเป็นคนคิดมากค่ะ เราอยากเก่งภาษาอังกฤษมากกว่านี้ บางทีก็แอบคิดว่าพี่ๆจะหาว่าเราโง่หรือเปล่า จบป.ตรี ด้านโรงแรมมา แต่ภาษาอังกฤษห่วยแตกมาก ทุกวันนี้คือเริ่มเปิดฟังอังกฤษในยูทูบมากขึ้น (เราฟังVOA Learning English ช่องนี้ฟังเข้าใจมากค่ะ พูดช้าและชัดแนะนำเลย5555555) แต่มันก็ทำให้คิดว่าเอะ ฟังมากๆมันจะทำให้เราพูดได้จริงๆหรอ เราฟังเข้าใจนะคะแต่ไม่รู้จะพูดได้จริงหรือเปล่า เราจะเก่งขึ้นบ้างไหม หรือว่าเราจะยอมแพ้ เราจะออกจากการทำงานเลย หนีอังกฤษ
แต่เราก็ไม่อยากอ่อนแอค่ะ เราอยากเป็นคนเข้มแข็ง เราก็ไม่อยากเป็นคนที่หนีปัญหา หางานที่ใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง เราคิดวนอย่างงี้ ขัดแย้งกันเองในหัว(เหมือนคนบ้า5555555) เราก็คิดว่าเราจะทำให้เต็มที่ละกัน โดนด่าหรือโดนนินทาอะไรก็อย่าไปสนเลย อย่างมากก็แค่ไม่ผ่านโปร5555555555 แต่เราก็คาดหวังเสมอนะคะว่าเราจะทำงานที่นี้อย่างมีความสุข มีพี่ๆที่ทำให้เราอยากไปทำงานในแต่ละวันได้ แก้ไขปัญหาให้แขกได้ และเป็นคนเก่งเหมือนพี่ๆเขาได้ค่ะ
ระบายยาวมากค่ะ55555555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เราแค่อยากจะรู้ว่ามีคนคิดแบบเราไหม กดดันตัวเองบ้างหรือเปล่า คิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงไหม หรือว่าเราคิดมากไปเองคนเดียว5555555555 ก็อยากให้แชร์ๆประสบการณ์กันนะคะ (เผื่อให้จขกทมีกำลังใจในการทำงานในแต่ละวันบ้าง555555)
ปล. ถ้าสะกดคำผิด ใช้ภาษาผิดหรืออ่านไม่เข้าใจต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะนี้เป็นคนพูดไม่รู้เรื่องค่ะ อังกฤษแย่ไม่พอภาษาไทยก็พูดไม่รู้เรื่องค่ะ เศร้า!555555555
เด็กจบใหม่กับงานโรงแรมของเขา!!
เราพึ่งจบใหม่ไม่นานมานี้เอง จบเอกการโรงแรมเลย และเราก็ได้ทำงานจริงจังที่แรกที่ โรงแรม 3 ดาวที่นึง ตำแหน่ง gsa (guest service agent) ค่ะ ตอนเราได้ทำงานที่นี้เราก็ดีใจมากเลย เพราะเราอยากทำตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ฝึกงานครั้งแรกแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ฝึกตำแหน่งนี้เลยเพราะเราไม่เก่งอังกฤษ ไม่เก่งมากๆ HR เลยไม่ให้เราฝึกเป็น gsa ซึ่งเราก็จบมาได้ไงไม่รู้5555555555 แต่ที่อยากทำตำแหน่งนี้เพราะอยากฝึกภาษาอังกฤษค่ะ เลยเลือกที่จะเก็บประสบการณ์จากโรงแรมเล็กๆก่อน และคิดว่าตำแหน่งนี้คงยืนสวยๆ มีชุดยูนิฟอร์มสวยๆให้ใส่ (แต่รู้ละค่ะ ว่ามันไม่ใช่เลย5555555) เราก็ภาวนาเสมอว่าขอให้เจอรุ่นพี่ใจดี และพร้อมที่จะสอนเราเสมอ เพราะเราเป็นคนหัวช้ามากบวกกับเราไม่เคยมีประสบการณ์เป็น gsa มาก่อนเลย พอเราได้มาทำงานจริงๆ ก็เป็นไปตามคาดเลยค่ะ พี่ๆที่นั้นใจดีเป็นกันเองมากๆค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกคนนะ555555555 ด้วยความที่เราก็คิดว่าโรงแรม 3 ดาวคงไม่มีอะไรมากมั้ง (หมายถึงภาษาอังกฤษไม่ต้องเพอเฟคขนาดนั้นมั้ง) แต่ไม่จริงค่ะ พี่ๆที่ทำงานที่นี้ เก่งทุกคน จบนอกมาทั้งนั้น มันทำให้เรารู้สึกว่าโหหห อยากเป็นเหมือนพี่ๆเขาจัง เวลาพี่ๆเขาทำงาน พี่ๆเก่งมากกก เท่สุดๆๆ คิดเสมอว่าเราจะเป็นแบบเขาได้ไหมนะ คิดไปคิดมา แล้วถ้าเราทำไม่ได้ละ อังกฤษก็ห่วยแตกมาก ฟังไม่รู้เรื่อง พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง โปรแกรมก็ทำไม่เป็น ไปๆมาๆ กลับกลายเป็นตัวเราที่กดดันตัวเองไปซะแล้ว จากความคิดที่ว่า เป็น gsa นี่มันเท่จริงๆ กลับกลายเป็น มันใช่อาชีพที่เราอยากทำจริงๆหรอวะ ทำงานไปสัก 1 สัปดาห์ เราก็เริ่มเข้าใจการทำงานได้นิดหน่อย พอ check-in check-out ได้ แต่ส่วนใหญ่พี่ๆจะเป็นคนทำให้ ส่วนเราก็ support พี่ๆเขาอย่างเดียว อยู่มาวันนึง เราเข้ากะทำงานกับพี่อีกคนนึง พี่คนนี้แกทำงานที่นี่มานานค่ะ พี่แกเก่งมาก จบนอกมาด้วย วันนั้นเราก็ได้ยืนเคาน์เตอร์คนเดียว ส่วนพี่อีกคนแกยุ่งๆกับเอกสารเล็กน้อย เราจึงเหมือนทำงานคนเดียว ณ ตอนนั้นด้วยความที่เรา โคตรตื่นเต้นเลยค่ะและก็ประหม่าสุดๆ อยู่ๆแขกฝรั่งเขามาถาม ตอนนั้นคือแบบ แล้วแปลไม่ออก ทำไงดี เพราะด้วยความที่เราตื่นเต้น เหมือนเราหูหนวกไปชั่วขณะนึงเลย แล้วก็ไม่เข้าใจ เราคิดว่า กูจะทำไงดีๆ เราเลยไปเรียกพี่ให้มาช่วยฟัง พี่แกก็ช่วย เราก็แบบขอบคุณมากค่ะพี่ ในใจเราตอนนั้น พี่แกก็ยุ่งอยู่ละ ยังจะให้มาช่วยอีก เราต้องแบ่งเบาภาระพี่เขาให้ได้ แต่มันไม่ใช่เลยค่ะ... รู้ไหมคะ วันนั้นทั้งวัน เราทำผิดพลาดทั้งวันเลย คีย์นู่นนี่ผิด รับโทรศัพท์ฟังแขกไม่รู้เรื่อง รูดเครดิตการด์ก็ทำไม่ได้ มีพี่คนนี้แก แก้ไขปัญหาให้เราตลอด แล้วหน้าพี่แกคือจิกมากค่ะ คือแบบถ้าด่าอิดอกได้คงด่าไปแล้ว55555555 แกก็บอกเราว่า อย่าทำผิดบ่อยนะคะ เพราะเรามีกันแค่สองคน น้ำเสียงนิ่งๆแต่สายตาฆ่าเราไปแล้วค่ะ เราก็ขอโทษค่ะพี่ เราเฟลทั้งวันเลย จนเราเบรค เราก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยค่ะ คือจากที่เราอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระพี่เขา กลับกลายเป็นตัวถ่วงพี่เขาไปซะได้ เรา down เลยค่ะทั้งวัน พี่เขาก็บอกกับพี่ๆคนอื่นว่าเออ น้องดูลนๆเหนื่อยๆ (เราแอบได้ยินมา) ซึ่งเราก็คิดว่าพี่เขาจะด่าเราลับหลังแต่ไม่ใช่ เรายอมรับผิดค่ะ เราพลาดเอง เรามองหน้าพี่เขาไม่ติดเลยค่ะ เรารู้สึกเรากดดันตัวเองมาก เราคิดเสมอว่าเออเราไม่ใช่เด็กฝึกงานละนะ เรากินเงินเดือนเขาแล้วนะ ทำไมทำตัวให้เป็นภาระแบบนี้ เราร้องไห้หนักมากค่ะ เดินกลับบ้านทั้งๆที่น้ำตาไหลเลย โคตรเจ็บปวด จากวันนั้นเรา down เลยค่ะจากที่ร่าเริง กลับกลายเป็นคนหม่นหมอง ตื่นเช้าในแต่ละวัน เราก็ไม่อยากไปทำงานเลยค่ะ คิดทุกเช้าว่า วันนี้กูจะทำไรผิดอีกหรือเปล่า เศร้ามากค่ะ จนถึงทุกวันนี้เวลาเขากะกับพี่เขาคนนั้นคือ ไม่ค่อยคุยกันเลย และแบบเกร็งเลยค่ะ กลัวว่าเราจะทำไรผิดบ้าง เราจะโดนอะไรอีก เราจะทำไหวหรือเปล่า ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยค่ะ เราเริ่มไม่เห็นอนาคตตัวเองว่าจะทำงานที่นี้เหมือนพวกพี่ๆเขาได้หรือเปล่า เราเป็นคนคิดมากค่ะ เราอยากเก่งภาษาอังกฤษมากกว่านี้ บางทีก็แอบคิดว่าพี่ๆจะหาว่าเราโง่หรือเปล่า จบป.ตรี ด้านโรงแรมมา แต่ภาษาอังกฤษห่วยแตกมาก ทุกวันนี้คือเริ่มเปิดฟังอังกฤษในยูทูบมากขึ้น (เราฟังVOA Learning English ช่องนี้ฟังเข้าใจมากค่ะ พูดช้าและชัดแนะนำเลย5555555) แต่มันก็ทำให้คิดว่าเอะ ฟังมากๆมันจะทำให้เราพูดได้จริงๆหรอ เราฟังเข้าใจนะคะแต่ไม่รู้จะพูดได้จริงหรือเปล่า เราจะเก่งขึ้นบ้างไหม หรือว่าเราจะยอมแพ้ เราจะออกจากการทำงานเลย หนีอังกฤษ แต่เราก็ไม่อยากอ่อนแอค่ะ เราอยากเป็นคนเข้มแข็ง เราก็ไม่อยากเป็นคนที่หนีปัญหา หางานที่ใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง เราคิดวนอย่างงี้ ขัดแย้งกันเองในหัว(เหมือนคนบ้า5555555) เราก็คิดว่าเราจะทำให้เต็มที่ละกัน โดนด่าหรือโดนนินทาอะไรก็อย่าไปสนเลย อย่างมากก็แค่ไม่ผ่านโปร5555555555 แต่เราก็คาดหวังเสมอนะคะว่าเราจะทำงานที่นี้อย่างมีความสุข มีพี่ๆที่ทำให้เราอยากไปทำงานในแต่ละวันได้ แก้ไขปัญหาให้แขกได้ และเป็นคนเก่งเหมือนพี่ๆเขาได้ค่ะ
ระบายยาวมากค่ะ55555555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เราแค่อยากจะรู้ว่ามีคนคิดแบบเราไหม กดดันตัวเองบ้างหรือเปล่า คิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงไหม หรือว่าเราคิดมากไปเองคนเดียว5555555555 ก็อยากให้แชร์ๆประสบการณ์กันนะคะ (เผื่อให้จขกทมีกำลังใจในการทำงานในแต่ละวันบ้าง555555)
ปล. ถ้าสะกดคำผิด ใช้ภาษาผิดหรืออ่านไม่เข้าใจต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะนี้เป็นคนพูดไม่รู้เรื่องค่ะ อังกฤษแย่ไม่พอภาษาไทยก็พูดไม่รู้เรื่องค่ะ เศร้า!555555555