ตอนนี้ผมอายุ 33 ย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วน่าจะเป็นยุคต้มยำกุ้ง ที่ผมย้อนแค่ 20 ปีเพราะผมพอจะจำภาพในอดีตได้
ผมอยู่สมุทรสาคร พื้นที่ทำนาเกลือ 20 ปีที่แล้วยังทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ หนักไปทางทำนาเกลือ แต่ที่บูมที่สุดในยุคนั้นคือ การเลี้ยงกุ้งขาว แต่ก็มีชาวบ้านส่วนน้อยเท่านั้นที่ร่ำรวยจากการเลี้ยงกุ้ง และก็รวยในเวลาสั้นๆ น้ำเสีย ระบบนิเวศน์ล้มสลาย การเลี้ยงกุ้งจึงมีต้นทุนสูงและเลิกเลี้ยงกันไป
ในยุคนั้นบ้านผมเริ่มต้นค้าขาย แต่ก็ขายพออยู่ได้ เงินทองในยุคนั้นจัดว่าหายาก ผมยังทันพวกของเล่นพื้นบ้าน และการละเล่นพื้นบ้าน ปิดแอบ กระต่ายขาเดียว ลูกแก้ว ว่าว ม้าก้านกล้วย เสื้อไม่มีเสื้อผ้าสมัยใหม่มากนัก ชุดสองชุดที่ซื้อไว้ใส่ไปงานบวชงานแต่งญาติ ความเจริญไปได้ไกลที่สุดคือตัวเมืองโดยรถเมล์ รถไฟเท่านั้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดต้องการสื่อว่า ยุคนั้นเงินหายาก ข้าวของสมัยใหม่แพง แต่ของกินของใช้ในชีวิตประจำวันถูก เครือญาติทุกคนฐานะไม่ได้ต่างกัน ไม่มีใกว่าใคร ทุกคนถ้อยที่ถ้อยอาศัย ไม่มีการเบียดเบียนแก่งแย่ง ไม่มีเรื่องบาดหมาง ไม่มีการทะเลาะ ยืมเงิน ขัดผลประโยชน์ และที่สำคัญทุกคนมีเวลาว่างมาก ตอนนั้นผมจำได้ว่าครอบครัวผมไปเที่ยวกันบ่อยมาก และไปเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่ หลายครอบครัว
แต่ความสัมพันธ์แบบนี้มันเปลี่ยนไป หลังจากที่ความเจริญ และอุตสาหกรรมเข้ามาในชุมชนผม เงินหาง่ายขึ้น อาชีพให้ทำเยอะแยะ พวกเรามีข้าวของเครื่องใช้ รถ บ้าน มือถือราคาแพงๆใช้ ทำธุรกิจค้าขายกับโรงงานและลูกจ้างในโรงงาน ความขัดแย้งเรื่องเงินๆทองๆมากขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจค้าขายเริ่มมี เริ่มทะเลาะ เริ่มมองหน้ากันไม่ติด เริ่มมีความระแวง มีกำแพงในใจระหว่างกัน เริ่มวางความสัมพันธ์บนผลประโยชน์ เริ่มแบ่งพวกใครพวกมัน
ความสัมพันธ์แบบนี้ทำให้ผมเบื่อบ้าน รู้สึกว่าญาติพี่น้องบ้างคนควรอยู่ห่างๆ สนิทมากก็ไม่เกิดประโยชน์ ความจริงใจแทบไม่มี หรือไม่ต้องสนิมมาก ขอแค่มีเงินทุกคนก็พร้อมที่จะเข้ามา และถ้าไม่มีเงินทุกคนก็พร้อมจะจากไป หรือรู้ว่าเรามีเงินแต่เราไม่พร้อมจะให้ก็ไม่พอใจ ผมเบื่อและไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้เลย บ้านอื่น ครอบครัวอื่นเป็นกันมั้ยครับ
20 ปีผ่านไปความสัมพันธ์เครือญาติไม่เหมือนเดิม
ผมอยู่สมุทรสาคร พื้นที่ทำนาเกลือ 20 ปีที่แล้วยังทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ หนักไปทางทำนาเกลือ แต่ที่บูมที่สุดในยุคนั้นคือ การเลี้ยงกุ้งขาว แต่ก็มีชาวบ้านส่วนน้อยเท่านั้นที่ร่ำรวยจากการเลี้ยงกุ้ง และก็รวยในเวลาสั้นๆ น้ำเสีย ระบบนิเวศน์ล้มสลาย การเลี้ยงกุ้งจึงมีต้นทุนสูงและเลิกเลี้ยงกันไป
ในยุคนั้นบ้านผมเริ่มต้นค้าขาย แต่ก็ขายพออยู่ได้ เงินทองในยุคนั้นจัดว่าหายาก ผมยังทันพวกของเล่นพื้นบ้าน และการละเล่นพื้นบ้าน ปิดแอบ กระต่ายขาเดียว ลูกแก้ว ว่าว ม้าก้านกล้วย เสื้อไม่มีเสื้อผ้าสมัยใหม่มากนัก ชุดสองชุดที่ซื้อไว้ใส่ไปงานบวชงานแต่งญาติ ความเจริญไปได้ไกลที่สุดคือตัวเมืองโดยรถเมล์ รถไฟเท่านั้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดต้องการสื่อว่า ยุคนั้นเงินหายาก ข้าวของสมัยใหม่แพง แต่ของกินของใช้ในชีวิตประจำวันถูก เครือญาติทุกคนฐานะไม่ได้ต่างกัน ไม่มีใกว่าใคร ทุกคนถ้อยที่ถ้อยอาศัย ไม่มีการเบียดเบียนแก่งแย่ง ไม่มีเรื่องบาดหมาง ไม่มีการทะเลาะ ยืมเงิน ขัดผลประโยชน์ และที่สำคัญทุกคนมีเวลาว่างมาก ตอนนั้นผมจำได้ว่าครอบครัวผมไปเที่ยวกันบ่อยมาก และไปเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่ หลายครอบครัว
แต่ความสัมพันธ์แบบนี้มันเปลี่ยนไป หลังจากที่ความเจริญ และอุตสาหกรรมเข้ามาในชุมชนผม เงินหาง่ายขึ้น อาชีพให้ทำเยอะแยะ พวกเรามีข้าวของเครื่องใช้ รถ บ้าน มือถือราคาแพงๆใช้ ทำธุรกิจค้าขายกับโรงงานและลูกจ้างในโรงงาน ความขัดแย้งเรื่องเงินๆทองๆมากขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจค้าขายเริ่มมี เริ่มทะเลาะ เริ่มมองหน้ากันไม่ติด เริ่มมีความระแวง มีกำแพงในใจระหว่างกัน เริ่มวางความสัมพันธ์บนผลประโยชน์ เริ่มแบ่งพวกใครพวกมัน
ความสัมพันธ์แบบนี้ทำให้ผมเบื่อบ้าน รู้สึกว่าญาติพี่น้องบ้างคนควรอยู่ห่างๆ สนิทมากก็ไม่เกิดประโยชน์ ความจริงใจแทบไม่มี หรือไม่ต้องสนิมมาก ขอแค่มีเงินทุกคนก็พร้อมที่จะเข้ามา และถ้าไม่มีเงินทุกคนก็พร้อมจะจากไป หรือรู้ว่าเรามีเงินแต่เราไม่พร้อมจะให้ก็ไม่พอใจ ผมเบื่อและไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้เลย บ้านอื่น ครอบครัวอื่นเป็นกันมั้ยครับ